หูฟัง

ก่อนจะไปทำการเลือกซื้อคุณควรจะต้องรู้จักประเภทของหูฟังกันก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีอยู่ 4 ประเภท ดังนี้
 

1. Earbuds
   แบบนี้เป็นแบบพื้นฐานที่เราเคยเห็นกันมาตั้งแต่ยุคก่อนที่อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังไม่ฮิตมาก ข้อดีก็คือ สวมสบาย ๆ ง่าย ๆ ไม่รู้สึกเจ็บและไม่อึดอัด เรื่องการพกพาก็สามารถทำได้อย่างสะดวก แต่ข้อเสียก็คือ สามารถมีเสียงอื่นเล็ดลอดเข้ามาในหูได้ เพราะแบบนี้จะวางไว้บนรูหูเท่านั้น ไม่ได้เสียบเข้าไปในรูหู ทำให้การฟังบางครั้งจะรู้สึกไม่ชัดและรายละเอียดเสียงบางอย่างจะหายไป

2. In-Ear
   เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบันนี้ ลักษณะการใช้งานหูฟังแบบนี้ก็ต้องใช้เสียบเข้าไปในรูหู และระบบของไดร์เวอร์ขับเสียงนั้น มีให้เลือกหลายแบบทั้งแบบ Dynamic, Balance Armature, Hybrid ซึ่งการจัดสมดุลเสียงในแต่ละแบบก็จะให้อารมณ์ที่ต่างกันไป ข้อดีของแบบนี้คือ ผู้ใช้งานจะได้ยินรายละเอียดเสียงชัดเจน ไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอก การพกพาก็ง่ายและสะดวก ข้อเสียก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยินเสียงรบกวนนี่เอง ถ้าใช้อยู่ในห้องเงียบ ๆ เลือก Headphone แบบนี้จะดีมาก แต่ถ้าต้องใช้อยู่ในที่สาธารณะก็จะมีความเสี่ยง เพราะจะไม่ได้ยินอะไรรอบข้างเลย เกิดเหตุอะไรขึ้นก็จะไม่ทันได้ระวังตัว

3. Full-Size
   แบบนี้จะเรียกว่าแบบครอบหูก็ได้ มักใช้กันในห้องบันทึกเสียง แต่ปัจจุบันก็มีการนำมาใช้ในงานอื่น ๆ มากมาย ตัวโครงสร้างจะมีขนาดที่ใหญ่สามารถครอบปิดหูได้มิดชิด ซึ่งแน่นอนว่าการให้รายละเอียดและคุณภาพเสียงจะทำได้ดีที่สุด เพราะมีไดร์เวอร์ขับเสียงที่ใหญ่กว่าและมากกว่า แต่ข้อเสียก็คือ ความใหญ่เทอะทะและน้ำหนักที่มากกว่า จึงไม่เหมาะที่จะใช้พกพาไปข้างนอก

4. On-Ear
   แบบนี้ลักษณะจะคล้าย ๆ แบบ Full-Size แต่ขนาดจะเล็กกว่าเล็กน้อย ตัวแพดจะเล็กกว่าครอบหูไม่ได้ทั้งหมด จึงเป็นลักษณะของการวางใบที่ใบหูแทน เรื่องคุณภาพของเสียงก็ไม่ได้ด้อยกว่า Full-Size นัก กำลังขับพลังเสียงและการให้รายละเอียดเสียงก็ถือว่าทำได้เยี่ยม อีกทั้งเรื่องการพกพาก็ถือว่าสะดวกกว่าแบบ Full-Size มาก แต่ข้อเสียก็คือ เวลาใช้งานต้องสวมครอบวางทับไว้บนใบหู จึงทำให้เมื่อฟังไปนาน ๆ เกิดอาการปวดใบหูได้

เมื่อคุณรู้ประเภทของหูฟังในแต่ละแบบแล้ว ทีนี้สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปก็คือเรื่องของราคาแต่ละแบบ ซึ่ง Headphone แต่ละแบบนั้นก็จะมีหลายรุ่นหลายราคา แบ่งตามยี่ห้อและคุณภาพเสียง สิ่งที่คุณจะต้องทำเพื่อให้ง่ายต่อการกำหนดการเลือกซื้อก็คือ ลองกำหนดช่วงราคาที่คุณคิดว่าคุณจะควักกระเป๋าจ่ายไหว เช่น ช่วงราคาตั้งแต่ 1,000-3,000 บาท หรือ 5,000-10,000 บาท การกำหนดช่วงราคาไว้แบบนี้จะช่วยลดจำนวนรุ่นที่คุณต้องการ จากหลายสิบรุ่นให้เหลือไม่กี่รุ่นตามช่วงราคาที่คุณกำหนดไว้ ซึ่งแบบนี้จะช่วยให้คุณเริ่มตัดสินใจในการเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นไปอีก และถ้าคุณตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกรุ่นไหน Headphone ที่คุณซื้อก็จะไม่เกินงบประมาณที่คุณเตรียมไว้อีกด้วย

ถ้าต้องการหูฟัง คุณภาพเสียงดี รูปลักษณ์ดีไซน์สีสันสวยงาม และราคาที่ไม่แรงจนเกินไป แวะมาดูกันได้ที่ Priceza เว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคน ด้วยสินค้าคุณภาพที่คัดสรรแล้วในราคาที่คุณต้องถูกใจ

คำค้นหายอดนิยมในหมวดหมู่นี้ : หูฟังไร้สาย , หูฟังเกมส์มิ่ง , หูฟังครอบหู , หูฟัง in ear , หูฟัง JBL , หูฟัง JBL Bluetooth , หูฟัง Sony , หูฟัง Marshall