หน้าแรก แฟชั่น เปิดกระเป๋าจิ้งจอกแดง Fjällräven เอ๊ะ! Kånken กับ Re-Kånken ต่างกันยังไงนะ?

เปิดกระเป๋าจิ้งจอกแดง Fjällräven เอ๊ะ! Kånken กับ Re-Kånken ต่างกันยังไงนะ?

4089

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน เห็นภาพกับหัวข้อครั้งนี้แล้วพอจะคุ้นๆ กับเจ้าตัวอักษร a ที่มีจุด 2 จุดหรือวงกลมอยู่ข้างบนพวกนี้มั้ยคะ มันอ่านว่าอะไรน้าาา…แล้วมันคือภาษาอังกฤษรึเปล่าหว่า?….. เฉลยยย  มันคือภาษาสวีเดนค่ะ ซึ่ง Fjällräven เนี่ย อ่านว่า เฟียว-รา-เวน เป็นชื่อแบรนด์กระเป๋าค่ะ แปลว่า จิ้งจอกแห่งขั้วโลกเหนือ (เท่ห์ชะมัด)

ส่วน Kånken กับ Re–Kånken เป็นชื่อรุ่นกระเป๋าค่ะ อ่านว่า คอง-เค้น กับ รี-คอง-เค้น ลองฝึกออกเสียงกันให้คุ้นนะคะ เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปเปิด กระเป๋า Fjällräven รุ่น  Kånken กับ Re–Kånken ว่ามันต่างกันรึเปล่า? แล้วถ้าต่าง มันต่างกันยังไงล่ะ? หน้าตามันก็คล้ายๆ กันนี่นา (แอ๊ะๆ ถ้ายังออกเสียงไม่ถูก แว๊บขึ้นไปดูคำอ่านด้านบนกันได้นะ)

เอ๋ะ!! บอกว่ามี 2 รุ่น แต่ทำไมมี 3 ใบล่ะ? ..นี่มัน เรา สอง สาม ใบ ชัดๆ ….(ตึ่งโป๊ะ..แฉ่) ออกทะเลไปเรื่อย กลับเข้าฝั่งดีกว่าเน๊อะ^^”  แต่ว่าก่อนที่จะไปดูความแต่งต่างของทั้ง 2 รุ่นนี้ เรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีกว่าว่าแบรนด์ Fjällräven มีความเป็นมายังไง ทำไมถึงดังข้ามโลกขนาดนี้

ขอแนะนำอีกครั้งนะคะ Fjällräven หรือเจ้าเฟียว-รา-เวน ถือกำเนิดจากประเทศสวีเดนโดยนาย Åke Nordin ตั้งแต่เมื่อปี 1960 โดยแบรนด์นี้เน้นผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับกิจกรรม outdoor รวมถึงเสื้อผ้าและกระเป๋าสะพาย ซึ่งเหตุผลที่กระเป๋าของเขาเป็นที่นิยมไปทั่ว เพราะขึ้นชื่อเรื่องสุดยอดความทนทานของเนื้อผ้า ซึ่งใช้เนื้อผ้า VinylonF (วี-ไน-ลอน-เอฟ) เป็นเนื้อผ้าเดียวกันกับที่ทำเต็นท์ (โอ้วว) เมื่อเรานึกถึงผ้าเต็นท์แล้ว ความทนทานอย่างเดียวไม่พอ เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดความชื้นจากเหงื่อและน้ำได้ดีอีกด้วย

ที่มาของรุ่น Kånken (คอง-เค้น) เริ่มต้นในช่วงปลายยุค 1970s เด็กนักเรียนในประเทศสวีเดนจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาโรคปวดหลัง สาเหตุมาจากเทรนด์กระเป๋าสะพายข้างที่เป็นแฟชั่นในยุคนั้น (บางแฟชั่นก็แอบทำร้ายเราเหมือนกันนะคะ) และเพื่อเป็นแก้ไขปัญหาแฟชั่น เอ๊ย! ปัญหาสุขภาพหลังของเด็กๆ นาย Åke Nordin เลยลงมือออกแบบกระเป๋าเป้ที่มีน้ำหนักเบาเพียง 300 กรัม! แต่ทนทานเป็นเลิศ และต้องมีช่องว่างมากพอที่จะให้เด็กๆ ใส่ของจำเป็นต่างๆ ไปโรงเรียนได้ นี่แหละคือที่มาของกระเป๋ารุ่น Kånken ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1978  (ถึงปัจจุบันก็ 39 ปีมาแล้วนะเนี่ย) ซึ่งกระเป๋ารุ่นนี้ตอบโจทย์อาการปวดหลังของเด็กนักเรียนได้ตรงเป๊ะ!

เลยเป็นที่นิยมตั้งแต่กลุ่มเด็กนักเรียนเล็กๆ ไปจนถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ รวมถึงเหล่าเซเล็ปดาราก็ยังใช้ ถือว่าเป็นรุ่นชูโรงที่สร้างความสำเร็จอย่างมากที่สุดของแบรนด์ Fjällräven แถมยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบันอีกด้วย

ส่วนรุ่น Re–Kånken (รี-คอง-เค้น) เป็นคอลเล็คชั่นใหม่ ที่เกิดจากไอเดียรักษ์สิ่งแวดล้อม

ทางแบรนด์ Fjällräven จึงออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างขวดน้ำพลาสติก ให้นำกลับมาใช้ใหม่ ด้วยการนำมาผ่านกระบวนการผลิตที่คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ (PET) ให้ออกมาเป็นผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล กระเป๋า 1 ใบจะใช้ขวดพลาสติกประมาณ 11 ใบ

ซึ่งทั้งเนื้อผ้าของตัวกระเป๋า แผ่นรอง และสายรัดทั้งหมดจะทอจากด้ายเส้นเดียวกัน  เนื้อผ้าผ่านการย้อมด้วยเทคนิคพิเศษ SpinDye ที่ทำให้ได้สีชัดและไม่ซีดจางเร็ว ช่วยลดการใช้น้ำถึง 75% ลดปริมาณการใช้สารเคมีในการย้อมสี 67% ลดพลังงานลง 39% เป็นการช่วยลดความร้อน, ภาระต่อสิ่งแวดล้อม และลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างเยี่ยมยอด โดยกระเป๋ารุ่น Re–Kånken เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 1 สิงหาคม 2559 (เดือนนี้ก็ครบรอบ 1 ขวบของ Re–Kånken พอดีเลยนี่นา)

รู้จักที่มาที่ไปของแบรนด์และชื่อรุ่นทั้ง 2 แล้ว ขอบอกว่าแบรนด์นี้เหมือนเกิดมาเป็น Hero ที่ช่วยแก้ปัญหาด้านการใช้งานและใส่ใจถึงวัสดุที่จะช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของโลก ขอมอบเพลงนี้ให้เลยค่ะ (จะไปในทันใด จะไปยืนเคียงข้างเธอ ไปอยู่ดูแลเป็นเพื่อนเธอ ให้เธอหมดความกังวลใจ ~)

แทม-แท-แด-แดม ~

ณ บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาเปิดกระเป๋า Fjällräven ดูกันว่ารุ่น Kånken กับ Re–Kånken ต่างกันรึเปล่านะ?

จากการที่ได้สำรวจกระเป๋า Kånken กับ Re–Kånken ทั่วทุกซอกทุกมุมแล้ว จุดที่ต่างกันมีอยู่ด้วยกัน 3 จุด คือ

1.เนื้อผ้า

รุ่น Kånken จะผลิตจากผ้า  VinylonF (วี-ไน-ลอน-เอฟ) หรือผ้าทำเต็นท์ ทำให้มีความกระด้างและแข็งกว่า ส่วนรุ่น Re–Kånken ผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ที่ได้จากขวดพลาสติกรีไซเคิล จะมีเนื้อนิ่มและกระด้างน้อยกว่า แต่เรื่องความทนทานและลดความชื้นจากเหงื่อและน้ำยังดีเหมือนเดิมจ้า

2. โลโก้แบรนด์ Fjällräven หรือเจ้าจิ้งจอกที่อยู่ด้านหน้ากระเป๋า

โลโก้ของรุ่น Kånken จะใช้วัสดุพลาสติกเนื้อด้านธรรมดาสีออกเหลืองหน่อยๆ เป็นวัสดุที่สามารถสะท้อนแสงได้เมื่ออยู่ในที่มืด วัตถุประสงค์เพื่อใช้สะท้อนกับแสงไฟหน้ารถเมื่อต้องเดินทางกลางคืนหรือเดินในที่มืด แต่กลางวันจะเป็นเนื้อด้านธรรมดาไม่สะท้อนแสงนะคะ ส่วนโลโก้ของรุ่น Re–Kånken จะใช้วิธีการปักลงไปแทนการใช้โลโก้สะท้อนแสงแบบเดิม เพื่อลดการใช้พลาสติกรักษ์โลกสุดๆ

จุดสุดท้ายจุดที่ 3 คือ เรื่องราวความเป็นมาของทั้ง 2 รุ่น ตามที่ได้เล่าแนะนำไปข้างต้นนั่นเองค่ะ || รู้ความแตกต่างของ  Kånken กับ Re–Kånken ไปแล้วนะคะ ต่อไปมาเปิดกระเป๋าดูข้างใน และฟังก์ชั่นอื่นๆ ของกระเป๋ากันดีกว่าค่ะ

ดีไซน์กระเป๋าสุดคลาสสิค ทรงเหลี่ยมมน มีช่องใส่ของกระจุ๊กกระจิ๊กด้านหน้า ด้านข้างทั้งสองมีช่องใส่ขวดน้ำหรือร่มพก

ด้านในมีเนื้อที่กว้างนั่งสบาย (เอ้ย! นั่นมันรถยนต์รึเปล่า 55) ด้านในมีพื้นที่มาก กว้าง จุดของได้เยอะถึง 6 ลิตร! ใช้เป็นกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวได้เลย

แถมมีแท็กให้เขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ของเจ้าของกระเป๋าให้ด้วย เอ๊ะ! แผ่นอะไรดำๆ อะ?

นี่คือ Seat pad หรือแผ่นรองนั่ง ที่เป็น feature ของกระเป๋าเลยค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยรองรับน้ำหนักแล้ว ยังช่วยรักษาทรงกระเป๋าให้กระชับเข้ากับแผ่นหลังได้พอดิบพอดีด้วย

ด้านหลังดีไซน์เดียวกันเลย สายกระเป๋ามีรูปแบบและฟังก์ชั่นที่ดีไซน์ออกมาเป็นเอกลักษณ์มากๆ ไม่ซ้ำแบรนด์อื่น เพราะเป็นสายสะพายที่เย็บต่อเนื่องเป็นเส้นเดียวกัน

แถมฟังก์ชั่นการปรับระดับก็ใช้ง่าย แถมเมื่อไม่ใช้ยังสามารถเก็บสายกระเป๋าได้ ไม่ยาวเกะกะอีกด้วย

นี่แหละคือเหตุผลที่ทำไมกระเป๋า Fjällräven รุ่น Kånken กับ Re–Kånken ถึงเป็นที่นิยมตั้งแต่วัยเด็ก-วัยผู้ใหญ่และฮิตข้ามโลกขนาดนี้ เพราะมีดีไซน์ที่คลาสสิค ฟังก์ชั่นเก๋และตอบโจทย์การใช้งาน มีสีสันที่หลากหลายใช้ได้ทั้งชายและหญิง สะพายได้ทุกวัน จะไปเดินเล่นชิวๆ หรือจะเป็นกระเป๋าเดินทางก็ทนทานพร้อมลุยกับเราไปทุกที่ แถมแมทช์สนุกได้กับทุกสไตล์การแต่งตัวของเรา

ไม่ว่าจะเป็นสาวหวานสะพายหลัง 2 ข้างแบ้วๆ | จะสวมแจ็กเก็ตเป็นสาวสตรีท สไตล์ เดินถือเท่ห์ๆ ก็ดูชิค หรือเป็นลุคสปอร์ต เกิร์ล สะพายข้างคูลๆ ชิวๆ ก็ยังได้ ถือว่าเจ้า Kånken เป็น fashion item หรือ fashion accessary ไปแล้วล่ะค่ะ ส่วนใครที่เป็น FC ของเจ้า Kånken หรือใครที่อ่านแล้วรู้สึกว้าว! อยากมีไว้ในครอบครองบ้างจัง ก็สามารถแวะไปเจอกันได้ที่ The Adjective ทั้ง 5 สาขา

  • Pop Up Store สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2 ฝั่ง ZEN ด้านหน้าร้าน Lyn Around
  • สาขาเมกะบางนา ชั้น 1 (02-105-1722)
  • สาขาสยามพารากอน ชั้น 2
  • สาขา ดิเอ็มโพเรียม ชั้น 2
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น G
  • เดอะมอลล์บางกะปิชั้น 2

​โซนต่างจังหวัด : เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ชั้น 2 / เซ็นทรัลหาดใหญ่ ชั้น 4 / เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ชั้น 2 และเซ็นทรัลเวสเกต ชั้น 2  หรือจะลองสอบถามรายละเอียด และเลือกดูรุ่น ดูสี กันให้ตาลายก่อนไป shop จริงได้ที่ www.facebook.com/TheAdjective

แนะนำว่าให้จดชื่อรุ่น, สี และรหัสสีเลยค่ะ กันพลาดกันงงเวลาไปอยู่หน้าช็อปนะคะ ส่วนถ้าใครอยากเช็คหรือเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ สามารถมาเช็คได้ที่เว็ปไซต์ของ Priceza  www.priceza.com ได้เลยจ้า