เนื่องจากความโดดเด่นตัวแบรนด์ และดีไซน์ที่เอกลักษณ์ แถมตัวรองเท้ายังสวมใส่สบายช่วยรักษาสุขภาพเท้าได้อีกด้วย รองเท้าอาดิดาส จึงกลายเป็นรองเท้าคู่โปรดของใครหลายคน สามารถแมทช์ได้เกือบทุกลุค แต่รุ่นที่โด่งดัง ปังตลอดกาล คงจะไม่พ้น 5 รุ่นนี้ ได้แก่ Adidas NEO, Superstar, Stan Smith, Ultraboost, NMD ซึ่งวันนี้ไพรซ์ซ่าเลยหยิบทั้งห้า มาเช็คราคาให้ ใครสนใจรุ่นไหน ไปดูกันได้เลย
เป็นรุ่นราคาเริ่มต้นไม่แรง เจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่น มีการออกแบบเรียบๆ แต่ใส่ความทันสมัยลงไป ผสมความเป็นรองเท้าผ้าใบ (สนีกเกอร์) กับรองเท้ากีฬากีฬาไว้ด้วยกัน แบ่งย่อยได้อีกหลายรุ่น ตามลักษณะดีไซน์ ใครชอบแบบลำลองมากๆ แนะนำเป็นรุ่น NEO Cloudfoam หรือถ้าชอบแบบสปอร์ตจ๋า ก็เป็น NEO Racer ก็น่าจะถูกใจ
ราคาเริ่มต้นใน Shop 1,100 – 3,300 บาท 
รู้หรือไม่? รองเท้าอาดิดาสซุปเปอร์สตาร์มีที่มาจากรองเท้าบาสเก็ตบอล! ถ้านับตั้งแต่วันเปิดตัวครั้งแรกจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 50 ปีได้ ดีไซน์เด่นที่เห็นปุ๊ปรู้ปั๊ปถึงความเป็น Superstar ก็คือลักษณะของหัวรองเท้าที่เป็นยางทรงเปลือหอยสุดเอกลักษณ์ วัสดุรองเท้าทำจากหนัง ซึ่งในปัจจุบันก็มีรุ่นย่อยเยอะมาก แต่หลักๆ จะถูกแบ่งแยกเป็น 2 เวอร์ชั่นคือ Superstar I (ดีไซน์เดิมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512) กับ Superstar II (ดีไซน์คล้ายเดิมเพิ่มเติมคือสี, Silk Lining, ลิ้นรองเท้า, ลายบนหัวรองเท้า)
ราคาเริ่มต้นใน Shop 1,900 – 5,300 บาท
รองเท้ารุ่นดังที่ดารานิยมใส่ ที่ตั้งชื่อตามอดีตนักเทนนิสมือวางอันดับ 1 ของโลก สแตน สมิธ นั่นหมายความว่าแต่เริ่มเดิมทีมันเป็นรองเท้าเทนนิสนั่นเอง ตัวรองเท้าใช้หนังเป็นวัสดุหลัก เพิ่มความยูนีคประจำรุ่นด้วยการเจาะรูระบายอากาศแทนแถบ 3 แถบ (แถบแบบรุ่น Superstar) บริเวณสีหุ้มส้นและลิ้นรองเท้าจะถูกแต่งเติมด้วยสีเอกลักษณ์ของรุ่นคือสีเขียว (สีอื่นก็มีนะครับ) และแบ่งย่อยออกได้อีกหลายรุ่น เช่น รุ่น Original ดีไซน์ดั้งเดิมตั้งแต่ปี 2008, รุ่น Trainers ที่เปลี่ยนเชือกเป็นสายแปะตีนตุ๊กแก และรุ่นพิเศษอื่นๆ ที่ออกแบบร่วมกับศิลปินคนดัง เป็นต้น
ราคาเริ่มต้นใน Shop 2,300 – 3,500 บาท
รองเท้ารุ่นระดับไฮเอนด์ของอดิดาส ราคาค่อนข้างแรง แต่แลกมาด้วยความเบาสบายดุจเดินบนอากาศ และสามารถซัพพอร์ตสุขภาพเท้าขั้นสูงสุดด้วยเทคโนโลยี เม็ดโฟมชนิด EVA (Ethylene-Vinyl Acetate) จำนวนมากมาอัดเป็นพื้นรองเท้า ซับรับแรงกระแทกได้ถึง 20% รวมถึงตัวรองเท้าที่ถูกถักทอแบบ Primeknit มอบความยืดหยุ่นกระชับเข้ารูปเสมือนกำลังใส่ถุงเท้า และระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับ อาดิดาสอัลตราบูสต์ มีรุ่นย่อยเยอะสุดๆ เช่น Ultraboost , ATR , Laceless , Uncaged , MID ฯลฯ แล้วยิ่งบางรุ่นที่ไม่ได้มีขายในไทย หรือ Sold Out ไปแล้ว ราคาพรีออเดอร์หรือขายต่อก็อัพขึ้นมากัน 4 – 5 เท่ากันเลย บอกเลยว่ากำไรสุดๆ
ราคาเริ่มต้นใน Shop 7,000 – 9,000 บาท
สำหรับรุ่นสุดท้าย รุ่นท็อปสุดบางคู่จัดเป็นแรร์ไอเทมเลยก็ว่าได้ (ถ้าไม่นับรุ่น Yezzy ที่เป็นเทพเจ้าเอาเข้ามาขายทีไรต้องมีคนไปต่อแถวยาวเหยียด ขาดตลาดไปแล้วในบ้านเรา) และมีของปลอมเยอะสุดๆ จนต้องทำบทความ เปรียบเทียบชัดๆ!!! Adidas NMD ของแท้ ของปลอม เช็คอย่างไรไม่ให้โดนหลอก ถ้าพูดถึงความเด่นคงจะเป็นสไตล์การออกแบบชนิดที่ว่าล้ำแฟชั่นแห่งอนาคต แถมยังนำเทคโนโลยีรองเท้าที่เป็นที่สุดของแบรนด์ Adidas เช่น โฟม Boost และ Primeknit มายัดไว้ในคู่เดียว ไม่แปลกที่บางรุ่นของมันจะแรงถึง 8,500 บาท แล้วยิ่งเป็นรุ่นที่ขาดตลาดลิมิเต็ด เมื่อนำมาขายต่อหรือที่เรียกว่า Resale นั้นบางตัวราคาพุ่งขึ้นเป็นสิบๆ เท่า อย่าง adidas x Pharrell x Chanel Human Race Trail NMD ราคาขายต่ออยู่ที่ 350,000 บาทแล้วตอนนี้ !!
ราคาเริ่มต้นใน Shop 4,990 – 8,500 บาท
มาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ อาจจะมีคำถามในหัว รู้สึกว่าทำไมรองเท้า Adidas สักคู่หนึ่งมันถึงแพงจังเลย มันจะคุ้มหรอ? เป็นคนติดของแบรนด์เนมหรือเปล่า? แต่ในความเห็นของผมคิดว่ามันก็คุ้มค่ากับการลงทุนอยู่นะครับ ทั้งในแง่สุขภาพเท้าที่ดี เซฟแรงกระแทกลดการบาดเจ็บบริเวณเข่า เท้าเรามีอยู่คู่เดียวถนอมไว้ดีกว่าเนอะ แถมซื้อมาคู่นึงใส่ได้หลายปี และในแง่กำไรที่บางรุ่นเอามาขายต่อได้ราคาเพิ่มค่อนข้างสูง ขนาดเป็นขายเป็นมือสองก็ยังได้กำไร สำหรับใครที่เล็งๆ ไว้ก็ไปลองใส่ลองถอดกันก่อนเน้อ บางรุ่นมันอาจจะต้องบวกหรือลดจากไซส์เดิม และมีการแบ่งแยกเพศ ชาย- หญิง ตามสรีระเท้าอีกด้วย ที่ช้อป Shop Adidas, Adidas Original, Outlet, บูสธ์ของแบรนด์ในห้าง หรือใครชัวร์ไซส์แล้ว ก็ไปช้อปออนไลน์เพลินๆ บางร้านมีส่วนลดชนิดตาวาวอยู่ แล้วรอรับของสบายๆ ที่บ้านจาก ที่นี่ ได้เลยครับ
