การเลือกซื้อกล้องนั้นแม้ว่าจะดูเหมือนง่าย เพราะเพียงแค่มีงบประมาณพอกับรุ่นที่ต้องการก็สามารถซื้อได้แล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มีงบประมาณมากนัก หรือคนที่อยากเลือกซื้อให้ได้รุ่นที่ตอบโจทย์ ใช้งานได้ตรงตามจุดประสงค์ ก็คงจะต้องใช้เวลาเลือกกันสักหน่อย เอาเป็นว่า เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อกล้องแบบไหนให้โดนใจ วันนี้เรามีคู่มือในการซื้อกล่องฉบับง่าย ๆ ที่อ่านจบแล้วซื้อได้ทันมี มาฝากกัน

ก่อนเลือกซื้อกล้องถ่ายรูป ต้องดูอะไรบ้าง?

การจะได้รูปภาพสวยๆ สักรูปหนึ่งนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องมีความเข้าใจเรื่องของการจัดวางองค์ประกอบภาพแค่เพียงอย่างเดียว แต่ก็ต้องมีอุปกรณ์ที่ดีเพียงพอสำหรับการถ่ายภาพนั้นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพกลางคืนหรือภาพที่มีความคมชัดละมีความละเอียดที่สูง ซึ่งสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เราจึงจำเป็นต้องพกกล้องไปด้วย แต่จะเลือกซื้อกล้องแบบไหน ให้ได้ถูกใจและคุ้มค่าก็ต้องมีวิธีในการเลือกซื้อกันสักหน่อย ลองมาดูวิธีง่ายๆ ก่อนตัดสินใจซื้อกล้อง กันดีกว่า

1. ตั้งงบประมาณ

เหนือสิ่งอื่นใดของการซื้อกล้อง สักตัวนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของงบประมาณที่เพื่อนๆ ต้องการ โดยการตั้งงบประมาณเอาไว้แต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ตีกรอบจำนวนรุ่นของกล้องได้ง่ายขึ้น เพราะหากไม่มีการกำหนดงบประมาณเอาไว้ในใจเลย เชื่อเถอะว่าเพื่อนๆ จะต้องเจอรุ่นที่ถูกใจมากมายจนตัดสินใจไม่ได้อย่างแน่นอน ฉะนั้นแล้วกำหนดงบประมาณที่ตัวซื้อไหว แล้วเริ่มต้นหากล้อง ที่ไม่เกินจากงบที่ตั้งเอาไว้ได้เลย

2. เลือกประเภทของกล้อง

เมื่อได้ราคาแล้วลองมาศึกษาประเภทของกล้องกัน ปัจจุบันกล้องในตลาดมีออกมาหลากหลายแบบมากเพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน ไลฟ์สไตล์ และความชอบของแต่ละคนด้วยไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR ที่มีตั้งแต่ผู้เริ่มต้นใช้งานในราคาหลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงหลักแสน เสปคเทพก็มี หรือจะเป็นกล้อง Mirrorless, กล้องฟิล์ม, กล้องคอมแพค, กล้องโพลารอยด์

3. เน้นการใช้งานมากกว่าสเปคที่จัดเต็ม

จริงอยู่ที่ว่ากล้องที่มาพร้อมสเปคแบบจัดเต็มนั้นย่อมต้องมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากกว่ากล้องที่สเปคต่ำกว่า แต่หากลองพิจารณาดูให้ดีแล้ว สเปคที่มากขึ้นก็ย่อมนำมาซึ่งราคาที่สูงขึ้นด้วย และคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักถ้าหากว่าเพื่อนๆ ต้องการเพียงแค่การถ่ายรูปวิวทิวทัศน์หรือเน้นพกพาไปด้วยสำหรับการออกทริปแต่กลับซื้อกล้อง ในระดับโปรมาใช้งาน เพราะนอกจากน้ำหนักที่มีมากแล้ว บางครั้งกว่าจะได้รูปก็ยังต้องปรับโหมดกันยกใหญ่อีกด้วย เอาเป็นว่าลองถามตัวเองก่อนว่าอยากได้กล้องมาเพื่อถ่ายอะไรและเข้าใจการปรับตั้งค่าในโหมดต่างๆ ดีเพียงพอหรือยัง

4. ชอบรุ่นไหนลองไปจับตัวจริงก่อน

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าอยากซื้อรุ่นไหนมากที่สุด ขอแนะนำว่าให้ไปลองจับกล้องตัวจริงดูเสียก่อน เพราะบางครั้งกล้องที่เราเห็นว่าสวย สเปคดีจากในอินเทอร์เน็ตหรือในโบรชัวร์ก็อาจจะไม่ได้ถูกใจจริงๆ เมื่อไปลองจับดู เพราะปุ่มฟังก์ชั่นต่างๆ อาจจะอยู่ในตำแหน่งที่จับแล้วไม่ถนัด หรือกล้องมีน้ำหนักมากเกินไป ในส่วนนี้เราขอแนะนำว่าลองจัดอันดับรุ่นที่ชอบมาสักสามรุ่น แล้วลองไปจับดูของจริงเพื่อค้นหารุ่นที่ชอบที่สุดจะช่วยได้เยอะเลยทีเดียว

5. กล้องออกใหม่อย่าเพิ่งรีบซื้อรอโปรโมชั่นก่อน

กล้องบางรุ่นที่ออกมาใหม่นั้นก็ทำให้คนรักกล้องอดใจไม่ไหวเป็นต้องรีบซื้อมาใช้กันเลย ซึ่งบางครั้งกล้องที่ออกมาใหม่ๆ นั้นหากรอสักพักหนึ่งก็จะมีการจัดโปรโมชั่นที่เพื่อนๆ จะซื้อได้ในราคาที่คุ้มกว่า ง่ายกว่า ไม่ว่าจะเป็นซื้อกล้องแถมเลนส์ หรือซื้อบอดี้พร้อมเลนส์ในราคาพิเศษ และแม้แต่โปรโมชั่นผ่อน 0% ที่อาจจะได้มากถึง 24 เดือนเลยทีเดียว ฉะนั้นแล้วอดใจรอดูโปรโมชั่นกันสักนิดแล้วจะดีจ้า

เลือกกล้องอย่างไร? ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์

ก่อนอื่นเลย มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกล้องที่มีขายอยู่ในปัจจุบันนี้กันก่อน เพราะเพื่อน ๆ หลายคนก็มีคำถามอยู่ว่า กล้องดิจิตอล (DSLR) กับกล้อง Mirrorless แบบไหนดีกว่ากัน และมันต่างกันอย่างไร และจริงๆ แล้วในตลาดก็มีกล้องหลายแบบให้เลือกเยอะมาก เพราะนอกจาก 2 ตัวที่บอกไปแล้วยังมีกล้องฟิล์ม, กล้องคอมแพค, กล้องถ่ายรูป ซึ่งคู่มือช่วยเลือกซื้อฉบับง่าย ๆ ของเรา ก็คงไม่ชี้ชัดไปเลยว่าแบบไหนดีกว่ากัน แต่เราขอแนะนำและบอกข้อแตกต่างของแต่ล่ะแบบเพื่อให้เพื่อนๆ พิจารณาว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุด

กล้องฟิล์ม

ถ้านึกถึงกล้องฟิล์ม หลายๆ คนอาจจะกำลังนึกถึงกล้องดีไซน์สไตล์วินเทจหน่อยๆ ยุค 90 นิดๆ ซึ่งปัจจุบันกล้องฟิล์มก็กลับมานิยมกันอีกครั้ง อาจจะด้วยเหตผลที่ว่าพกพาง่าย อารมณ์ในการถ่ายที่ต้องหาแสง หรือมุมกล้อง ที่มันสมบูรณ์แบบจริงๆ ก่อนกดชัตเตอร์แต่ล่ะครั้ง แล้วไปรอลุ้นดูตอนล้างรูป เพราะฟิล์ม 1 ม้วนเราสามารถกดชัตเตอร์ได้ 36 ครั้ง ซึ่งจะแตกต่างกับกล้องดิจิตอลที่เราสามารถดูรูปที่ถ่ายได้เลย

กล้องถ่ายรูป

กล้อง DSLR

กล้องดิจิตอล (DSLR) กล้องถ่ายรูปประเภทนี้ จะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ การพกพาค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับคนที่ไม่ชอบแบกกล้องหนัก ๆ หรือหยิบใช้ลำบาก ยิ่งบวกเข้ากับเลนส์ด้วยแล้ว ต้องบอกเลยว่าทั้งใหญ่และทั้งหนักเลยทีเดียว แต่กล้องถ่ายรูป DSLR ก็มีข้อดีคือ ขอบเขตของการใช้งานค่อนข้างกว่ากว้าง ทั้งเรื่องสี เรื่องไฟล์ และเรื่องของระยะเวลาในการใช้งานที่นานกว่า ซึ่งในข้อดีเหล่านี้ทำให้ ช่างภาพมืออาชีพส่วนใหญ่เลือกใช้กล้อง DSLR มากกว่านั่นเอง

กล้อง Mirrorless

กล้องถ่ายรูปชนิดนี้ ผลิตมาเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ที่เป็นมือใหม่หัดถ่ายภาพ หรือสาว ๆ ที่ชอบพกกล้องติดตัวไปด้วย เพราะมีขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนักเบา และการใช้งานค่อนข้างง่าย ซึ่งผู้ใช้สามารถมองเห็นตัวอย่างของภาพได้จากจอ LCD ของกล้องเลย ทำให้เลือกค่าแสง และการโฟกัสที่แม่นยำ แต่ข้อเสียของกล้องมิลเลอร์เลสก็คือ แบตฯ มักจะหมดเร็วต้องตุนแบตสำรองกันไว้เยอะ ๆ และเลือกของขอบเขตในการใช้งาน ไฟล์ภาพ ยังเป็นรอง DSLR อยู่บ้าง

กล้อง Mirrorless รุ่นไหนดี?

  1. PANASONIC LUMIX GF10

เป็นกล้องอีกหนึ่งรุ่นที่ถูกอกถูกใจสาวๆ ไม่น้อย ด้วยสีสันของตัวบอดี้ที่มีทั้งสีเข้มไปจนถึงสีหวาน พร้อมกับสเปคที่อัดแน่นมาให้ผู้ใช้ได้เล่นกันอย่างจุใจ

  • เซ็นเซอร์แบบ Micro Fourthirds ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
  • โฟกัสไวเพียง 0.07 วินาที
  • ขอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว พร้อมการหมุนสำหรับถ่าย Selfie
  • การบันวิดิโอทำได้ที่ระดับ 4K 30fps
  • โหมดการถ่ายภาพแบบ 4K Photo และ โหมดแต่งภาพบุคคล

เรียกว่าเป็นกล้องที่ตอบโจทย์การใช้งาน สำหรับคนที่ชอบพกพาไปท่องเที่ยว หรือพกติดตัวในชีวิตประจำวัน โดยราคานั้นอยู่ที่ 16,490 บาท พร้อมกับเลนส์ Kit 12-32 mm

กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค (Compact) คือกล้องที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด และน้ำหนักเบาพกพาสะดวก สำหรับมือใหม่ที่อย่างลองเล่นกล้องถือว่าน่าลองที่จะซื้อมาใช้ กล้องคอมแพคเป็นกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ และก็มีข้อจำกัดในการใช้งานค่อนข้างเยอะ แต่บ้างรุ่นได้เพิ่มประสิทธิภาพของระบบเซนเซอร์ และความเร็วในส่วนของออโต้โฟกัสเพิ่มเข้ามา ปัจจุบันกล้องคอมแพคยังเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ เข้ามาเพื่อความสะดวกในการถ่ายภาพอีกด้วย เช่น การถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ, ถ่ายภาพแบบ 3 มิติ หรือพาโนรามา

กล้องคอมแพค รุ่นไหนดี?

  1. SONY RX100 IV

ขนาดเล็กพกพาสะดวก พกไปเที่ยวแบบสบายๆ แต่ฟีเจอร์เทพๆ มาเพียบ

  • วัสดุเป็นอลูมิเนียมดูแข็งแรง ดีไซน์ออกมาให้จับได้ถนัดมือ
  • เลนส์ 24-70 m f1.8-2.8 ช่องรับแสงกว้างมาก
  • มีระบบการทำงานที่ปรับได้ทั้งแบบ Mannual
  • ปรับ ISO ได้ที่ 125-12800
  • สามารถถ่าย Super slomotion 960 ภาพต่อวินาที
  • มี Wi-fi ในตัวด้วย สามารถเอามือถือแตะโหลดรูปได้เลย

สำหรับราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30,000 บาท

กล้องโพลารอยด์

กล้องโพลารอยด์ จริงๆ แล้วเรียกว่า instant film camera แต่ส่วนมากที่หลายๆคนเรียกล้องโพลารอยด์จนติดปากก็เพราะว่าเป็นชื่อของแบรนด์ที่ทำกล้องชนิดนี่ออกมาแล้วขายดิบขายดี เหมือนเวลาเราเรียกมาม่า แทนบะหมี่กึ่งสำเรีจรูปนั่นเอง จุดเด่นของกล้องนี่คือถ่ายแล้วได้รูปทันที ไม่ต้องรอล้างรูปนาน แต่ข้อเสียคือค่าฟิล์มที่เราต้องซื้อมาเพื่อใช้ในการถ่าย เพราะ 1 กล่องจะมีฟิล์มประมาณ 10 แผ่น ราคาก็ไม่เบาเลยกล่องล่ะ ประมาณ 200 ถึงหลักพันบาทก็มี คือซื้อกล้องมาราคาไม่แพงก็จริงแต่จะมาเสียตรงค่าฟิล์มนี่แหละ ความเหมาะสมในการใช้งานก็หลายหลายโอกาสนะคะ เช่นเมื่อเราต้องจัดงานอีเว้นท์ที่แขกสามารถรับรูปกลับได้เลยหรือตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีซุ้มเพื่อถ่ายรูปเก็บเป็นความประทับใจ

กล้องโพลารอยด์ รุ่นใหนดี?

  • Fujifilm Instax mini 9

ถ่ายปุ๊บได้รูปปั๊บ มาพร้อมขนาดเล็กกะทัดรัด มี 5 สี สดใสสุดๆ คือ Lime Green, Cobalt Blue, Flamingo Pink, Ice Blue, Smoky White ระยะโฟกัสอยุู่ที่ 60 cm มีกระจกสามารถถือเซลฟี่ได้เองด้วย ดีงาม สามารถเลื่อนปรับการถ่ายได้ 5 โหมด สามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยด้วยการปรับ ISO ได้สูงถึง 800 หรือโหมดแสงจ้า มีระบบแฟรชอัตโนมัติ ทำงานด้วยการใช้ถ่านอัลคาไลน์ขนาด AA จำนวน 2 ก้อน สำหรับราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1000 กลางๆ ฟิล์มที่ใช้คือ Fujifilm INSTAX Mini 1 กล่องจะมี 1 รูปสามารถได้ 10 รูป

 

  • Fuji Instax Mini 90 Neo Classic

มาด้วยดีไซน์ย้อนยุค และมีความอาร์ตในตัว พร้อมโหมดฟังก์ชั่นที่เพิ่มมาค่อนข้างเยอะ มีปุ่มชัตเตอร์ 2 ปุ่มเพื่อให้ง่ายต่อการถ่ายselfieและภาพแนวนอน มีโหมด MacroและโหมดL/D เพื่อปรับให้ภาพมืดลงหรือสว่างขึ้นได้ โหมดการถ่ายภาพซ้อน โหมดการถ่ายภาพงานปาร์ตี้ โหมดการถ่ายภาพเด็ก โหมดการถ่ายภาพทิวทัศน์ และโหมดการถ่ายมาโคร ฟิล์มที่ใช้คือ Fujifilm Instant Color Film “instax mini”

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีที่จะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถเลือกซื้อกล้องถ่ายรูป ได้ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น แถมยังได้ในราคาที่คุ้มค่า เหมาะสมกับการใช้งาน แล้วเพื่อนๆ ก็จะแฮปปี้กับการถ่ายรูปมากขึ้นด้วย