Samsung Galaxy S10 Plus กับ iPhone Xs Max ซื้อรุ่นไหนดีนะ

สำหรับใครที่เกิดความลังเลใจ จะเลือกซื้อมือถือใหม่ ระหว่าง Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone Xs Max ที่ล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นท็อปที่ป็อปปูลาร์มาก ลองมาดูข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจกัน

4412

สำหรับใครที่เกิดความลังเลใจ จะเลือกซื้อมือถือใหม่ ระหว่าง Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone Xs Max ที่ล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นท็อปที่ป็อปปูลาร์มาก แต่เลือกไม่ถูกสักที วันนี้เค้ามี สเปค ฟีเจอร์ จุดเด่น จุดสังเกต และความน่าสนใจของทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบกัน แบบชัด ๆ ชนิดที่อ่านจบปั๊ปเดินไปที่ช้อปได้เลยทันทีมาฝากกันจ้า

รู้ไว้ก่อนดีกว่า : บทความนี้อาจจะมีความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนที่อิงจากประสบการณ์การใช้งานร่วมอยู่ด้วยนะจ้ะ

ตารางเปรียบสเปค Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone Xs Max

 

โดยในการเปรียบเทียบครั้งนี้เราจะแบ่งเป็นทั้งหมด 8 จุด ได้แก่

  1. ดีไซน์และการออกแบบ
  2. หน้าจอ
  3. กล้องหลังและกล้องหน้า
  4. ประสิทธิภาพในการทำงานประมวลผล
  5. เสียง
  6. การเชื่อมต่อและความปลอดภัย
  7. แบตเตอรี่และการชาร์จ
  8. ราคา

เปรียบเทียบดีไซน์

เริ่มกันที่ดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลย ทั้งสองรุ่นมีความสวยงามคนละแบบแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน วัสดุฝาหลังตัวเครื่องเป็นกระจกเหมือนกัน แต่ใน Samsung Galaxy S10 Plus จะมีรุ่นพิเศษที่ฝาหลังเป็นเซรามิก ทนทานกว่า ขอบข้างของ Samsung จะเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ ส่วน iPhone จะเป็นสแตนเลสขัดเงาที่ดูแพงกว่า

เปรียบเทียบ-Samsung-Galaxy-S10-Plus-vs-iPhone-Xs-Max-ขนาดตัวเครื่อง-ขนาด-Bodyเรื่องขนาดเครื่องและน้ำหนักนั้นก็มีหลายคนให้ความสำคัญไม่น้อย เพราะมันเกี่ยวข้องในเกี่ยวกับความสะดวกในการพกพา ซึ่งขนาดของ S10+ นั้นอยู่ที่ 157.6 x 74.1 x 7.8 มม. ในขณะที่ iPhone XS Max นั้นมีขนาดตัวเครื่องที่ 157.5 x 77.4 x 7.7 มม. เรียกได้ว่าขนาดไม่ต่างกันมากนัก แต่เรื่องน้ำหนักนี่จะเห็นความต่างชัดเจนเลย ใน S10+รุ่นปกติจะหนัก 175 กรัม (เซรามิก 198 กรัม) จะเบากว่า XS Max ที่หนักหนัก 205 กรัม

เปรียบเทียบ-Samsung-Galaxy-S10-Plus-vs-iPhone-Xs-Max-สีสีสันตัวเครื่อง S10 Plus จะมีมาทั้งหมด 5 สี คือ สีขาว Prism White, สีดำ Prism Black, สีเขียว Prism Green, สีดำ Ceramic Black สีขาว Ceramic White ส่วน iPhone XS Max จะมีทั้งหมด 3 สี คือ

คำตัดสิน : เรื่องดีไซน์เฟมตัดสินให้ทั้งสองรุ่นเสมอกัน เพราะว่ามันมีความสวยกันคนละแบบ

เปรียบเทียบหน้าจอ

สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนสุด ๆ ก็คือเรื่องของดีไซน์หน้าจอที่ต่างกันคนละขั้วในแง่ของดีไซน์ เครื่องหนึ่งมีติ่ง(กล้อง)กลางจอ อีกเครื่องมีรู(กล้อง)บนหน้าจอ

สำหรับหน้าจอ S10+ เป็นแบบ Infinity-O เจาะรูกล้องคู่บริเวณหน้ามุนขวา ชนิด Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2K (สามารถปรับความละเอียดเป็น HD+, Full HD+ ได้ในเมนูการตั้งค่า) ในขณะที่ iPhone XS Max จะมีติ่งกล้องหน้าที่ขอบบนจอ เป็นจอ Super Retina มีขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2K ใหญ่กว่า S10+ เล็กน้อย

ในแง่ของเทคโนโลยี Samsung จะมีแต้มต่อเหนือกว่าเพราะเป็นผู้ผลิตเองและออกมาทีหลัง เลยทำให้ใส่อะไรดี ๆ ใหม่ ๆ ได้เยอะกว่า เช่น การรองรับเทคโนโลยีแสดงผลภาพที่ใหม่กว่าอย่าง HDR10+ ในขณะที่ iPhone จะรองรับแค่ HDR10 แต่ถามว่าต่างกันมากมั้ย เฟมรู้สึกว่า ณ ตอนนี้มันยังไม่มีผลอะไรกับการชมสักเท่าไหร่เพราะว่าคอนเทนต์ที่รองรับ HDR10+ ยังมีไม่เยอะ

เปรียบเทียบ-Samsung-Galaxy-S10-Plus-vs-iPhone-Xs-Max-หน้าจอฟีเจอร์หน้าจอ S10 Plus ถูกปรับแต่งให้แสงสีฟ้า (Bluelight) ที่เป็นอันตรายต่อดวงตาลดลง 40% มาตั้งแต่โรงงาน ทำให้อันตรายจากการใช้งานนาน ๆ มีน้อยกว่า ถึงอย่างนั้นทั้งสองรุ่นก็ยังมีโหมดถนอมสายตามาให้ และถ้าไม่พอใจสีจอดั้งเดิมก็สามารถปรับแต่งเพิ่มได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการปรับความเหลือง-ฟ้า (Warm) หรือความอิ่มสี (Hue) แต่ถ้าเอาแบบค่าดั้งเดิม ๆ S10+ จะมีสีสันที่สดใสกว่า

เปรียบเทียบ-Samsung-Galaxy-S10-Plus-vs-iPhone-Xs-Max-3D-Touchในเรื่องการติดกระจกกันรอย ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ S10+ เป็นรอง iPhone อยู่ เนื่องจากเป็นจอแบบโค้งซึ่งหากระจกติดยาก และกระจกมีราคาแพงกว่า iPhone XS Max พอสมควรเลยแหละ รวมไปถึงการโค้งของจอมักชอบทำให้เกินเหตุการณ์มือลั่นอยู่บ่อย ๆ นอกจากนี้ในฟังก์ชั่นอื่น ๆ บนจอ iPhone จะรองรับฟีเจอร์ รองรับแรงกด 3D Touch ที่ช่วยควบคุมแอปพลิเคชั่นได้ง่ายขึ้น

คำตัดสิน : เฟมให้จอ iPhone ชนะไปด้วยเหตุผลเรื่องความกลมกล่อมของเทคโนโลยี การแสดงผลภาพ และการหาฟิล์มกระจกกันรอยมาติดที่ง่ายกว่า

เปรียบเทียบกล้อง

มันดีงามเหลือเกินคุณขา ไม่ว่าจะเป็น S10+ หรือ Xs Max ต่างก็แสดงผลงานด้านการถ่ายภาพได้ดีกันทั้งคู่ ในส่วนของ Samsung ที่ให้กล้องมา 3 เลนส์คือ เลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล f/1.5-2.4 26mm (wide) พร้อมกันสั่น | ขนาดเซ็นเซอร์ 1.4µm เลนส์เทเล 12 ล้านพิกเซล f/2.4, 52mm (telephoto), 1.0µm ซูมสองเท่า และเลนส์ Ultrawide 123 องศา 16 ล้านพิกเซล
f/2.2, 12mm (ultrawide), 1.0µm พร้อมกันสั่น แล้ว iPhone ให้กล้องหลังคู่ เลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล f/1.8, 26mm 1.4µm และเลนส์เทเล
12 ล้านพิกเซล f/2.4, 52mm (telephoto) ซูม 2 เท่าพร้อมกันสั่น

**มีความเห็นส่วนตัวผสมอยู่

กล้องหลัง

เปรียบเทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone XS Max กลางวัน

เปรียบเทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone XS Max กลางวัน2

เปรียบเทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone XS Max มุมกว้าง ultrawide

เปรียบเทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone XS Max portrait mode ภาพบุคคลถ้ามองเรื่องคุณภาพของภาพและวิดีโอที่ช่อง Youtube ZONEofTECH ได้เอามาเปรียบเทียบให้ดู เฟมมองว่าทั้ง 2 รุ่นทำได้ดีเลยแหละ ทั้งในเรื่องความคมชัดและสีสัน แต่ iPhone จะให้สีที่ตรงกับตาเห็นมากกว่า ส่วน Samsung จะมีการเร่งคอนทราสต์ภาพที่เยอะกว่าทำให้บางภาพดูไม่เหมือนจริง และรวมไปถึงเรื่องไวท์บาเลนส์จะติดเหลืองมากกว่า

เปรียบเทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone XS Max กลางคืนแสงน้อยเปรียบเทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone XS Max กลางคืนแสงน้อยในที่แสงน้อยเรื่องความสว่างและนอยส์ของภาพ S10+ จัดการได้ดีกว่า แต่เรื่องสี XS Max ยังคงความสมจริงได้มากกว่า

สำหรับการถ่ายวิดีโอ จากคลิปจะเห็นว่า การกันสั่นของทั้งไอโฟนและซัมซุงทำได้ดีพอ ๆ กัน แต่ในซัมซุงจะมีโหมด Supersteady ที่ทำให้การกันสั่นทำได้ดีกว่า แต่แลกมาด้วยคุณภาพวิดีโอที่ถูกจำกัดเพียง 1080p 30fps

กล้องหน้า

กล้องหน้าของซัมซุง S10+ จะเป็นเลนส์คู่มุมกว้าง 10 ล้านพิกเซล f/1.9 และ 8 ล้านพิกเซล f/2.2 มีเซ็นเซอร์ สามารถถ่ายวิดีโอ 4K @30fps ได้ , Live Focus หน้าชัดหลังเบลอ (ปรับระดับความเบลอได้) และมีบิวตี้โหมด

กล้องหน้าไอโฟน Xs Max ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล f/2.2 รองรับ HDR, Portrait mode (ปรับระดับความเบลอได้)

เปรียบเทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone XS Max กล้องหน้าเปรียบเทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone XS Max กล้องหน้า2เปรียบเทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone XS Max กล้องหน้าแสงน้อย

คำตัดสิน : เรื่องกล้องเฟมให้เสมอกัน เนื่องจากการถ่ายภาพของทั้งสองรุ่นมีความสวยงามไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับมุม สภาพแสง ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้มีเอนเอียงใจไป S10+ เล็กน้อยในเรื่องการปรับแต่งที่สามารถทำอะไรได้มากกว่า 

เปรียบเทียบประสิทธิภาพในการทำงานประมวลผล

ขุมพลังภายใน กาแล็คซี่เอสสิบ มาจากชิปประมวลผล Exynos 9820 สถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร แบบ Octa-core เร็ว 2.73 GHz และปริมาณ RAM ที่เริ่มต้น 8 GB สูงสุด 12 GB รันบน Android Pie 9.0 ส่วนทาง ไอโฟนสิบเอสแม็กซ์ มาจากชิปประมวลผล Apple A12 Bionic สถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตร Hexa-core 2.5 GHz ที่เร็วแรงยืน 1 เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาและยังคงแรงไม่ยั้งข้ามปี RAM 4 GB* ซึ่งชิปของทั้งสองรุ่นได้นำ AI เข้ามาช่วยร่วมในการประมวลผลด้วย ทำให้ชิปมีการจัดการอะไรต่าง ๆ ที่ฉลาดและทรงประสิทธิภาพมาก

*ปริมาณ RAM ของ iPhone แม้จะน้อยกว่า Samsung แต่ด้วยการทำงานของระบบปฏิบัติการ iOS ทำให้ลบจุดด้อยข้อนี้ลงได้

คำตัดสิน : เฟมให้เสมอกันจ้า ทั้งการใช้งานทั่วไป ดูหนัง บันเทิง โซเชียล และเล่นเกมกราฟิกสูง ๆ ทั้งสองรุ่นสามารถทำออกมาได้ดีไม่แพ้กันเลยจ้า  แต่การเล่นเกมด้วยดีไซน์หน้าจอ S10+ ณ ปัจจุบันยังอาจส่งผลให้บดบังอะไรมากกว่า (ต้องรอเกมอัพเดต)

เปรียบเทียบเสียง

ระดับความดัง ในเลเวลเท่ากันลำโพง รู้สึกว่า iPhone จะดังและมีมิติกว่า แต่พอเปิดฟีเจอร์ Dolby Atmos ใน Samsung จะรู้สึกได้เลยว่ามิติและความดังของ S10+ เพิ่มขึ้นเยอะมาก รวมไปถึงยังสามารถปรับ Equalizer ได้

นอกจากนี้ S10+ ยังรองรับฟีเจอร์ Dual Audio สามารถเล่นไฟล์พร้อมกันให้ไปออกยังอุปกรณ์ 2 ตัวที่แตกต่างกันได้ หรือเลือกเสียงในแต่ละแอปให้ไปเล่นยังอุปกรณ์อื่นได้อีกด้วย

คำตัดสิน : เฟมให้ S10+ ชนะไปด้วยความสามารถในการปรับแต่งเสียงที่ทำอะไรไดเยอะกว่า

เปรียบเทียบการเชื่อมต่อและความปลอดภัย

ทั้ง 2 รุ่นรองรับใช้งาน Wifi Dual band ความถี่ 2.4GHz และ 5.0GHz ได้สบาย ๆ แต่ Galaxy S10+ จะพิเศษกว่าตรงที่เป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่รองรับการเชื่อมต่อ Wifi 6 (802.11ax) ที่รับสัญญาณได้ไกลกว่า เสถียรกว่า และเร็วกว่า Wifi 5 (802.11ac) ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามการจะใช้ความสามารถของ Wifi 6 ได้จะต้องมีเราท์เตอร์ หรือแอคเซสพอยต์ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ด้วยเท่านั้น! ดังนั้นในจุดนี้เฟมยังไม่เห็นว่ามีนัยอะไรเท่าไหร่นัก และสำหรับ Bluetooth เป็นเวอร์ชั่น 5.0 ทั้งคู่

เปรียบเทียบ-Samsung-Galaxy-S10-Plus-vs-iPhone-Xs-Max-ช่องเสียงหูฟังการกันน้ำกันฝุ่น ในเว็บไซต์หลักของทั้ง Apple และ Samsung บอกว่าเป็นมาตรฐาน IP68 เหมือนกัน แต่ iPhone เคลมว่าสามารถกันน้ำที่ระดับความลึก 2 เมตรได้เป็นเวลา 30 นาที ส่วน Samsung เคลมว่ากันได้ที่ระดับ 1.50 เมตร เป็นเวลา 30 นาที ทั้งนี้เราขอแนะนำว่าไม่ควรนำสมาร์ทโฟนทั้งสองเครื่องไปใช้งานในน้ำจะดีกว่า เพราะแม้ว่ามันจะกันน้ำก็จริง แต่หากเกินเหตุไม่คาดฝัน เช่น ซีลยางกันน้ำเสื่อม หรือแรงดันน้ำที่โดนมากกว่าที่รองรับ อาจทำให้น้ำเข้าเครื่อง ซึ่งไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน

พอร์ตเชื่อมต่อของ Samsung จะเป็น USB Type-C และมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม.ส่วน iPhone จะใช้เป็นพอร์ต Lighting และไม่มีรูเสียบหูฟัง จะต้องใช้หูฟังที่เป้นหัวไลท์นิ่ง หรือหัวแปลง Lighting to 3.5mm หรือจะต้องใช้หูฟังไร้สาย

เปรียบเทียบ-Samsung-Galaxy-S10-Plus-vs-iPhone-Xs-Max-ความปลอดภัย-สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ-FaceIDความปลอดภัยของ Samsung Galaxy S10+ จะมี 2 แบบคือ การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ด้วยเซ็นเซอร์ Ultrasonic Fingerprint Scan ที่บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้มันยังไม่ค่อยแม่นยำ เร็วทันใจอย่างที่หวังสักเท่าไหร่ และรองรับการสแกนใบหน้า 2 มิติ ในทางกลับกัน iPhone XS Max จะใช้การสแกนใบหน้าแบบสามมิติ FaceID ที่ใช้หลักการยิงอินฟาเรดที่ปลอดภัยมายังใบหน้าเพื่อตรวจสอบ ทำให้สามารถสามารถสแกนได้แม่นยำแม้ในที่แสงน้อย และปลอดภัยกว่าสแกนหน้าของซัมซุงมาก

คำตัดสิน : ในส่วนนี้เฟมให้ S10+ เป็นผู้ชนะไป ด้วยเรื่องความครบครันของพอร์ตเชื่อมต่อ Type-C ที่เป็นมาตรฐานของอุปกรณ์สมัยนี้ และพอร์ตหูฟัง รวมไปถึงวิธีการปลดล็อคที่มีทางเลือกให้มากกว่า 

เปรียบเทียบแบตเตอรี่และการชาร์จ

ดูกันที่ตัวเลขปริมาณแบตเตอรี่ ดูเหมือนว่า Samsung S10 Plus ที่ให้มาถึง 4,100 mAH อึดกว่า iPhone Xs Max ที่ให้มาแค่ 3,174 mAH อย่างเห็นได้ชัด แล้วจากอ้างอิงจาก คลิปทดสอบการใช้งานของ Youtuber Mrwhosetheboss นั้นก็แสดงให้เห็นเป็นเอกฉันท์เลยว่า S10+ ชนะขาดลอย

เปรียบเทียบ-Samsung-Galaxy-S10-Plus-vs-iPhone-Xs-Max-แบตเตอรี่นอกจากนี้เรื่องการชาร์จ S10+ ยังมีระบบชาร์จไว 15W ชาร์จไร้สายแบบเร็ว 15W และฟีเจอร์ PowerShare ที่สามารถชาร์จไฟไร้สายให้กับอุปกรณ์ที่รองรับ Qi Wireless Charge ได้อีกด้วย ในขณะที่ iPhone Xs ก็รองรับการชาร์จไร้สาย และมีระบบชาร์จไว 15W เหมือนกัน รองรับการชาร์จ PD เพียงแต่จะต้องซื้ออแดปเตอร์และสายแยกเองไม่มีแถมในกล่องแพ็คเกจ แล้วที่สำคัญ Samsung มีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ทำให้อุณหภูมิเมื่อใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ ไม่สูงมาก ซึ่งข้อดีคือเมื่อสมาร์ทโฟนร้อนมาก ๆ จะมีการปรับลดประสิทธิภาพการทำงานลง แต่ระบบนี้ระบายความร้อนนี้จะทำให้ลดความเสี่ยงการเกิดสถานการณ์ดังกล่าวได้

คำตัดสิน : ในหมวดนี้เฟมให้ S10+ ชนะแบบไร้ข้อกังขาจ้า

เปรียบเทียบราคา Samsung Galaxy S10 Plus กับ iPhone Xs Max

ราคา Samsung Galaxy S10 Plus

ราคา Apple iPhone Xs Max

คำตัดสิน : ในหมวดนี้เฟมให้ S10+ ชนะเนื่องจากเมื่อพิจารณาเงินที่เสียไปกับปริมาณ พื้นที่ความจุที่ได้มากกว่ากันถึง 2 เท่า

บทสรุปส่งท้าย

จะเห็นว่าภายในบทความเฟมให้ Galaxy S10+ เฉือนชนะไปในหลาย ๆ หัวข้อที่เอามาเปรียบเทียบกัน ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ยัดมาในเจ้าเอสเท็นพลัสสามารถทำอะไรได้มากกว่า เท็นเอสแม็กซ์พอสมควร

ทั้งหมดนี้เป็นแค่การตัดสินที่อ้างอิงจากเหตุผล และประสบการณ์การใช้งานจริงของผู้เขียน ซึ่งเพื่อน ๆ บางคนอาจเห็นต่างบ้างในบางเรื่อง สามารถมาคอมเมนต์ในคลิปวิดีโอ หรือท้ายบทความเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S10 Plus และ iPhone Xs Max นี้ได้เลย 🙂 สุดท้ายยังตัดสินใจไม่ได้ เฟมแนะนำให้ลองไปเล่น ลองไปจับตัวเครื่องจริง ๆ ทั้ง ตามศูนย์บริการและร้านค้าตัวแทนจำหน่าย จะเป็นการช่วยเพิ่มความง่ายในการตัดสินใจได้มากขึ้นจ้า