
วันตรุษจีน ถือได้ว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน และชาวจีนทั่วโลกเนื่องจาก วันนั้นเปรียบเสมือนวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินของชาวจีนนั่นเอง และในแต่ละแห่งก็จะมีพิธีเฉลิมฉลองสำหรับเทศกาลที่แตกต่างกัน รวมถึงความเชื่อที่ต้องถือปฏิบัติที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน ดังนั้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เรามีแนวทางปฏิบัติกับสิ่งที่เป็นข้อห้ามและควรทำในวันตรุษจีน ลองไปทำความรู้จักวันพิเศษนี้ให้มากขึ้นกันได้เลย
วันตรุษจีนคืออะไร?
ตามความเชื่อนั้น วันตรุษจีน เป็นประเพณีที่มีมานานกว่าสี่พันปี และเป็นการจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งในช่วงนั้นไม่ได้ถูกเรียกว่าเทศกาลตรุษจีน แต่จะมีชื่อเรียกกันแตกต่างไปตามยุคสมัย ในภาษาจีนเทศกาลนี้เรียกว่า ชุนเจี๋ย หรือ วันชุงเจ๋ อีกด้วย
สำหรับการเตรียมงานเพื่อเฉลิมฉลองในวันนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มประดับและตกแต่ง รวมทั้งทำความสะอาดบ้านกันก่อนถึงวันตรุษของจีนประมาณ 1 เดือน โดยเป็นเรื่องของความเชื่อที่ว่า เป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป นอกจากนี้ก็ยังมีการตกแต่งส่วนต่างๆ ของบ้านด้วยสีแดง เพราะสีแดงมีความหมายถึงความร่ำรวย อายุยืน และการอยู่ดีมีสุข
โดยการกำหนดการณ์วันตรุษของจีนนั้น ตามประเพณีจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย ในวันที่ 1 เดือน 1 นั้น ชาวจีนจะให้ชื่อว่าวันชิวอิก ซึ่งหมายถึงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ โดยในเทศกาลนี้ในบ้านเรา จะแบ่งออกเป็น 3 วันคือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว
ความเข้าใจเกี่ยวกับ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว
วันจ่าย คือวันที่คนไทยเชื้อสายจีน ซื้อของ เพื่อเตรียมของไหว้เทพเจ้า เช่น อาหาร ผลไม้ ก่อนร้านค้าหยุดยาว ช่วงนี้ในตลาดจะมีการขายของกันอย่างคึกคัก
วันไหว้ คือวันที่แสดงความเคารพต่อเทพเจ้าด้วยการไหว้ผลไม้ และ อาหารต่างๆ การไหว้ตามช่วงเวลาต่างๆ ก็มีความหมายนะ
- ตอนเช้ามืด ไหว้ “ป้ายเล่าเอี๊ย” ถือเป็นการไหว้เทพเจ้า เครื่องไหว้ที่ต้องมีคือ หมู, เป็ด, ไก่ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ เหล้าหรือน้ำชา และกระดาษเงิน กระดาษทอง
- ตอนสาย ไหว้”ป้ายแป๋บ้อ” ถือเป็นการไหว้บรรพบุรุษ เครื่องไหว้จะเป็นของคาวหวาน และมีการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง หรือสิ่งของ เสื้อผ้าต่างๆ
- ตอนบ่าย ไหว้ “ป้ายฮ่อเฮียตี๋” เป็นการไหว้ผีพี่น้อง หรือผีไร้ญาติ เครื่องไหว้จะเป็นขนมเข่ง ขนมเทียน และเผากระดาษเงิน กระดาษทอง และมีการจุดปรัทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้าย
ทริคเล็กๆ ความหมายของกระดาษไหว้เจ้าที่ต้องรู้
วันเที่ยว หรือ “วันถือ” ซึ่งในปี 2562 จะตรงกันวันที่ 5 กุมภาพันธ์ วันนี้จะงดการทำบาป หรือสิ่งที่ไม่เป็นมงคล หลายๆ ครอบครัวเชื้อสายจีนจะแต่งตัวสวยงาม ใส่ชุดแดง หรือทอง ซึ่งถือว่าเป็นสีมงคลนั่นเอง
ความหมายของการไหว้ตรุษจีน อาหาร ผลไม้ และขนม
สำหรับของไหว้ที่จะใช้ในการไหว้เทพเจ้านั้น มีทั้งของคาวและของหวาน ซึ่งแต่ละสิ่งนั้นก็ล้วนมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป โดยความหมายของไหว้ในวันตรุษของจีนแต่ละสิ่งนั้น ได้แก่
ความหมายของผลไม้ในวันไหว้
- แอปเปิ้ล หมายถึง สันติสุขและความสงบสุข
- สาลี่ หมายถึง โชคลาภ
- ส้ม หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล
- กล้วย หมายถึง โชคลาภ และลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
- องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน มั่งคั่ง
- สัปปะรด หมายถึง มีโชคเข้ามาหา
ความหมายอาหารไหว้
- เป็ด หมายถึง ความสะอาด บริสุทธิ์
- ปลา หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ เหลือกินเหลือใช้
- ไก่ หมายถึง ยศ ความเจริญก้าวหน้า ความขยันขันแข็ง และความสง่างาม
- หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้
- ปลาหมึก หมายถึง เหลือกินเหลือใช้
- หมี่ซั่วหรือบะหมี่ยาว หมายถึง อายุยืนยาว
- เม็ดบัว หมายถึง การมีบุตรชายจำนวนหลายคน
- ถั่วตัด หมายถึง แท่งเงินแท่งทอง
- สาหร่ายทะเล หมายถึง ความมั่งคั่งร่ำรวย
- หน่อไม้ หมายถึง ความร่ำรวยผาสุก
ความหมายขนมไหว้
- ขนมเทียน หมายถึง ความราบรื่น
- ขนมเข่ง หมายถึง ความราบรื่นในชีวิต
- ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความรุ่งเรือง เฟื่องฟู
- ขนมไข่ หมายถึง ความเจริญเติบโต
- ขนมสาลี่ หมายถึง ความรุ่งเรือง
- ซาลาเปา หรือหมั่นโถว หมายถึง โชคลาภ
ข้อห้ามที่ไม่ควรทำ
ถึงแม้ว่าจะเป็นวันมงคลของชาวจีนก็ตาม แต่ก็ยังมีเรื่องที่เป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งไม่ควรทำในช่วงวันตรุษของจีนกันด้วย เพื่อนๆ ที่ยังไม่ทราบว่า สิ่งใดไม่ควรทำบ้าง ลองมาดูกันเลย
- ห้ามทำความสะอาดบ้าน ตามความเชื่อของชาวจีนนั้น ถือว่า การทำความสะอาดบ้าน หรือการนำขยะไปทิ้งในช่วงวันตรุษของจีนนั้น ถือเป็นการนำโชคลาภ และเงินทองออกไปจากบ้าน ซึ่งหากจะทำความสะอาดจริงๆ ก็ควรจะทำล่วงหน้าก่อนตรุษจีนหนึ่งวัน
- ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะกับใคร การพูดคำหยาบหรือสิ่งไม่ดีนั้น จะนำเรื่องไม่ดี และความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี ซึ่งรวมทั้งการทะเลาะกับผู้อื่นด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีความเชื่อที่ว่า ห้ามพูดหรือกล่าวถึงเลข 4 เพราะมีการออกเสียงคล้ายกับคำว่า “ตาย” ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดถึงด้วย
- ห้ามตัดหรือสระผม ชาวจีนนั้นจะไม่ตัดหรือสระผมกันตั้งแต่เริ่มวันตรุษของจีน ซึ่งบางคนก็ไม่สระผมไปสามวันเลยทีเดียว เพราะคำว่า “ผม” นั้น เป็นคำพ้องเสียงที่ตรงกับคำว่า “มั่งคั่ง” ทำให้การตัดหรือสระผมในวันตรุษของจีนนั้น เป็นเหมือนการตัดความมั่งคั่งที่กำลังจะเข้ามาออกไป
- ห้ามซักผ้า มีความเชื่อที่ว่า เทพเจ้าแห้งน้ำนั้นเกิดในวันตรุษของจีน ทำให้การที่เราซักผ้าในวันตรุษของจีนนั้น เป็นเหมือนการลบหลู่เทพเจ้านั่นเอง
- ห้ามทำของแตก การทำของแตกในวันตรุษของจีนนั้น หมายถึงลางร้ายที่บ่งบอกว่า อาจจะเกิดการแตกแยกกันในครอบครัว หรือมีคนในครอบครัวเสียชีวิตได้
- ห้ามยืมเงินและห้ามให้ยืมเงิน ตามความเชื่อบอกไว้ว่า การให้ยืมเงินในวันตรุษของจีนนั้น จะทำให้มีคนเข้ามายืมเงินตลอดทั้งปี รวมทั้งหากติดเงินใครไว้ ก็ต้องรีบคืนก่อนถึงวันตรุษของจีน เพราะไม่อย่างนั้น ก็จะมีหนี้สินตลอดทั้งปี
- ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่นและห้ามคนอื่นเข้ามาในห้องนอน ตามความเชื่อนั้นถือว่า หากเข้าไปห้องนอนของใครหรือมีใครเข้ามาในห้องนอน โดยคนนั้นไม่ใช่เจ้าของบ้าน จะเป็นการนำโชคร้ายเข้ามาสู่คนในบ้านตลอดทั้งปี
- ห้ามใช้ของมีคม ของมีคมไม่ว่าจะเป็น มีด หรือกรรไกร และอื่นๆ ที่สามารถใช้ในการตัดขาดจากกันได้ ตามความเชื่อถือว่าจะเป็นการตัดสิ่งดีๆ ออกไปจากชีวิต
- ห้ามร้องไห้ คนจีนนั้นถือว่า การร้องไห้ในวันตรุษของจีนนั้น จะเป็นการทำให้พบกับสิ่งไม่ดี เรื่องไม่ดี และปัญหาที่ทำให้ต้องเสียใจได้ตลอดทั้งปี
- ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คำว่ารองเท้าในภาษาจีนนั้นออกเสียงว่า “Hai” ซึ่งจะคล้ายกับการถอนหายใจ ทำให้การซื้อรองเท้าใหม่นั้น ถือว่าเป็นการรับสิ่งไม่ดีเข้ามาสู่ตัวเอง
- ห้ามใส่ชุดสีขาวและดำ สีขาวและสีดำนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความตาย การใส่เสื้อผ้าสีขาวและดำจึงถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
- ห้ามทานเนื้อสัตว์และโจ๊ก มีความเชื่อที่ว่า เทพเจ้าที่ลงมาในเช้าของวันตรุษของจีนนั้นเป็นมังสวิรัติ ทำให้บางคนเลือกที่จะไม่รับประทานเนื้อสัตว์กันในเช้าวันตรุษของจีน รวมทั้งการรับประทานโจ๊กในเช้าวันตรุษของจีนก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอีกด้วย เพราะถือว่าจะขัดขวางความร่ำรวยที่จะเข้ามาในปีนี้
ข้อควรปฏิบัติในวันตรุษจีน
วันตรุษของจีนนั้นจะมีสิ่งที่ยึดถือปฏิบัติกันมายาวนาน ซึ่งนอกจากข้อห้ามแล้ว ยังมีสิ่งที่ควรปฏิบัติในวันตรุษของจีนอีกด้วย เช่น การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยงามและมีสีแดง เพราะถือว่าเป็นการต้อนรับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตและเพื่อความเป็นมงคล รวมทั้งการงดทำบาปทุกประการ และการใช้จ่ายเฉพาะในวันจ่ายโดยจะเป็นการใช้จ่ายในการซื้อของเพื่อเตรียมไหว้เทพเจ้าต่างๆ ซึ่งวันที่จะใช้จ่ายเงินในการท่องเที่ยวนั้น จะอยู่ในวันเที่ยวเท่านั้น ทั้งนี้ก็ยังมีการร่วมรับประทานอาหารกันในครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เพื่อกล่าวคำอวยพรให้แก่กัน ซึ่งก็ยังเป็นอีกสิ่งที่ควรปฏิบัติกันในวันตรุษของจีนอีกด้วย
บทส่งท้าย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวที่น่ารู้เกี่ยวกับวันตรุษของจีน ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นวันสำคัญของชาวจีนเท่านั้น แต่ชาวไทยเชื้อสายจีนหลายคนก็ให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน โดยการยึดถือธรรมเนียม ประเพณี รวมทั้งความเชื่อต่างๆ เพื่อปฏิบัติตามกันมาอย่างยาวนานจวบจนถึงปัจจุบัน