หากพูดถึง Macbook Air ปี 2019 ที่ค่ายแอปเปิลเปิดตัวรอบล่าสุดเป็นรุ่นที่เหมาะกับมือโปร เพราะเป็นการอัปเกรดสเปกครั้งใหญ่ หลังจากใช้สเปกเดิม ๆ มานับทศวรรษ ที่สำคัญคือการอัพเดตครั้งนี้ยังปรับลดราคาสบายกระเป๋าด้วย ช่วยให้คนงบประมาณน้อยหรือนักศึกษาสามารถเอื้อมถึง ในราคาเริ่มต้น 31,900 บาทเท่านั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับโน้ตบุ๊กคู่แข่งใกล้เคียงกันอย่าง Dell xps 13 ปี 2019 ที่อัปเดตประสิทธิภาพในการทำงานที่เหนือชั้นยิ่งกว่าเดิม มาดูกันว่าสเปกและรูปแบบการใช้งานของรุ่นไหนจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบคุณ
เปรียบเทียบดีไซน์ Macbook Air 2019 vs Dell xps 13
ต้องยอมรับว่า MacBook Air นั้นมีเสน่ห์ล้นเหลือ เป็นโน้ตบุ๊กที่ออกแบบมาให้สมบูรณ์แบบตั้งแต่แรก คนชอบมาก แต่เมื่อค่ายผู้ผลิตเห็นว่า 10 ปีแล้ว ถึงต้องเปลี่ยน จับมาดีไซน์ใหม่ทั้งหมดเป็นครั้งแรก เปรียบเทียบกับ XPS 13 รุ่นนี้ก็เหนือชั้นกว่าใคร นับเป็นสุดยอดคู่ปรับที่ออกแบบได้โดดเด่นที่สุดที่เคยมีมา ยากจะตัดสินใจว่ารุ่นไหนดีกว่า คนซื้อต้องมองเป้าหมายการใช้งานของตนเองเป็นหลัก ชอบคุณภาพและลูกเล่นเฉียบ ๆ มากมายใน Macbook Air หรือพอใจตัวเครื่องบางเฉียบของ XPS 13 เราจะเปรียบเทียบให้เห็นในแง่ของดีไซน์ก่อน
โน้ตบุ๊กทั้งคู่มีจอแสดงผลขนาด 13.3 นิ้ว ตัวเครื่องบอบบางกะทัดรัด มาดูความแตกต่างสเปคของทั้ง 2 รุ่น
MacBook Air
- โครงสร้างอะลูมิเนียมเป็นชิ้นเดียวทั้งเครื่อง
- ตัวเครื่องขนาด 11.97 x 8.36 x 0.61 นิ้ว
- น้ำหนัก 2.75 ปอนด์ หรือ 1.24 กิโลกรัม
- ตัวเครื่องมี 3 เฉดคือสีทอง, สีเงิน หรือสีเทาสเปซเกรย์
- ฝาปิดด้านบนที่เปิดได้ง่ายด้วยบานพับแบบใหม่
Dell xps 13
- ฝาหลังจอเป็นอะลูมิเนียม ปรับโฉมต่างจากรุ่นก่อน
- ที่พักมือคาร์บอนไฟเบอร์ดูเหนือชั้นกว่ารุ่นทั่วไป
- ตัวเครื่องขนาด 11.98 x 7.88 x 0.6 นิ้ว
- น้ำหนักเบา 2.7 ปอนด์ หรือ 1.22 กิโลกรัม
- สีตัวเครื่องมี 2 เฉดคือ สีเงิน และ สีทองกุหลาบหรือโรสโกลด์ เนื้อสีวาวดูหรูหรา
หากคุณจำเป็นต้องใช้โน้ตบุ๊กระหว่างเดินทาง ทั้งสองรุ่นเป็นตัวเลือกที่ดี ถือมือเดียวก็ได้ พกพาใส่กระเป๋าก็ง่าย ตัวเครื่องของ MacBook Air นั้นบางกว่าของ XPS 13
แม้จะใช้หน้าจอขนาดเดียวกัน แต่คุณสมบัติของหน้าจอแสดงผลแตกต่างอย่างเด่นชัด Macbook Air ใช้หน้าจอ Retina แบบไม่สัมผัสคมชัดระดับ 2,560 x 1,600 พิกเซล ส่วน XPS 13 รุ่นเริ่มต้นใช้หน้าจอแบบไม่สัมผัสคมชัดระดับ 1080 พิกเซล สามารถอัปเกรดเป็นหน้าจอสัมผัสได้ ดีกว่านั้นคืออัปเกรดเป็นหน้าจอที่มีความละเอียดสูงอย่างจอ 4K ได้ ทำให้หน้าจอมีค่าความสว่างและค่าคอนทราสต์เหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า MacBook Air แต่ถ้ามองเรื่องความแม่นยำของสีก็แทบไม่ต่างกันเลย มีอัตราส่วนจอ 16: 9 เหมาะสำหรับดูวิดีโอ แต่สำหรับคนใช้งานระดับมือโปรจะพอใจอัตราส่วนจอ 16:10 ของ MacBook Air มากกว่า
เปรียบเทียบกันในแง่ประสิทธิภาพแป้นพิมพ์ รุ่น XPS 13 ใช้งานได้สะดวกสบายและมีความทนทาน สำหรับ MacBook Air ปรับดีไซน์แป้นพิมพ์ใหม่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 เป็นคีย์บอร์ดแบบ Butterfly ที่ฐานปุ่มกดตื้นและนิ่มกว่า พิมพ์งานได้รวดเร็วแต่อาจมีปัญหาเวลากดแล้วปุ่มติด
เปรียบเทียบประสิทธิภาพการใช้งาน
หากมองในแง่ประสิทธิภาพ ทั้งสองรุ่นใช้โปรเซสเซอร์ของ Intel รุ่นที่ 8 ความเร็วอยู่ที่ 1.6GHz เท่ากัน แต่ชิปเซ็ตแตกต่างกัน ในเครื่อง XPS 13 จะใช้ Quad-core Whiskey Lake หน่วยความจำสูงสุด 16GB และการ์ดจอ UHD Graphics 620 ส่วน Macbook Air ใช้โปรเซสเซอร์ Dual-Core เลือกหน่วยความจำได้ 2 เวอร์ชั่นคือ 8GB หรือ 16GB พื้นที่เก็บข้อมูลความจุตั้งแต่ 128GB ถึงสูงสุด 1.5TB มาพร้อมการ์ดจอ UHD Graphics 617 ดูจากภาพรวมเหมือนว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน แต่การทดสอบตามเกณฑ์มาตรฐาน ต้องยกนิ้วให้ XPS 13 ที่ประมวลผลเร็วกว่า โดยเฉพาะในด้านการดูวิดีโอของจอ 4K
ค่ายแอปเปิลระบุว่าชั่วโมงการทำงานของ MacBook Air เป็นไปตามมาตรฐานของแอปเปิลคือใช้ท่องเว็บแบบไร้สายยาวนานถึง 12 ชั่วโมง หรือเล่นหนัง iTunes นานถึง 13 ชั่วโมง แต่ลองทดสอบการใช้งานจริงพบว่าท่องเว็บได้ประมาณ 8 ชั่วโมง แต่ยังคงเหนือกว่าเครื่อง XPS 13 ที่ทดสอบแบบเดียวกันใช้ท่องเว็บได้ 6.7 ชั่วโมงและดูวิดีโอได้นาน 7 ชั่วโมง
เปรียบเทียบข้อมูลให้ทราบกันคร่าว ๆ แล้ว คำถามที่ว่าสเปกไหน รุ่นไหนดี ตอบว่าตัดสินใจซื้อตามความพอใจดีที่สุด XPS 13 เป็นตัวเลือกระดับเริ่มต้นที่ดีกว่า ราคาเริ่มต้น 32,000 บาทโดยประมาณ สำหรับคนที่ใช้ MacOS หรือ iPhone อยู่แล้ว การอัปเกรดเป็น Macbook Air น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี จะเล่นเพลงหรือวิดีโอจากสมาร์ทโฟน iOS ก็ทำได้ง่าย รุ่นเริ่มต้นราคา 35,900 บาท และราคานักศึกษา 31,900 บาท เห็นว่าราคาแทบไม่ต่างกันเลย ถ้าต้องการสเปกสูงระดับไฮเอนด์ ราคาก็แพงขึ้นไปตามลำดับ เช่น หน้าจอคมชัดระดับ 4K สนนราคาอยู่ระหว่าง 60,000-70,000 บาท
