
หากจะพูดถึงสิทธิประโยชน์ที่ประกันภัยรถยนต์มีให้ เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้ความคุ้มครองต่างๆดีกันอยู่แล้ว แต่เคยคิดหรือไม่คะว่า ในกรณีที่เกิดความเสียหายกับรถยนต์ของเรา และเป็นความเสียหายที่ต้องนำรถเข้าอู่ซ่อมและใช้ซ่อมนานเพื่อที่จะทำให้รถของเราสามารถกลับมาใช้งานได้ตามเดิม และระหว่างที่รถยนต์ของเราอยู่ในอู่ซ่อมนั้น เราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายส่วนนั้นจากใครได้บ้าง เรามีคำตอบค่ะ
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร
ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ หมายถึง ในกรณีที่รถยนต์ของเราเกิดอุบัติเหตุ และเราเป็นฝ่ายถูก เราจึงมีสิทธิ์เรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้ (ในกรณีที่รถยนต์ของคู่กรณีมีประกันอยู่แล้ว) ซึ่งบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณีจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถนี้แทนคู่กรณี
ในกรณีที่บริษัทประกันของคู่กรณีไม่มีการจ่ายค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ คุณต้องทำหน้าที่ติดตามจากคู่กรณี เพื่อให้คู่กรณีตามกับบริษัทประกันของคู่กรณีเอง และนอกจากค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถแล้ว คุณยังสามารถเรียกร้องค่าเสื่อมราคาจากการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วยนะคะ

เรื่องที่ไม่ควรมองข้ามหากต้องการเรียกร้องค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ
- เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ให้ถ่ายรูปเก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการชน ความเสียหายที่เกิดขึ้น ถ่ายไว้ให้ครบทุกอย่าง รูปถ่ายนี้นอกจากจะสามารถใช้เป็นเอกสารเรียกค่าขาดผลประโยชน์แล้ว ยังสามารถใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่คู่กรณีไม่ยอมรับผิดอีกด้วยค่ะ
- เมื่อเจ้าหน้าที่ประกันมาถึงจุดเกิดเหตุ มีการแจกใบเคลมเรียบร้อย (คุณกรอกเอกสารเรียบร้อยแล้ว) เราแนะนำให้ถ่ายเอกสารใบเคลมของคู่กรณีไว้ ในกรณีที่ไม่สะดวกถ่ายเอกสาร ก็ให้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปส่วนหัวของเอกสารการเคลมคู่กรณีไว้ค่ะ
- สิ่งสำคัญคือ คุณต้องถ่ายให้เห็นหมายเลขใบเคลม และ สถานที่ออกใบเคลมของเจ้าหน้าที่ประกันให้ชัดเจนด้วยนะคะ และนอกจากถ่ายเอกสารใบเคลมของคู่กรณีแล้ว ก็ให้ถ่ายเอกสารใบเคลมของเราไว้ก่อนที่จะเอาใบเคลมยื่นให้อู่ตอนนำรถเข้าซ่อมด้วยนะคะ
- ถ่ายเอกสารหลักฐานไว้ให้ครบทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น วันที่เอารถเข้าอู่ซ่อม ใบแจ้งซ่อม รวมถึงวันที่รับรถ (เอกสารระบุวันรับรถ) ให้ชัดเจน
- เมื่อ รถยนต์ ของเราดำเนินการซ่อมเสร็จแล้ว ให้ขอ เอกสารรายละเอียดการซ่อม ใบแจ้งซ่อมรถ เอกสารส่งรถ และต้องเป็นเอกสารระบุวันที่อย่างชัดเจน
สิ่งที่ต้องทำเมื่อรถยนต์ของคุณเกิดอุบัติเหตุ (เบื้องต้น)
การรวบรวมค่าใช้จ่ายระหว่างรอรถซ่อม
ในกรณีนี้คือ การรวบรวมค่าใช้จ่ายที่คุณต้องเสียไปในระหว่างที่รถยนต์ของคุณซ่อมอยู่นั่นเองค่ะ ค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้ได้แก่
- ค่าเดินทางที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีรถขับ
- รายได้ที่ขาดหายไปเนื่องจากไม่มีรถในใช้ในการประกอบอาชีพ เช่น ขับแท๊กซี่ ใช้รถในการรับจ้างต่างๆ
- ค่าเสื่อมสภาพที่อาจมี ในกรณีที่บริษัทประกันทำการซ่อมอะไหล่เก่าแทนการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่
- หลักฐานของการใช้จ่ายต่างๆ เช่นใบเสร็จรับเงินในกรณีต่างๆ หลักฐานในส่วนนี้จะทำให้การเรียกร้องของคุณมีน้ำหนักมากขึ้นค่ะ
ขั้นตอนการเรียกค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ แจ้งกับบริษัทประกันของคู่กรณีว่าคุณต้องการดำเนินการเรียกร้องค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม ในกรณีที่บริษัทประกันของคู่กรณีไม่ปฎิเสธ คุณสามารถส่งเอกสารต่างๆให้เจ้าหน้าที่บริษัทประกันของคู่กรณีได้เลยค่ะ เอกสารที่ต้องใช้ได้แก่
- หนังสือแจ้งความประสงค์ที่จะเรียกร้องค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ พร้อมเอกสารค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น (ใบเสร็จรับเงินต่างๆ)
- สำเนาใบเคลมและรายละเอียดการซ่อมรถ รวมถึงเอกสารระบุวันรับรถและส่งคืนรถ
- สำเนาใบเคลมหรือรูปถ่ายใบเคลมของคู่กรณี
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาหน้ากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของเรา (เซ็นสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย)
- สำเนาทะเบียนรถ
เมื่อส่งเอกสารทั้งหมดให้แก่บริษัทประกันของคู่กรณีแล้ว คุณควรสอบถามเจ้าหน้าที่บริษัทประกันของคู่กรณีด้วยว่า เอกสารต่างๆครบถ้วนหรือไม่ รวมถึงผู้รับผิดชอบ เพื่อที่จะได้ติดตามความคืบหน้าให้สะดวกมากขึ้นค่ะ
โดยส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันของคู่กรณีมักจะมีการต่อรองราคาค่าเสียหาย ซึ่งรายละเอียดตรงนี้จะขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้วค่ะว่า พอใจมากน้อยแค่ไหน ในการรับเงินค่าชดเชย บริษัทประกันแต่ละแห่งจะมีการจ่ายค่าชดเชยที่แตกต่างกัน บางบริษัทจ่ายเป็นเช็ค บางบริษัทจ่ายเป็นเงินสด หรือโอนเงินเข้าบัญชี ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณและเงื่อนไขของบริษัทประกันนั่นเองค่ะ
และนี่ก็เป็นบทความสาระดีๆ จากทาง rabbit finance ที่เอามาฝากชาว Priceza นะคะ เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้รถเองแล้ว เราก็ต้องรักษาสิทธิ์ไว้นะคะ แล้วรอบหน้าจะมาบอกเล่าเรื่องราวดีๆ อีกค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เคล็ด(ไม่)ลับง่ายๆ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ก่อนตัดสินใจซื้อ
- รถเสียกลางทาง โทรเรียกประกันมาช่วยได้ไหม
- เลือกประกันรถยนต์แบบ ระบุชื่อ vs ไม่ระบุชื่อ แบบไหนที่คุ้มสุด?