

เรื่องของการรับซื้อเหรียญนั้นยังคงเป็นกระแสยอดฮิตมาตลอดของคนในวงการ ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่ามีเหรียญกษาปณ์ 1 บาทบางรุ่นที่ปัจจุบันมีการประกาศจากผู้รับซื้อเหรียญกษาปณ์ โดยตีราคา เหรียญ 1 บาท ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในราคาหลักแสนเลยทีเดียวเชียวค่ะ
โดยเหรียญกษาปณ์ 1 บาทที่มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีการตีมูลค่าให้ราคาถึงหลักแสนนั้น คือเหรียญ 1 บาท รุ่น ปี พ.ศ. 2505 ซึ่งการรับซื้อในราคาหลักแสนนั้น คือเรื่องจริง แต่เหรียญที่ว่านั้น จะต้องมีลักษณะพิเศษในจุดสำคัญต่างๆ ตามที่ผู้รับซื้อระบุมา
เบื้องต้นข้อมูลการผลิตเหรียญนั้น เหรียญ 1 บาท ปี 2505 นั้นผลิตออกมาจำนวน 883,086,000 ล้านเหรียญ เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม ปี 2505 เป็นต้นมา แม้จะมีการผลิตค่อนข้างมาก แต่จะมีเพียงไม่กี่เหรียญที่เข้าลักษณะพิเศษตามที่ผู้รับซื้อต้องการ

สำหรับเหตุผลที่ทำให้เหรียญ ๑ บาท ปี ๒๕๐๕ มีราคาที่แพงก็คือ
- เป็นเหรียญกษาปณ์หมุนเหวียนที่หายาก
- มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากเหรียญที่ผลิตในคราวเดียวกัน
- รูปลักษณ์สวยงามน่าเก็บสะสม
- แม้จะมีการซื้อขายหรือเปลี่ยนมือกันไปบ้าง แต่เนื่องจากเหรียญดังกล่าวมีจำนวนน้อยและหายาก ทำให้ราคายังคงสูงอยู่ โดยเฉพาะเหรียญที่ไม่ผ่านการใช้งานและมีสภาพที่สมบูรณ์ยิ่งทำให้ราคาแพงมากขึ้น
โดยทั่วไป เหรียญ 1 บาท ปี 2505 ตามที่ปรากฎมีอยู่สามรูปแบบ มีลักษณะที่เหมือนกันโดยทั่วไปคือ ด้านหน้าเหรียญมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผินพระพักตร์ไปทางซ้าย ส่วนด้านหลัง เป็นรูปตราแผ่นดินในรัชกาลที่ 5 โดยมียอดพระมหาพิชัยมงกุฎปรากฎ แต่ในส่วนรายละเอียดที่แตกต่างกันของเหรียญทั้งสามรูปแบบ ที่ทำให้ราคาของเหรียญ 1 บาท ปี 2505 มีความต่างกัน แม้จะผลิตในครั้งเดียวกันก็ตาม มีดังนี้
แบบที่หนึ่ง จุดสังเกตเหรียญ 1 บาท รุ่นปี 2505 ที่ราคาหลักแสน

เป็นเหรียญที่พบได้ยาก หรือจะเรียกว่า เหรียญพิเศษก็ได้ เพราะปัจจุบันพบแค่ไม่เกิน 8 เหรียญ ในจำนวนประมาณ 883 ล้านเหรียญ ราคาเหรียญแบบแรก อยู่ที่ 1 แสน – 3 แสนบาท โดยมีลักษณะพิเศษที่สังเกตได้จากหน้าเหรียญ ปรากฎพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครึ่งองค์ ผินพระพักตร์ไปทางซ้าย โดยมีคำว่า “รัชกาลที่ ๙” ปรากฏอยู่ริมขอบเหรียญด้านบนพระบรมฉายาลักษณ์ ส่วนริมขอบเหรียญด้านล่างพระบรมฉายาลักษณ์ ปรากฎพระปรมาภิไธย “ภูมิพลอดุลยเดช”
ด้านหลังของเหรียญ เป็นรูปตราแผ่นดินในรัชกาลที่ 5 มียอดพระมหาพิชัยมงกุฎปรากฎ ริมขอบบนของเหรียญมีคำว่า “รัฐบาลไทย พ.ศ.๒๕๐๕” ริมขอบด้านล่างมีคำว่า “หนึ่งบาท” โดยใหัสังเกตยอดมงกุฎ จะชี้ตรงกับย.ยักษ์ในคำว่า “รัฐบาลไทย” พอดี
แบบที่สอง จุดสังเกต เหรียญ 1 บาท ปี 2505 ราคาหลักพัน – หลักหมื่น

ด้านหน้าเหรียญ ปรากฎพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เหมือนแบบแรก แต่สิ่งที่แตกต่างจากเหรียญราคาหลักแสนก็คือ พระปรมาภิไธย “ภูมิพลอดุลยเดช” จะปรากฎริมขอบเหรียญด้านซ้ายซึ่งจะต่อด้วยคำว่า “รัชกาลที่ ๙” จึงเห็นรายละเอียดส่วนนี้ เป็นลักษณะโค้งไปตามริมขอบเหรียญ
ด้านหลังเหรียญ มงกุฎจะอยู่ตรงย.ยักษ์เหมือนแบบแรก ราคาเหรียญแบบที่สองนี้ อยู่ที่ประมาณ1,000 ถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน และสภาพความสมบูรณ์ของเหรียญ
แบบที่สาม จุดสังเกตเหรียญ 1 บาท ปี 2505 ราคาหลักสิบ

มีจุดสังเกตคือ ด้านหน้าเหรียญมีลักษณะเดียวกับเหรียญแบบที่สอง แต่ด้านหลังจะแตกต่าง คือ มงกุฎจะอยู่ระหว่างย.ยักษ์ (ไม่ได้ตรงกับ ย.ยักษ์ เหมือนเหรียญราคาหลักแสน) จึงพบเหรียญในลักษณะนี้ได้ในจำนวนที่มาก ทำให้ราคานั้นอยู่ที่หลักสิบบาท ประมาณ 10 – 40 บาท
จะเห็นว่าเหรียญ 1 บาท ปี 2505 ราคาหลักแสนนั้นมีการซื้อขายอยู่จริง ลักษณะเป็นไปตามเหรียญในแบบแรกที่กล่าวข้างต้น ซึ่งสังเกตง่ายๆทั้งด้านหน้าเหรียญที่มีรายละเอียดตำแหน่งการวางพระปริมาภิไธยที่ไม่เหมือนกับแบบที่สองและสาม ส่วนด้านหลัง มงกุฎก็จะตรงกับอักษร ย.ยักษ์พอดี ลักษณะที่สำคัญทั้งสองจุดนี้จึงบ่งบอกได้ถึงเหรียญ 1 บาท ปี 2505 ที่ซื้อขายกันในราคาหลักแสนบาท
ณ เวลานี้ เหรียญกษาปณ์เหล่านี้ อาจจะเป็นสิ่งที่คนต้องการสะสมมากที่สุดแล้ว อย่างน้อย แม้เราจะไม่มีเหรียญ 1 บาท รุ่นพิเศษ ที่มีราคาแพง แต่เหรียญบาทที่มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่ว่ารุ่นปีใด ก็ควรค่าแก่เก็บไว้ มีมูลค่าทางจิตใจของคนไทยทุกคน
ส่วนคนไหนที่อยากจะได้เหรียญรุ่นพิเศษนั้นยากมากที่จะหาได้ในเวลานี้ แต่ถ้าเจอก็อาจต้องพิจารณาลักษณะเหรียญที่เข้าข่ายตามที่กล่าวไปข้างต้น โดยเฉพาะเรื่องราคา ซึ่งใน Priceza มีราคาเหรียญให้เปรียบเทียบเพื่อประกอบการตัดสินใจ จะได้ไม่พลาดเป็นเหยื่อของคนที่ต้องการหยิบฉวยโอกาสค่ะ
อ่านบทความดีๆ สำหรับนักช้อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย Web Priceza