หน้าแรก ไลฟ์สไตล์ บรั่นดีรีเจนซี่ ทำมาจากอะไร ต่างกับวิสกี้หรือเหล้าอย่างไร?

บรั่นดีรีเจนซี่ ทำมาจากอะไร ต่างกับวิสกี้หรือเหล้าอย่างไร?

91756
บรั่นดี-รีเจนซี่-ทำมาจากอะไรกันแน่

บรั่นดี” หรือเหล้าผลไม้หมัก แค่บอกแค่นี้คงจะรู้กันแล้วว่ามันผลิตมาจากผลไม้ ในประเทศไทยมีผู้ผลิตอยู่ 2 แบรนด์ดังคือ Regency และ Meridian โดยเจ้าแรกคือ รีเจนซี่ ซึ่งนำผลไม้มาหมักให้เป็นไวน์ก่อน จากนั้นจึงนำไปกลั่น แล้วเก็บหมักบ่มในถังไม้ตามกรรมวิธีเดียวกับเหล้าวิสกี้ รสชาติสุขุมนุ่มลึก และหอมกว่าเหล้าปกติ

บทความนี้สร้างขึ้นเพื่อให้ความรู้ มิได้มีเจตนาเพื่อส่งเสริมการขายแต่อย่างใด

ต้นกำเนิดเริ่มแรกบรั่นดีของรรีเจนซี่ ผลิตจากเหล้าองุ่นพันธุ์ไวท์มะละกาที่มีเปลือกสีเขียวอมเหลือง ผ่านกระบวนการกลั่นที่พิถีพิถันแล้วนำไปเก็บบ่มในถังไม้โอ๊คจากแคว้นลีมูซีนประเทศฝรั่งเศส ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี เพื่อให้เนื้อไม้ละลายลงไปในบรั่นดีหลอมรวมเป็นสีเหลืองอำพัน หอมกลิ่นไม้เผาและรสชาตินุ่มนวล เมื่อได้ที่แล้วก็ปรุงแต่งเพื่อบรรจุขวดจำหน่าย

องุ่นขาวมะละกาทำบรั่นดี รีเจนซี่

 

บรั่นดีรีเจนซี่ไม่ได้ผลิตจากองุ่นอย่างเดียว รุ่นผลิตจากองุ่นล้วน ๆ เรียกว่า Finest Grape Brandy ส่วนเหล้าบรั่นดีที่ผลิตจากองุ่นเบลนด์กับผลไม้ชนิดอื่น เรียกว่า Finest Thai Brandy สัดส่วนองุ่นลดลงและเพิ่มสับปะรดเข้ามาแทน คุณสมบัติของเหล้าบรั่นดีทั้งสองแบบมีรสชาติแตกต่างกัน ส่วนแบรนด์ Meridian นั้นผลิตมาจากสับปะรดจึงมีรสชาติแบบผลไม้มากกว่า

ผลไม้อะไรที่ใช้ผลิตบรั่นดีบ้าง

บรั่นดีอาจผลิตจากผลไม้อื่น ๆ เช่น แอปเปิ้ล, แบล็กเบอร์รี่, แอปริคอท, เชอร์รี่, แพร์, พลัม, พีช และผลไม้ท้องถิ่นนั้น เมื่อบ่มในถังไม้โอ๊ค รส สี และกลิ่นจะมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป บรั่นดีบางชนิดก็ไม่ผ่านการบ่มในถังไม้แต่อย่างใด โดยบรั่นดีที่กลั่นมาจากผลไม้อื่น ๆ เรียกว่า White Fruit Brandy เป็นเครื่องดื่มที่ผลิตจากผลไม้ชนิดอื่นนอกเหนือจากองุ่น เป็นเหล้ากลั่นเหมือนกันเพียงแต่ไม่บ่มในถังไม้ มีกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของผลไม้ชนิดนั้น ต้องนำมาหมักบ่มต่ออีกขั้นจึงจะเรียกว่าบรั่นดีได้

ผลไม้ในการทำบรั่นดี

รีเจนซี่ องุ่น สับปะรด ดูยังไง

อย่างที่กล่าวไปว่าผลไม้ที่ใช้เอามาทำบรั่นดีรีเจนซี่ มีทั้งองุ่นและสับปะรด ซึ่งมีความแตกต่างกัน ถ้าเป็นองุ่นล้วน จะเขียนข้างขวดว่า Finest Grape Brandy ส่วนเหล้าบรั่นดีที่ผลิตจากองุ่นเบลนด์กับสับปะรด จะเขียนข้างขวดว่า Finest Thai Brandy ซึ่งรสชาติที่เป็นผสมกับสับปะรดจะละมุนหอมหวานแนวฟรุตตี้มากกว่า

วิธีการทำบรั่นดี

เรามาดูกรรมวิธีการผลิตเหล้าบรั่นดีกัน ด้วยความที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใช้ผลไม้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ทำให้การทำอาจจะมีต้นทุนสูงและต้องใช้เวลาพอสมควร

  1. นำองุ่นสุกจัดหรือผลไม้อื่น ๆ ที่สุกจัดมีความหวานมากยิ่งดี นำมาบดพอละเอียดเป็นน้ำองุ่นแล้วหมักเป็นไวน์ ในระยะแรกจะทำให้น้ำตาลในผลไม้เปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ หลังจากหมักได้ที่แล้วจะกรองเปลือกออกให้หมดแล้วนำไปใส่ถังหมักใหม่เป็นครั้งที่สอง
  2. ก่อนนำมาต้มกลั่นไวน์จะมีลักษณะค่อนข้างเป็นกรด รสชาติไม่นุ่มนวล กระบวนการกลั่นมีหลายรูปแบบแตกต่างกันในด้านระยะเวลา
  3. บรั่นดีที่ผ่านการกลั่น 2 ครั้ง ทำให้แอลกอฮอล์ลดต่ำไปเรื่อย ๆ เจือจางปริมาณแอลกอฮอล์ลดเหลือ 40% โดยประมาณ ซึ่งการหมักบ่มในถังไม้โอ๊คจะใช้อุณหภูมิต่ำประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส
  4. เมื่อหมักบ่มได้ที่แล้ว แต่งกลิ่น สี และความหวานแล้วได้สีเหลืองทอง สีเข้มสวยใส ไม่มีตะกอน จึงบรรจุขวดเรียบร้อย

ตัวอย่าง การหมักบรั่นดี Regencyรีเจนซี่เป็นบรั่นดีไทยที่ได้รับความนิยมมาก แม้ว่าทุกวันนี้ราคาจะปรับแพงขึ้น แต่ก็ยังขายดีเพราะรสชาติที่นุ่มกว่าสุราไทยแบรนด์อื่น ๆ

 

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับที่มาของบรั่นดีว่า ก่อนศตวรรษที่ 16 เครื่องดื่มไวน์เป็นสินค้ายอดนิยมที่ซื้อขายกันแพร่หลายในภูมิภาคยุโรป จนกระทั่งช่วงต้นศตวรรษที่ 16 พ่อค้าชาวดัตช์ผุดไอเดียส่งไวน์ลงเรือที่มีพื้นที่เก็บสินค้าจำกัดด้วยการกลั่นเอาน้ำออกจากไวน์ก่อน แล้วค่อยเติมน้ำกลับเข้าไปเจือจางไวน์ที่เข้มข้นที่ท่าเรือปลายทางในฮอลแลนด์

 

บรั่นดีไวน์ (brandywine) มาจากภาษาดัตช์คำว่า “brandewijn” หมายถึงการเผาไวน์ หรือนำเหล้าองุ่นมากลั่น ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็น “บรั่นดี” นั่นเอง

 

บรั่นดีแบบ รีเจนซี่ เป็นแบบ V.S.O.P. หรือ Very Superior Old Pale ต้องใช้เวลาหมักบ่มนานหลายปี โดยเฉลี่ยระยะเวลาของเหล้าระดับ V.S.O.P. ในตลาดเครื่องดื่มโลกอยู่ที่ 8 ปีเลยทีเดียว ถือว่ามีคุณภาพมากกว่าบรั่นดีแบบ V.O. บ่งชี้ว่าบรั่นดีมีอายุอย่างน้อย 4 ปี ส่วนบรั่นดีแบบ Napoleon, Extra และ Vieille Reserve แสดงว่ามีการหมักบ่มอย่างน้อย 5 ปี

บรั่นดี-รีเจนซี่-ทำมาจากอะไร-ขวดแบน

เปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Meridian คือบรั่นดีที่ผลิตจากสับปะรดปัตตาเวียที่มีลักษณะพิเศษเนื้อสีเหลืองทอง เวลาสุกจัดฉ่ำน้ำ รสหวานอมเปรี้ยว และมีกลิ่นหอมของสับปะรด เมื่อนำมาผสมกับองุ่นทำให้รสละมุนนุ่มนวลคล้ายกับไวน์ผลไม้ ผ่านการกลั่น 2 รอบ ใช้เวลาบ่ม 4 ปีให้รสชาตินุ่มลึกกลมกล่อม

 

หลังจากอ่านบทความนี้จบ คงจะทราบกันแบบไม่ต้องเดาแล้วว่าทำไม ราคารีเจนซี่ที่ถึงแพง กว่าจะผ่านกรรมวิธีที่ใช้ในการหมัก การกลั่น อย่างยาวนานจนเกิดเป็นบรั่นดีเลิศรสแบบ สีออกทองแดงเข้มสวยงาม และมีกลิ่นหอมละมุน จึงไม่แปลกใจที่จะอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน

**การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อาจเป็นเหตุให้พิการหรือเสียชีวิตได้ และการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ให้เฉพาะผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ถือว่ามีความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย 

 

บทความน่าสนใจที่เกี่ยวข้อง