เครื่องซักผ้า

สำหรับการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า นอกจากฟังก์ชั่นในการใช้งานแล้วสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ เรื่องของความแข็งแรงทนทาน เพราะลงทุนซื้อเครื่องทั้งที จะให้ใช้ไม่กี่ปีแล้วเสียก็คงจะไม่ดีแน่ๆ ซึ่งทั้ง 5 เครื่องต่อไปนี้ก็มีทั้งข้อดีเรื่องการใช้งาน และเรื่องของความทนทานที่ช่วยให้มั่นใจกันมากขึ้นด้วย 

1. ELECTROLUX EWF12853
เครื่องซักผ้าฝาหน้าที่ได้รับประกันในเรื่องของการดูแลรักษาเนื้อผ้าได้อย่างดี โดยเฉพาะการซักผ้าขนสัตว์ ที่เครื่องนี้จะสามารถช่วยรักษาคุณภาพของขนสัตว์ให้เป็นอย่างดี เมื่อซักแล้วมั่นใจได้เลยว่าผ้าขนสัตว์ของเพื่อนๆ จะไม่จับตัวกันเป็นก้อนแน่นอน ที่สำคัญคือการมีเซ็นเซอร์ที่ช่วยตรวจจับความชื้นทำให้การใช้งานระบบอบแห้งของเครื่องซักผ้ารุ่นนี้ จะไม่ทำให้ผ้าแห้งหรือกรอบจนเกินไปจากการใช้โหมดอบผ้า 
นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องของการนำเทคโนโลยีที่ชื่อ Vapour Refresh มาใช้งาน ซึ่งเจ้าเทคโนโลยีที่ว่านี้ก็จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการกำจัดเชื้อโรค 99.9% โดยจะใช้ความร้อนจากไอน้ำที่นอกจากจะช่วยเรื่องของการกำจัดเชื้อโรคแล้ว ยังช่วยให้ผ้าเรียบได้ง่ายขึ้นแม้จะไม่ได้ใช้เตารีด เรียกได้ว่าเป็นเครื่องซักผ้าที่ช่วยให้ผ้าสะอาด ถนอมผ้าได้ดี แถมยังช่วยให้ผ้าพร้อมใช้งานเมื่อตากเสร็จทันทีอีกด้วย 

2. PANASONIC รุ่น NA-F100A2
เครื่องซักผ้าฝาบนที่มาพร้อมกับระบบและโปรแกรมการซักผ้าที่หลากหลายให้เลือก เริ่มจากเรื่องของการดีไซน์ที่รุ่นนี้มีการออกแบบให้ด้านหน้าของเครื่องนั้นลาดต่ำลงเล็กน้อยแล้วให้ตัวถังนั้นยกสูงขึ้นจากพื้นประมาณหนึ่ง ซึ่งสาเหตที่ออกแบบเช่นนี้ก็เพื่อให้ง่ายต่อการนำผ้าใส่เครื่องได้ง่าย และหยิบผ้าออกจากเครื่องได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องออกแรงก้มมากจนเกินไปนั่นเอง 

สำหรับเรื่องของการใช้งาน เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ก็ยังมีการนำใบพัดแบบคลื่นคู่มาใช้งานเพื่อเพิ่มพลังซักให้เข้าถึงเนื้อผ้าได้มากยิ่งขึ้น ทำให้การซักผ้าแต่ละครั้งนั้น ช่วยให้ได้ผ้าที่สะอาดอย่างเห็นได้ชัด เพราะสิ่งสกปรกหลุดออกจากผ้าได้อย่างหมดจด ส่วนเรื่องของโปรแกรมในการซักนั้น ทางผู้ผลิตก็ผลิตมาให้เครื่องซักผ้ารุ่นนี้มีฟังก์ชั่นในการใช้งานที่ตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นการซักผ้าจำนวนมาก ซักผ้าห่ม ซักผ้าขนสัตว์ เสื้อกันหนาว และอีกมากมายที่ช่วยทุ่นแรงได้ดีทีเดียว

3. TOSHIBA รุ่น AW-B1100GT
เครื่องซักผ้าที่ได้รับความนิยมในบ้านเราเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นทำให้หลายๆ คนชื่นชอบในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงาน และระบบการใช้งานที่ง่ายสำหรับคนไทยซึ่งเครื่องซักผ้ารุ่นนี้ก็มีระบบที่น่าสนใจอย่างการตั้งเวลาซักล่วงหน้าได้ โดยสามารถล่วงหน้าได้นานที่สุดถึง 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนใครที่ต้องใช้ผ้าด่วนก็ยังมีโหมดของการซักผ้าด่วนมาให้ด้วย ทำให้ได้ผ้าที่รวดเร็วพร้อมใช้งานได้ทันที เหมาะกับคนหนุ่มสาวที่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบได้เป็นอย่างดี 

นอกเหนือจากนี้ เครื่องซักผ้าฝาบนรุ่นนี้ก็ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของระบบการซักผ้าที่เรียกว่า Powerful Hybrid Pulsator ซึ่งเป็นระบบการซักผ้าที่ช่วยขจัดคราบสกปรกได้อย่างต่อเนื่องและเห็นผลได้ชัดในการซักแต่ละครั้ง ซึ่งนอกจากเรื่องของกำลังซักที่ยอดเยี่ยมแล้ว เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ก็ยังมีระบบ Circular Intake ที่ช่วยให้ผ้าที่ซักแห้งเร็วยิ่งขึ้นด้วย 

4. TOSHIBA รุ่น AW-A750ST
เครื่องซักผ้าฝาบนที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการทำงานที่เงียบสนิทไร้เสียงรบกวน ซึ่งเครื่องซักผ้ารุ่นนี้มีเทคโนโลยีที่ผสมผสานกับการออกแบบตัวเครื่อง โดยการให้อากาศเข้าสู่ตัวเครื่องได้แบบรอบทิศทาง ช่วยให้การทำงานนั้นเงียบมากขึ้นอีกทั้งยังช่วยให้ผ้าแห้งสนิทเร็วขึ้นหลังการซักอีกด้วย นอกจากนี้เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ก็ยังใช้ถังซักแบบ Star Crystal Drum ซึ่งเป็นถังซักแบบสแตนเลสที่เพิ่มความสามารถในการถนอมผ้าขณะซัก และระบบ Hydro Twin Power ที่เป็นระบบช่วยขจัดคราวสกปรกจากกระแสน้ำวน มั่นใจได้เลยว่า ผ้าที่ซักเสร็จแล้วจะสะอาดและแห้งไว้อย่างแน่นอน 

5. SAMSUNG รุ่น WA75H4000SG/ST
ปิดท้ายกันด้วยเครื่องซักผ้าจากแบรนด์สุดสมาร์ทอย่างซัมซุงกันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้ก็มีตัวถังซักสแตนเลสที่มีการดีไซน์ออกมาแบบเฉพาะของเครื่องซักผ้าจากแบรนด์นี้โดยเฉพาะ โดยระบบที่น่าสนใจของเครื่องซักผ้ารุ่นน็คือ Air Turbo Drying System ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ผ้าแห้งได้เร็วขึ้น ด้วยการหมุนเร็วขึ้นขณะซักเพื่อดึงน้ำออกจากผ้าให้มากที่สุด รวมทั้งตัวเครื่องจะทำการเป่าลมเข้าไปในถังซักเพื่อช่วยให้ผ้าแห้งไว้ขึ้นอีกด้วย 
นอกจากนี้ก็ยังมีระบบ Wobble ซึ่งเป็นระบบที่ทาง Samsung ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้นมา โดยระบบที่ว่านี้จะช่วยสร้างกระแสน้ำวนในขณะซัก ทำให้ผ้าไม่ติดพันกันรวมทั้งยังช่วยให้ผ้าสะอาดโดยทั่วถึงแบบไม่มีการทำลายเนื้อผ้า ที่สำคัญที่สุดก็คือ ระบบนี้ยังไม่ทำให้ผ้าที่ซักเสร็จแล้วเกิดรอยย่นหรือรอยยับตามมาด้วย เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัวมากทีเดียว 

ทั้ง 5 รุ่นนี้ก็เป็นเครื่องซักผ้าที่น่าสนใจ และมียอดการค้นหามากที่สุดในปี 2019 ส่วนเรื่องของระบบการทำงานและฟังก์ชั่นเด่นๆ ที่น่าสนใจ คงต้องให้ผู้ใช้งานเป็นคนตัดสินใจแล้วล่ะว่า รุ่นนี้จะได้ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด

เมื่อพูดถึงเรื่องเครื่องซักผ้าแล้ว หากจะไม่กล่าวถึงระบบ Inverter เลยก็คงจะไม่ได้ เพราะระบบนี้คือระบบใหม่ที่มีการนำมาใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม แถมยังมีบางคนบอกว่าระบบ Inverter นั้นช่วยในเรื่องของการประหยัดไฟได้ดี เอาเป็นว่าชาว Priceza ที่ยังไม่รู้จักระบบนี้ ลองมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลย

ระบบ Inverter คืออะไร ?
ก่อนอื่นเลยมาทำความรู้จักกับระบบ Inverter นี้กันก่อนเลย ซึ่งความหมายของระบบนี้ก็คือสมองกล หรือ CPU ของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้นๆ เพราะเจ้าสมองกลตัวนี้จะมีความอัจฉริยะที่ช่วยสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้สามารถทำงานในรูปแบบ หรือทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสมได้มากยิ่งขึ้น เช่น ระบบการทำงานที่ช่วยปรับอุณหภูมิห้องให้มีความเย็นคงที่ กรณีที่เป็นระบบ Inverter ในเครื่องปรับอากาศ หรือการดูดกลิ่นเหม็นอับของอาหารในตู้เย็นเมื่อระบบตรวจจับได้ว่ามีการแช่อาหารมากจนเกินไป และแม้แต่การสั่งการให้เกิดการทำงานที่ประหยัดพลังงานขึ้น เพื่อช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือระบบ Inverter ที่เริ่มมีบทบาทและสำคัญมากขึ้นสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบัน 

ประโยชน์ของระบบ Inverter ในเครื่องซักผ้า
ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการนำเอาระบบ Inverter มาใช้นั้น จะเห็นได้ชัดว่าเรื่องของระบบการทำงานมีความแตกต่างออกไป โดยเฉพาะระบบของการซัก ซึ่งเครื่องซักผ้าแบบปกติที่ไม่มี Inverter จะเป็นการซักแบบหมุนไปในทิศทางเดียวเป็นหลัก แต่ในรุ่นที่มีการใส่เทคโนโลยีประเภทนี้เข้าไปแล้ว การทำงานของระบบซักก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จากการหมุนทิศทางเดียว ก็อาจเปลี่ยนไปเป็นการหมุนแบบ 3 ทิศทาง หรือมากกว่านั้น โดยการหมุนในหลายทิศทางก็ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการซํกเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้ผ้ามีความสะอาดมากขึ้นด้วย เพราะมอเตอร์ทีใช้จะเปลี่ยนไปจากเดิม เพื่ออำนวยให้ระบบ Inverter สามารถที่จะสั่งงานในการซักแบบต่างๆ ได้นั่นเอง 

ไม่เพียงแค่เรื่องของประโยชน์ในการซักผ้าให้สะอาดมากขึ้นเท่านั้น แต่ความอัจฉริยะของระบบ Invertet ที่มีอยู่ในเครื่องซักผ้าก็ยังช่วยควบคุมในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น การทำงานที่มีความนิ่งและเงียบมากขึ้น, การควบคุมปริมาณของน้ำที่ใช้ในการซักผ้าแต่ละครั้ง รวมทั้งการควบคุมการหมุนสำหรับการอบผ้า เพื่อช่วยให้ผ้าแห้งได้ไวขึ้นและถนอมผ้า นอกจากนี้แล้ว ในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ระบบ Inverter ก็มีความสำคัญในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เพราะมันสามารถที่จะควบคุมการทำงานให้ใช้พลังงานลดลงแต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำงานได้ ซึ่งก็มีผลต่อการประหยัดไฟและประหยัดน้ำได้ดี ทำให้การเลือกใช้เครื่องซักผ้าที่มีระบบ Inveter นั้นตอบโจทย์ทั้งด้านการซักผ้าและด้านการประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี 

เรียกได้ว่าเครื่องซักผ้าระบบ Inverter ก็เป็นการนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้กับการทำงานในหลายด้านมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นระบบอัจฉริยะที่ช่วยให้การซักผ้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟให้กับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย 

ก่อนที่เพื่อนๆ ชาว Priceza จะตัดสินใจซื้อเครื่องซักผ้ากัน เราก็มีคำแนะนำเกี่ยวกับกาเลือกซื้อ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ความคุ้มค่าของเครื่องซักผ้าได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน ราคา และตอบโจทย์กับค่าใช้จ่ายมากแค่ไหน โดยเคล็ดลับของการซื้อเครื่องซักผ้าให้ถูกและคุ้มนั้นก็มีอยู่ 3 ข้อด้วยกัน คือ 

1. ดูรุ่นที่เหมาะกับการใช้งาน
ข้อแรกของการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าก็คือ ต้องเลือกจากรุ่นที่เหมาะสมต่อการใช้งาน ซึ่งการใช้งานนั้นก็มีตั้งแต่เรื่องของปริมาณการซัก, รอบการหมุนของเครื่องซักผ้า และประเภทของเครื่องซักผ้า โดยเรื่องของประมาณนั้น เพื่อนๆ ต้องดูจากจำนวนสมาชิกในครอบครัวก่อนอาทิเช่น หากอยู่กันเพียง 1-2 คน ควรเลือกเครื่องซักผ้าที่เหมาะต่อการซักขนาด 3-5 กิโลกรัมก็เพียงพอ เพราะหากใหญ่กว่านั้นก็ต้องเปลืองค่าน้ำและไฟเพิ่มขึ้นด้วย หรือถ้าหากอยู่อาศัยเป็นครอบครัวเช่น 3-4 คน เครื่องซักผ้าที่ควรเลือกก็อยู่ที่ประมาณ 6-8 กิโลกรัมก็เพียงพอ แต่หากเป็นครอบครัวใหญ่กว่านั้นก็สามารถเลือกขนาดใหญ่ขึ้นไปอีกได้ 

มาถึงเรื่องของรอบการหมุนกันบ้าง สำหรับรอบของการหมุนนั้น จะมีผลต่อระยะเวลาในการซักผ้าแต่ละครั้ง เพราะยิ่งรอบหมุนมีความเร็วมาก ก็จะยิ่งใช้เวลาในการซักน้อยลง ทั้งนี้การเลือกรอบหมุนเร็วแม้ว่าจะดูมีข้อดีอยู่ก็ตาม แต่เพื่อนๆ ต้องไม่ลืมที่จะพิจารณาด้วยว่ามีระบบถนอมผ้าหรือไม่ เพราะรอบหมุนเยอะก็ย่อมมีความเสี่ยงต่อความเสียหายกับเนื้อผ้าด้วย 

สุดท้ายเรื่องของประเภทเครื่องซักผ้า ปัจจุบันจะมีสามแบบด้วยกันคือ แบบสองถังฝาบน, แบบฝาบนถังเดี่ยว และแบบซักผ้าฝาหน้า ซึ่งแต่ละแบบก็มีประโยชน์ต่อการใช้งานที่ต่างกันด้วย ซึ่งเพื่อนๆ ต้องศึกษาดูให้ดีก่อนตัดสินใจกันด้วย 

2. เช็คโปรโมชั่นก่อนซื้อ
หากเพื่อนๆ ต้องการให้ได้เครื่องซักผ้าในราคาสุดคุ้มค่าแล้วล่ะก็ การตรวจสอบหาโปรโมชั่นในการซื้อสินค้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ได้เครื่องซักผ้าราคาที่ถูกที่สุดได้ ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นของทางแบรนด์ผู้ผลิต หรือโปรโมชั่นของร้านและห้างสรรพสินค้า รวมทั้งการซื้อในมหกรรมลดราคาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ก็เป็นช่วงเวลาที่เพื่อนๆ จะได้ซื้อสินค้าในราคาสุดพิเศษที่คุ้มค่าได้ ทั้งนี้การเช็คโปรโมชั่นก็สามารถทำได้ทั้งการหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ รวมทั้งบน Priceza.com เองก็มีโปรโมชั่นมาให้เพื่อนๆ ได้เช็คกันอยู่เป็นประจำอีกด้วย 

3. เปรียบเทียบราคา
สุดท้ายนี้เมื่อเพื่อนๆ ได้รุ่นและแบรนด์ที่ต้องการแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะเปรียบเทียบราคาสินค้าในแต่ละแห่งทั้งร้านค้าที่มีหน้าร้าน และร้านค้าออนไลน์ เพราะการเปรียบเทียบจะช่วยให้ค้นหาร้านค้าที่จำหน่ายในราคาถูกที่สุดได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด ซึ่งถ้าหากว่าเพื่อนๆ ยังไม่รู้ว่าจะไปเปรียบเทียบราคาจากที่ไหนดี ก็สามารถเข้ามาค้นหาข้อมูลการเปรียบเทียบราคากับทาง Priceza.com กันได้เลย รับรองว่าจะได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด ถูกที่สุด อย่างที่ต้องการได้แน่นอน 

ใครที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้าก็อย่าลืมนำเคล็ดลับทั้งสามข้อนี้ไปลองใช้ในการเลือกซื้อกันดู เพราะเพื่อนๆ จะได้ทั้งเครื่องซักผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งาน และเป็นเครื่องซักผ้าที่มีราคาถูกสุดคุ้มค่าไปใช้งานกันอีกด้วยนะ