ราคา รถมือสอง

การจะตื่นไปทำงานแต่ละทีนี่มันช่างยากเย็นแสนเข็ญจริง ๆ นะครับ เพราะถ้าใครไม่มีรถนี่การไปทำงานก็เหมือนกับการก้าวเท้าลงนรกยังไงยังงั้นเลย ไหนจะต้องยืนรอรถโดยสาร พอรถมาก็ไม่รู้ว่าจะมีที่นั่งรึเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้องยืนกันไปยาว ๆ และถ้าบ้านใครอยู่ไกลที่ทำงานก็อาจจะต้องมีการต่อเรือ ต่อวิน ต่อ BTS ยุ่งยากสุด ๆ ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มหันมาดูราคารถมือสองกันแบบจริง ๆ จัง ๆ เพราะหวังว่าการมีรถขับจะช่วยให้ชีวิตสบายขึ้นนั่นเอง

แต่ก่อนที่เราจะไปพูดถึงเรื่องของราคารถมือสอง ปัญหาที่น่าปวดหัวสำหรับมือใหม่ที่คิดจะซื้อรถหลาย ๆ คนก็คงเป็นเรื่องของอายุรถนี่แหละครับ เพราะมันเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องรู้ ก่อนซื้อรถมือสองเลยล่ะ เนื่องจากอายุรถที่ใหม่เกินไป ก็จะมีราคาที่แพงจนไม่ต่างกับซื้อรถมือหนึ่งป้ายแดง แต่สำหรับรถที่มีอายุการใช้งานมานานหลายปี ถึงแม้ราคาจะตกลงมาก็จริง แต่ก็หนีไม่พ้นปัญหาเรื่องค่าซ่อมแซม เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อรถมือสอง แนะนำให้ศึกษาและทำความเข้าใจกับอายุของมันซะก่อน จะได้เลือกซื้อรถมือสองมาใช้งานได้แบบไม่ต้องมีปัญหาตามมา

1. รถอายุ 1-2 ปี

ราคารถมือสองอายุ 1-2 ปี จะยังไม่ตกมาจากเดิมมากเท่าไหร่ แต่ก็มากพอที่เราจะตัดสินใจซื้อได้ ดีกว่าไปจัดรถมือ 1 ป้ายแดงเยอะ เพราะราคามันจะห่างกันเกือบแสนเลยล่ะ ซึ่งสภาพการใช้งานของรถยนต์อายุเท่านี้ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากรถมือ 1 เลยล่ะครับ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่ารถยนต์เค้าไม่ได้สร้างมาให้ใช้งานได้แค่ปีสองปี แต่สามารถใช้งานกันได้ยาว ๆ ถึง 20-30 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าเงินพร้อม ทุกอย่างพร้อม รถมือสอง อายุ 1-2 ปี ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยล่ะ

2. รถอายุ 2-3 ปี

ราคาไม่ได้ต่างกับรถอายุ 1-2 ปีเลยล่ะครับตรงนี้ ส่วนใหญ่เจ้าของเต้นท์ หรือผู้ขายเค้าก็มักจะใช้กลยุทธ์ปั่นราคา ทำทีเป็นว่าลดราคาลงมาให้เราเยอะมาก แต่จริง ๆ แล้วเค้าแค่ตั้งราคาสูงเกินจริงไว้แต่แรก ซึ่งถ้าจะให้ดี แนะนำว่ากำเงินในมือเอาไว้ แล้วมองหารถอายุ 1-2 ปีมาใช้ดีกว่า เพราะเหมือนเราซื้อรถในราคาเท่าเดิมแต่ได้อายุการใช้งานเพิ่มมาฟรี ๆ งั้นแหละ

3. รถอายุ 3 ปี

นี่แหละครับเป้าหมายที่แท้จริงของคนที่ต้องการซื้อรถมือสอง เพราะราคารถมือสองในรอบปีที่ 3 นี้จะลดต่ำลงมากกว่าเดิมอยู่ที่ 80% หรือถ้าหากันหนักหน่อย มีความอดทนสูงก็อาจจะเจอคนที่ขายในราคา 60% จากราคารถใหม่เลยก็ได้ ที่เป็นแบบนี้เพราะในช่วงระหว่าง 3-4 ปีนี้ได้มีรถรุ่นใหม่เปิดตัวขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คนแห่ขายรถเก่าไปซื้อรถใหม่ และทำให้รถค้างในตลาดไล่ลงมาตามปี พอขายไม่ออกก็ลดราคากัน จึงส่งผลกระทบมาถึงรถที่มีอายุ 3-4 ปี ทำให้ราคามันตกได้ขนาดนี้ เราจึงมีอำนาจการต่อรองเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้ของดีในราคาที่คุ้มเกินคาด ก็ต้องจัดรถมือสองช่วงปีนี้นี่แหละครับ

4. รถอายุ 4-5 ปี

ราคาจะไม่ตกลงไปมากกว่ารถที่มีอายุ 3 ปีแล้วล่ะครับ ยิ่งถ้าเป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมอย่าง Civic, Vios, Accord อะไรทำนองนี้ก็ไม่ต้องไปหวังเลย เพราะราคาจะยังคงทรง ๆ ตกลงเต็มที่ก็แค่ 5-10% จากเดิมเท่านั้น

5. รถอายุ 6 ปีขึ้นไป

สำหรับรถมือสองที่มีอายุมากกว่า 5-6 ปีขึ้นไป เอาจริง ๆ ก็ต้องบอกเลยว่าไม่น่าใช้งานสักเท่าไหร่แล้วล่ะครับ เพราะมันจะเริ่มมีปัญหาจุกจิกมาให้เราเห็นบ้างแล้ว จากที่เราจะซื้อรถเพื่อมาใช้งานกันได้แบบสบาย ๆ ก็อาจกลายเป็นว่าต้องมานั่งอารมณ์เสียวิ่งซ่อม วิ่งซ่อม อยู่แบบนี้ก็ได้ ถึงแม้ราคารถมือสองอายุ 6 ปี มันจะล่อตาล่อใจ แต่ถ้าไม่ใช่คนที่ชำนาญการเรื่องรถยนต์จริง ๆ อยากใช้รถแบบสบายใจ ก็แนะนำว่าอย่าเสี่ยงเลยดีที่สุด

5 อันดับรถมือสองราคาถูก ที่คนไทยนิยมใช้กัน

หลังจากเข้าใจถึงช่วงอายุรถที่น่าคบค้าสมาคมด้วยไปแล้ว ก่อนจากกันไปวันนี้เราจะพาทุกคนไปดู 5 อันดับรถมือสองยอดนิยม ที่ราคาถูกลงกว่าเดิมเยอะ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ จะได้ซื้อรถมือสองมาใช้งานได้ในราคาประหยัด และที่สำคัญจะซ่อมแต่ละทีไม่ต้องกลัวเรื่องอะไหล่ เพราะคนไทยใช้กันทั้งประเทศ

1. Suzuki Swift รุ่นปี 2012-2013 - ราคาประมาณ 350,000 - 390,000 บาท

2. Toyota Yaris 1.2 รุ่นปี 2013-2014 - ราคาประมาณ 370,000 - 460,000 บาท

3. Toyota Vios รุ่นปี 2011-2012 - ราคาประมาณ 320,000 - 380,000 บาท

4. Honda City รุ่นปี 2012-2013 - ราคาประมาณ 320,000 - 480,000 บาท

5. Mazda3 1.6 รุ่นปี 2012-2013 - ราคาประมาณ 360,000 - 470,000 บาท

นี่ก็เป็นแค่ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องรถยนต์เท่านั้นนะครับ เพราะเอาจริง ๆ แล้วรสนิยมคนเรานั้นแตกต่างกันมาก บางคนอาจจะหลงใหลในความคลาสสิค ชอบรถยนต์รุ่นเก่า ๆ ซื้อมาขับแล้วมีความสุข แบบนี้จะให้หันไปใช้รถปีใหม่ ๆ ก็คงจะไม่ตอบโจทย์ เอาเป็นว่าถ้าชอบอะไร ก็ซื้อแบบนั้นแล้วกันเนอะ ส่วนเรื่องจะต้องซ่อมมั้ยหรือยังไง ก็แค่เตรียมมองหาอู่ที่ไว้ใจได้เอาไว้ก็พอ เพราะยังไงการใช้รถยนต์มันก็ต้องมีสักวันที่เราต้องเข้าอู่ เข้าซ่อม ดังนั้นถ้าเตรียมตัวเอาไว้ก็จะช่วยให้เราประหยัดเวลา และสบายใจในการใช้รถได้มากเลยล่ะ