สำหรับใครที่เกิดความลังเลใจ จะเลือกซื้อมือถือใหม่ ระหว่าง Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone Xs Max ที่ล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นท็อปที่ป็อปปูลาร์มาก แต่เลือกไม่ถูกสักที วันนี้เค้ามี สเปค ฟีเจอร์ จุดเด่น จุดสังเกต และความน่าสนใจของทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบกัน แบบชัด ๆ ชนิดที่อ่านจบปั๊ปเดินไปที่ช้อปได้เลยทันทีมาฝากกันจ้า
รู้ไว้ก่อนดีกว่า : บทความนี้อาจจะมีความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนที่อิงจากประสบการณ์การใช้งานร่วมอยู่ด้วยนะจ้ะ
ตารางเปรียบสเปค Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone Xs Max
โดยในการเปรียบเทียบครั้งนี้เราจะแบ่งเป็นทั้งหมด 8 จุด ได้แก่
- ดีไซน์และการออกแบบ
- หน้าจอ
- กล้องหลังและกล้องหน้า
- ประสิทธิภาพในการทำงานประมวลผล
- เสียง
- การเชื่อมต่อและความปลอดภัย
- แบตเตอรี่และการชาร์จ
- ราคา
เปรียบเทียบดีไซน์
เริ่มกันที่ดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลย ทั้งสองรุ่นมีความสวยงามคนละแบบแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน วัสดุฝาหลังตัวเครื่องเป็นกระจกเหมือนกัน แต่ใน Samsung Galaxy S10 Plus จะมีรุ่นพิเศษที่ฝาหลังเป็นเซรามิก ทนทานกว่า ขอบข้างของ Samsung จะเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ ส่วน iPhone จะเป็นสแตนเลสขัดเงาที่ดูแพงกว่า
เรื่องขนาดเครื่องและน้ำหนักนั้นก็มีหลายคนให้ความสำคัญไม่น้อย เพราะมันเกี่ยวข้องในเกี่ยวกับความสะดวกในการพกพา ซึ่งขนาดของ S10+ นั้นอยู่ที่ 157.6 x 74.1 x 7.8 มม. ในขณะที่ iPhone XS Max นั้นมีขนาดตัวเครื่องที่ 157.5 x 77.4 x 7.7 มม. เรียกได้ว่าขนาดไม่ต่างกันมากนัก แต่เรื่องน้ำหนักนี่จะเห็นความต่างชัดเจนเลย ใน S10+รุ่นปกติจะหนัก 175 กรัม (เซรามิก 198 กรัม) จะเบากว่า XS Max ที่หนักหนัก 205 กรัม
สีสันตัวเครื่อง S10 Plus จะมีมาทั้งหมด 5 สี คือ สีขาว Prism White, สีดำ Prism Black, สีเขียว Prism Green, สีดำ Ceramic Black สีขาว Ceramic White ส่วน iPhone XS Max จะมีทั้งหมด 3 สี คือ
คำตัดสิน : เรื่องดีไซน์เฟมตัดสินให้ทั้งสองรุ่นเสมอกัน เพราะว่ามันมีความสวยกันคนละแบบ
เปรียบเทียบหน้าจอ
สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนสุด ๆ ก็คือเรื่องของดีไซน์หน้าจอที่ต่างกันคนละขั้วในแง่ของดีไซน์ เครื่องหนึ่งมีติ่ง(กล้อง)กลางจอ อีกเครื่องมีรู(กล้อง)บนหน้าจอ
สำหรับหน้าจอ S10+ เป็นแบบ Infinity-O เจาะรูกล้องคู่บริเวณหน้ามุนขวา ชนิด Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2K (สามารถปรับความละเอียดเป็น HD+, Full HD+ ได้ในเมนูการตั้งค่า) ในขณะที่ iPhone XS Max จะมีติ่งกล้องหน้าที่ขอบบนจอ เป็นจอ Super Retina มีขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2K ใหญ่กว่า S10+ เล็กน้อย
ในแง่ของเทคโนโลยี Samsung จะมีแต้มต่อเหนือกว่าเพราะเป็นผู้ผลิตเองและออกมาทีหลัง เลยทำให้ใส่อะไรดี ๆ ใหม่ ๆ ได้เยอะกว่า เช่น การรองรับเทคโนโลยีแสดงผลภาพที่ใหม่กว่าอย่าง HDR10+ ในขณะที่ iPhone จะรองรับแค่ HDR10 แต่ถามว่าต่างกันมากมั้ย เฟมรู้สึกว่า ณ ตอนนี้มันยังไม่มีผลอะไรกับการชมสักเท่าไหร่เพราะว่าคอนเทนต์ที่รองรับ HDR10+ ยังมีไม่เยอะ
หน้าจอ S10 Plus ถูกปรับแต่งให้แสงสีฟ้า (Bluelight) ที่เป็นอันตรายต่อดวงตาลดลง 40% มาตั้งแต่โรงงาน ทำให้อันตรายจากการใช้งานนาน ๆ มีน้อยกว่า ถึงอย่างนั้นทั้งสองรุ่นก็ยังมีโหมดถนอมสายตามาให้ และถ้าไม่พอใจสีจอดั้งเดิมก็สามารถปรับแต่งเพิ่มได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการปรับความเหลือง-ฟ้า (Warm) หรือความอิ่มสี (Hue) แต่ถ้าเอาแบบค่าดั้งเดิม ๆ S10+ จะมีสีสันที่สดใสกว่า
ในเรื่องการติดกระจกกันรอย ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ S10+ เป็นรอง iPhone อยู่ เนื่องจากเป็นจอแบบโค้งซึ่งหากระจกติดยาก และกระจกมีราคาแพงกว่า iPhone XS Max พอสมควรเลยแหละ รวมไปถึงการโค้งของจอมักชอบทำให้เกินเหตุการณ์มือลั่นอยู่บ่อย ๆ นอกจากนี้ในฟังก์ชั่นอื่น ๆ บนจอ iPhone จะรองรับฟีเจอร์ รองรับแรงกด 3D Touch ที่ช่วยควบคุมแอปพลิเคชั่นได้ง่ายขึ้น
คำตัดสิน : เฟมให้จอ iPhone ชนะไปด้วยเหตุผลเรื่องความกลมกล่อมของเทคโนโลยี การแสดงผลภาพ และการหาฟิล์มกระจกกันรอยมาติดที่ง่ายกว่า
เปรียบเทียบกล้อง
มันดีงามเหลือเกินคุณขา ไม่ว่าจะเป็น S10+ หรือ Xs Max ต่างก็แสดงผลงานด้านการถ่ายภาพได้ดีกันทั้งคู่ ในส่วนของ Samsung ที่ให้กล้องมา 3 เลนส์คือ เลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล f/1.5-2.4 26mm (wide) พร้อมกันสั่น | ขนาดเซ็นเซอร์ 1.4µm เลนส์เทเล 12 ล้านพิกเซล f/2.4, 52mm (telephoto), 1.0µm ซูมสองเท่า และเลนส์ Ultrawide 123 องศา 16 ล้านพิกเซล
f/2.2, 12mm (ultrawide), 1.0µm พร้อมกันสั่น แล้ว iPhone ให้กล้องหลังคู่ เลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล f/1.8, 26mm 1.4µm และเลนส์เทเล
12 ล้านพิกเซล f/2.4, 52mm (telephoto) ซูม 2 เท่าพร้อมกันสั่น
**มีความเห็นส่วนตัวผสมอยู่
กล้องหลัง
ถ้ามองเรื่องคุณภาพของภาพและวิดีโอที่ช่อง Youtube ZONEofTECH ได้เอามาเปรียบเทียบให้ดู เฟมมองว่าทั้ง 2 รุ่นทำได้ดีเลยแหละ ทั้งในเรื่องความคมชัดและสีสัน แต่ iPhone จะให้สีที่ตรงกับตาเห็นมากกว่า ส่วน Samsung จะมีการเร่งคอนทราสต์ภาพที่เยอะกว่าทำให้บางภาพดูไม่เหมือนจริง และรวมไปถึงเรื่องไวท์บาเลนส์จะติดเหลืองมากกว่า
ในที่แสงน้อยเรื่องความสว่างและนอยส์ของภาพ S10+ จัดการได้ดีกว่า แต่เรื่องสี XS Max ยังคงความสมจริงได้มากกว่า
สำหรับการถ่ายวิดีโอ จากคลิปจะเห็นว่า การกันสั่นของทั้งไอโฟนและซัมซุงทำได้ดีพอ ๆ กัน แต่ในซัมซุงจะมีโหมด Supersteady ที่ทำให้การกันสั่นทำได้ดีกว่า แต่แลกมาด้วยคุณภาพวิดีโอที่ถูกจำกัดเพียง 1080p 30fps
กล้องหน้า
กล้องหน้าของซัมซุง S10+ จะเป็นเลนส์คู่มุมกว้าง 10 ล้านพิกเซล f/1.9 และ 8 ล้านพิกเซล f/2.2 มีเซ็นเซอร์ สามารถถ่ายวิดีโอ 4K @30fps ได้ , Live Focus หน้าชัดหลังเบลอ (ปรับระดับความเบลอได้) และมีบิวตี้โหมด
กล้องหน้าไอโฟน Xs Max ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล f/2.2 รองรับ HDR, Portrait mode (ปรับระดับความเบลอได้)
คำตัดสิน : เรื่องกล้องเฟมให้เสมอกัน เนื่องจากการถ่ายภาพของทั้งสองรุ่นมีความสวยงามไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับมุม สภาพแสง ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้มีเอนเอียงใจไป S10+ เล็กน้อยในเรื่องการปรับแต่งที่สามารถทำอะไรได้มากกว่า
เปรียบเทียบประสิทธิภาพในการทำงานประมวลผล
ขุมพลังภายใน กาแล็คซี่เอสสิบ มาจากชิปประมวลผล Exynos 9820 สถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร แบบ Octa-core เร็ว 2.73 GHz และปริมาณ RAM ที่เริ่มต้น 8 GB สูงสุด 12 GB รันบน Android Pie 9.0 ส่วนทาง ไอโฟนสิบเอสแม็กซ์ มาจากชิปประมวลผล Apple A12 Bionic สถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตร Hexa-core 2.5 GHz ที่เร็วแรงยืน 1 เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาและยังคงแรงไม่ยั้งข้ามปี RAM 4 GB* ซึ่งชิปของทั้งสองรุ่นได้นำ AI เข้ามาช่วยร่วมในการประมวลผลด้วย ทำให้ชิปมีการจัดการอะไรต่าง ๆ ที่ฉลาดและทรงประสิทธิภาพมาก
*ปริมาณ RAM ของ iPhone แม้จะน้อยกว่า Samsung แต่ด้วยการทำงานของระบบปฏิบัติการ iOS ทำให้ลบจุดด้อยข้อนี้ลงได้
คำตัดสิน : เฟมให้เสมอกันจ้า ทั้งการใช้งานทั่วไป ดูหนัง บันเทิง โซเชียล และเล่นเกมกราฟิกสูง ๆ ทั้งสองรุ่นสามารถทำออกมาได้ดีไม่แพ้กันเลยจ้า แต่การเล่นเกมด้วยดีไซน์หน้าจอ S10+ ณ ปัจจุบันยังอาจส่งผลให้บดบังอะไรมากกว่า (ต้องรอเกมอัพเดต)
เปรียบเทียบเสียง
ระดับความดัง ในเลเวลเท่ากันลำโพง รู้สึกว่า iPhone จะดังและมีมิติกว่า แต่พอเปิดฟีเจอร์ Dolby Atmos ใน Samsung จะรู้สึกได้เลยว่ามิติและความดังของ S10+ เพิ่มขึ้นเยอะมาก รวมไปถึงยังสามารถปรับ Equalizer ได้
นอกจากนี้ S10+ ยังรองรับฟีเจอร์ Dual Audio สามารถเล่นไฟล์พร้อมกันให้ไปออกยังอุปกรณ์ 2 ตัวที่แตกต่างกันได้ หรือเลือกเสียงในแต่ละแอปให้ไปเล่นยังอุปกรณ์อื่นได้อีกด้วย
คำตัดสิน : เฟมให้ S10+ ชนะไปด้วยความสามารถในการปรับแต่งเสียงที่ทำอะไรไดเยอะกว่า
เปรียบเทียบการเชื่อมต่อและความปลอดภัย
ทั้ง 2 รุ่นรองรับใช้งาน Wifi Dual band ความถี่ 2.4GHz และ 5.0GHz ได้สบาย ๆ แต่ Galaxy S10+ จะพิเศษกว่าตรงที่เป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่รองรับการเชื่อมต่อ Wifi 6 (802.11ax) ที่รับสัญญาณได้ไกลกว่า เสถียรกว่า และเร็วกว่า Wifi 5 (802.11ac) ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามการจะใช้ความสามารถของ Wifi 6 ได้จะต้องมีเราท์เตอร์ หรือแอคเซสพอยต์ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ด้วยเท่านั้น! ดังนั้นในจุดนี้เฟมยังไม่เห็นว่ามีนัยอะไรเท่าไหร่นัก และสำหรับ Bluetooth เป็นเวอร์ชั่น 5.0 ทั้งคู่
การกันน้ำกันฝุ่น ในเว็บไซต์หลักของทั้ง Apple และ Samsung บอกว่าเป็นมาตรฐาน IP68 เหมือนกัน แต่ iPhone เคลมว่าสามารถกันน้ำที่ระดับความลึก 2 เมตรได้เป็นเวลา 30 นาที ส่วน Samsung เคลมว่ากันได้ที่ระดับ 1.50 เมตร เป็นเวลา 30 นาที ทั้งนี้เราขอแนะนำว่าไม่ควรนำสมาร์ทโฟนทั้งสองเครื่องไปใช้งานในน้ำจะดีกว่า เพราะแม้ว่ามันจะกันน้ำก็จริง แต่หากเกินเหตุไม่คาดฝัน เช่น ซีลยางกันน้ำเสื่อม หรือแรงดันน้ำที่โดนมากกว่าที่รองรับ อาจทำให้น้ำเข้าเครื่อง ซึ่งไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
พอร์ตเชื่อมต่อของ Samsung จะเป็น USB Type-C และมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม.ส่วน iPhone จะใช้เป็นพอร์ต Lighting และไม่มีรูเสียบหูฟัง จะต้องใช้หูฟังที่เป้นหัวไลท์นิ่ง หรือหัวแปลง Lighting to 3.5mm หรือจะต้องใช้หูฟังไร้สาย
ความปลอดภัยของ Samsung Galaxy S10+ จะมี 2 แบบคือ การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ด้วยเซ็นเซอร์ Ultrasonic Fingerprint Scan ที่บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้มันยังไม่ค่อยแม่นยำ เร็วทันใจอย่างที่หวังสักเท่าไหร่ และรองรับการสแกนใบหน้า 2 มิติ ในทางกลับกัน iPhone XS Max จะใช้การสแกนใบหน้าแบบสามมิติ FaceID ที่ใช้หลักการยิงอินฟาเรดที่ปลอดภัยมายังใบหน้าเพื่อตรวจสอบ ทำให้สามารถสามารถสแกนได้แม่นยำแม้ในที่แสงน้อย และปลอดภัยกว่าสแกนหน้าของซัมซุงมาก
คำตัดสิน : ในส่วนนี้เฟมให้ S10+ เป็นผู้ชนะไป ด้วยเรื่องความครบครันของพอร์ตเชื่อมต่อ Type-C ที่เป็นมาตรฐานของอุปกรณ์สมัยนี้ และพอร์ตหูฟัง รวมไปถึงวิธีการปลดล็อคที่มีทางเลือกให้มากกว่า
เปรียบเทียบแบตเตอรี่และการชาร์จ
ดูกันที่ตัวเลขปริมาณแบตเตอรี่ ดูเหมือนว่า Samsung S10 Plus ที่ให้มาถึง 4,100 mAH อึดกว่า iPhone Xs Max ที่ให้มาแค่ 3,174 mAH อย่างเห็นได้ชัด แล้วจากอ้างอิงจาก คลิปทดสอบการใช้งานของ Youtuber Mrwhosetheboss นั้นก็แสดงให้เห็นเป็นเอกฉันท์เลยว่า S10+ ชนะขาดลอย
นอกจากนี้เรื่องการชาร์จ S10+ ยังมีระบบชาร์จไว 15W ชาร์จไร้สายแบบเร็ว 15W และฟีเจอร์ PowerShare ที่สามารถชาร์จไฟไร้สายให้กับอุปกรณ์ที่รองรับ Qi Wireless Charge ได้อีกด้วย ในขณะที่ iPhone Xs ก็รองรับการชาร์จไร้สาย และมีระบบชาร์จไว 15W เหมือนกัน รองรับการชาร์จ PD เพียงแต่จะต้องซื้ออแดปเตอร์และสายแยกเองไม่มีแถมในกล่องแพ็คเกจ แล้วที่สำคัญ Samsung มีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ทำให้อุณหภูมิเมื่อใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ ไม่สูงมาก ซึ่งข้อดีคือเมื่อสมาร์ทโฟนร้อนมาก ๆ จะมีการปรับลดประสิทธิภาพการทำงานลง แต่ระบบนี้ระบายความร้อนนี้จะทำให้ลดความเสี่ยงการเกิดสถานการณ์ดังกล่าวได้
คำตัดสิน : ในหมวดนี้เฟมให้ S10+ ชนะแบบไร้ข้อกังขาจ้า
เปรียบเทียบราคา Samsung Galaxy S10 Plus กับ iPhone Xs Max
ราคา Samsung Galaxy S10 Plus
- รุ่น Ram 8GB / 128GB ราคา 35,900 บาท ราคาดีที่สุด 21,400 บาท
- รุ่น Ram 8GB / 512GB ราคา 44,900 บาท ราคาดีที่สุด 26,400 บาท
- รุ่น Ram 12GB / 1TB ราคา 55,900 บาท ราคาดีที่สุด 35,900 บาท
ราคา Apple iPhone Xs Max
- รุ่นความจุ 64GB ราคา 43,900 บาท ราคาดีที่สุด 29,500 บาท
- รุ่นความจุ 256GB ราคา 49,900 บาท ราคาดีที่สุด 29,000 บาท
- รุ่นความจุ 512GB ราคา 57,900 บาท ราคาดีที่สุด 48,000 บาท
คำตัดสิน : ในหมวดนี้เฟมให้ S10+ ชนะเนื่องจากเมื่อพิจารณาเงินที่เสียไปกับปริมาณ พื้นที่ความจุที่ได้มากกว่ากันถึง 2 เท่า
บทสรุปส่งท้าย
จะเห็นว่าภายในบทความเฟมให้ Galaxy S10+ เฉือนชนะไปในหลาย ๆ หัวข้อที่เอามาเปรียบเทียบกัน ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ยัดมาในเจ้าเอสเท็นพลัสสามารถทำอะไรได้มากกว่า เท็นเอสแม็กซ์พอสมควร
ทั้งหมดนี้เป็นแค่การตัดสินที่อ้างอิงจากเหตุผล และประสบการณ์การใช้งานจริงของผู้เขียน ซึ่งเพื่อน ๆ บางคนอาจเห็นต่างบ้างในบางเรื่อง สามารถมาคอมเมนต์ในคลิปวิดีโอ หรือท้ายบทความเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone Xs Max นี้ได้เลย 🙂 สุดท้ายยังตัดสินใจไม่ได้ เฟมแนะนำให้ลองไปเล่น ลองไปจับตัวเครื่องจริง ๆ ทั้ง ตามศูนย์บริการและร้านค้าตัวแทนจำหน่าย จะเป็นการช่วยเพิ่มความง่ายในการตัดสินใจได้มากขึ้นจ้า