เสร็จสิ้น จัดเรียงตาม
พระเครื่อง
:
พระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกรุ่นแรก เนื้อทองคำ ปี2510 อีกหนึ่งยอดวัตถุวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) วัดพระเชตุพนวิมนมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ท่าเตียน นับเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรมหาวิหารแต่เดิมชื่อ “วัดโพธาราม” เป็นวัดโบราณที่มีมานานแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเคียงคู่กับ”วัดสลัก” ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อ “พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ทรงย้ายราชธานีมาทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทรงบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่หลังจากที่ทรง
ติดต่อร้านค้า
พระเครื่อง
:
กริ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รุ่น 4 ปี 2533 พระกริ่งรุ่นนี้มีเฉพาะเนื้อทองคำ เนื่องจากสร้างจำนวนน้อย จึงหาได้ยากมาก กริ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รุ่น 4 ปี 2533 วัดเชตุุพน (วัดโพธิ์ท่าเตียน) มูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้า ทองคำรวมกรอบหนัก 35.0 กรัมองค์นี้เจ้าของได้รับจากพระหัตถ์ในหลวงในวัดพระแก้วครับ (ข้อมูลที่แจ้งมา) สำหรับพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ผู้ที่บริจาคเงินให้กับมูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้า จะได้รับจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มี 4 รุ่น คือ รุ่นที่ 1.
ติดต่อร้านค้า
พระเครื่อง
:
ติดต่อร้านค้า
คูปองส่วนลดจากร้านค้า
โค้ด PRZOCT25A ลด 30% ขั้นต่ำ 0 บาท ลดสูงสุด 100 บาท
ใช้ได้ถึง 31-10-2025
ธนบัตร เหรียญ
:
ร้าน ของรัก ของสะสม: เหรียญพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ รัชกาลที่ 1 วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) ปี 2510 พิธีเดียวกับพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าฯ หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อเต๋ หลวงพ่อมุ่ย หลวงปู่ธูป ฯลฯ ปลุกเสก เนื้อเงินแท้ สภาพสวย เลี่ยมพร้อมใช้... พิธีเดียวกันกับพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกวัดเชตุพน ปี 2510 ในปี พ.ศ.2508-2509 เจ้าอาวาสวัดเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ท่าเตียน ในขณะนั้น คือ “สมเด็จพระวันรัต” ซึ่งต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ” (ปุ่น ปุณณสิริมหาเถร) ก็ทรงรับรู้ปัญหาและความจำเป็นในการหาทุนมาสนับสนุนการบูรณะพระอารามอันดับหนึ่งของประเทศ จึงทรงมีพระดำริจัดตั้ง “มูลนิธิ” ขึ้นเพื่อนำดอกผลมาเป็นค่าใช้จ่ายในการบูรณะพระอารามต่อไป จึงดำเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต โดยความช่วยเหลือของ “พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าธานีนิวัต กรมหมื่นพิทยลาภพฤติยากร” ประธานองคมนตรีในขณะนั้น นำความขึ้นบังคมกราบทูลเกล้าถึงความจำเป็นซึ่ง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” ก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตและพราชทานนามมูลนิธิว่า “มูลนิธิพระพุทธยอดฟ้า” พร้อมทั้งรับไว้ในพระบรมราชูปถัมถ์อีกด้วย “สมเด็จพระวันรัต” จึงจัดประชุมกรรมการหลายฝ่ายถึงเรื่องระดมทุนมาจัดตั้งเป็น “กองทุนมูลนิธิ” ผลการประชุมมีมติให้จัดงาน “ทอดผ้าป่ามหากุศล 84,000 องค์” พร้อมทั้งมีการจัดทำ “ของที่ระลึก” สมนาคุณแก่ผู้บริจาคเพราะจะทำให้ให้มีรายได้เข้ากองทุนมากขึ้น โดยสร้างเป็นวัตถุมงคลคือ “พระกริ่ง” และ “เหรียญ” สำหรับ “พระกริ่ง” ที่ประชุมยังมีมติอีกว่า ควรจัดสร้างด้วย “เนื้อทองคำ” น้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 บาท สำหรับสมนาคุณผู้บริจาคตั้งแต่ “5,000 บาท (ห้าพันบาท)” ขึ้นไป และควรสร้างจำนวนจำกัดคือ “1,250 องค์” อันเป็นจำนวนเท่ากับ “พระวิสุทธิสงฆ์” องค์อรหันต์ที่มาประชุมพร้อมกันเป็นมหาสันนิบาตในวันมาฆปุรณมีเพ็ญเดือนสาม ซึ่งเรียกว่า “วันจาตุรงคสันนิบาต” โดยขอบารมีธรรม ของพระอรหันต์เหล่านั้นมารวมไว้ที่ “พระกริ่ง” อันเป็น ปฏิมาของ “พระพุทธเจ้า” โดยตกลงกันว่าควรถวายพระนามว่า “พระกริ่งพระพุทธยอดฟ้า” ด้วยมูลเหตุที่มูลนิธินี้ได้รับพระราชทานนามว่า “มูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้า” ดังนั้นเพื่อให้สมกับพระนามจึงสร้างด้วย “เนื้อทองคำ” เพียงเนื้อเดียว ครั้นตกลงกันเป็นมติเอกฉันท์จึงจัดหาทองคำนำมารีดเป็นแผ่นบาง “108 แผ่น” สำหรับลงอักขระ “ยันต์ 108” และอีก “14 แผ่น” สำหรับลงอักขระ “นะปถมัง 14 นะ” ตามตำราของ “สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วกรุงเก่า” ที่ตกทอดมายัง “สมเด็จพระพนรัตน์” ปฐมอธิบดีสงฆ์องค์แรกของ “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม” ผู้เป็นพระอาจารย์เจ้าใน “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตโนรส” และมีการคัดลอกลงในสมุดไทยดำแล้วตกทอดไปยัง “วัดบวรนิเวศวิหาร วัดจักรวรรดิราชาวาส วัดสุทัศน์เทพวรารามและวัดเทพธิดาราม” เป็นต้น และหลังจาก “แผ่นทองคำ” ทั้งหมดทำการลงอักขระยันต์แล้วจึงนำมารวมกับทองคำอื่น ๆ ที่มีประชาชนร่วมบริจาคเพื่อหล่อพระไว้ในพระอุโบสถที่มีการจุดตั้ง “พระวัตรฉัตรธง” โดยมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ตลอดเวลา 3 เดือน แห่ง “ปุริมเข้าพรรษา” ซึ่งท่านเจ้าคุณ “พระเทพวรมุนี” (ฟุ้ง ปุณณโก) เป็นหัวหน้าในการนำสวดพระพุทธมนต์บทต่าง ๆ อาทิ “ชินบัญชรคาถา ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร โพชฌงค์ปริตร เจ็ดตำนาน มงคลจักรวาล ฯลฯ” จนกระทั้งถึงวันอาทิตย์ แรม 8 คำ เดือน 11 ซึ่งตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2509 อันเป็นวันที่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีพระราชทานถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเป็นโบราณราชประเพณีทุกปี ซึ่งวันนั้นได้เสด็จฯเป็น “วัดที่ 3” (วัดแรกคือวัดมกุฎฯ) ซึ่งในบันทึกพระนิพนธ์เรื่อง “มูลนิธิทุนพระทุทธยอดฟ้าในพระบรมราชูปถัมถ์” ของ “สมเด็จพระสังฆราช” (ปุ่น ปุณฺณสิริมหาเถร) ได้บันทึกความสำคัญในวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเสด็จฯทรงประกบพิธีเททองหล่อพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าไว้ดังนี้ วันนี้เป็นวันที่ทรงเครื่องยศใหญ่ เสนามาตย์ราชบริพารแต่งตัวเต็มยกทุกคนที่มารับเสด็จฯ และจะหาวันไหนเป็นโอกาสสอนเป็นมงคลยิ่งเสมอวันนี้ยากนัก เพราะวันแรม 8 ค่ำเป็นวันอาทิตย์นั้น ได้รับความนิยมว่าเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่ จะหาวันที่เป็นมิ่งมงคลเช่นนี้ไม่ง่ายนักในขวบปีหนึ่ง โบราณ จึงเขียนไว้เป็นแบบว่า “จันทร์ตรีศรีสิทธิเก้า ภุมเมทร์ พุธทวัชอัฏฐสุรเยนทร์ เลศลัน พฤหัสบดิ์จตุรเกณท์ ศุกร์ค่ำ หนึ่งนา เสาร์ห้าสถาพรพัน โชคใช้ได้เสมอ” โดยมีพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณนั่งปรกปลุกเสกประกอบด้วย 1.หลวงพ่อเงินวันดอนยายหอม 2.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี 3.หลวงพ่อมุ่ย วัดอนไร่ 4.หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม 5.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ 6.หลวงปู่ธูป วันแคนางเลิ้ง” ฯล เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ทราบถึง “ความสำคัญ” โดยเฉพาะบรรดา “ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คหบดี เศรษฐี” และ “ผู้มีอันจะกิน” ในสมัยนั้น จึงร่วมกันบริจาคเพื่อเข้ารับพระราชทานจากพระหัตถ์ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” อีกด้วย ดังนั้น “พระกริ่งพระพุทธยอดฟ้า” ที่สร้างด้วย “ทองคำ” เมื่อปี 2510 จึงไม่มีหมุนเวียนออกมาเป็น “สมบัติผลัดกันชม” เฉกเช่นวัตถุมงคลอื่นๆ เนื่องจาก “ใครมีก็หวง” อีกทั้งแต่ละบุคคลที่ได้รับพระราชทานครั้งนั้น ล้วนเป็นผู้ที่ไม่เดือดร้อนทางด้านการเงิน ปัจจุบันจึงพบเห็นได้ยาก เพราะผู้ที่ดีรับพระราชทานต่างอาราธนาบูชาเป็น “สมบัติประจำตระกูล” ที่บรรดาลูกหลาน ต่างก็ยึดถือเฉกเช่นบุพการี เพราะทราบดี “พระพุทธคุณ” ยอดเยี่ยมด้าน “คุ้มครองป้องกันภัยพิบัติ มหาอำนาจก็เป็นเอก” ที่สำคัญ “มีความมั่นคงก้าวหน้าในชีวิต มีความมั่นคงก้าวหน้าในฐานะ มีความมั่นคงก้าวหน้าในกิจการ”
4.0
(2)
จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พระเครื่อง
:
ร้าน Amulet Prince
฿450
ในประเทศ
จี้พระ เหรียญ หลวงพ่อวัดนำรอบ โคกกลอย รุ่นแรก ปี2510 พระเครื่อง เกจิอาจารย์ดัง ยอดนิยม (19279717422)
พระเครื่อง
:
ร้าน PPE safety
5.0
(2)
ขายเเล้ว 3
ในประเทศ
คูปองส่วนลดจากร้านค้า
โค้ด PRZOCT25A ลด 30% ขั้นต่ำ 0 บาท ลดสูงสุด 100 บาท
ใช้ได้ถึง 31-10-2025
ธนบัตร เหรียญ
:
เหรียญเนื้อเงิน รัชกาลที่ 1 วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 พิธีเดียวกับพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าฯ ลป.โต๊ะ ปลุกเสก เหรียญพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ รัชกาลที่ 1 วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) ปี 2510 พิธีเดียวกับพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าฯ หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อเต๋ หลวงพ่อมุ่ย หลวงปู่ธูป ฯลฯ ปลุกเสก พิธีเดียวกันกับพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกวัดเชตุพน ปี 2510 ในปี พ.ศ.2508-2509 เจ้าอาวาสวัดเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ท่าเตียน ในขณะนั้น คือ “สมเด็จพระวันรัต” ซึ่งต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ” (ปุ่น ปุณณสิริมหาเถร) ก็ทรงรับรู้ปัญหาและความจำเป็นในการหาทุนมาสนับสนุนการบูรณะพระอารามอันดับหนึ่งของประเทศ จึงทรงมีพระดำริจัดตั้ง “มูลนิธิ” ขึ้นเพื่อนำดอกผลมาเป็นค่าใช้จ่ายในการบูรณะพระอารามต่อไป จึงดำเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต โดยความช่วยเหลือของ “พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าธานีนิวัต กรมหมื่นพิทยลาภพฤติยากร” ประธานองคมนตรีในขณะนั้น นำความขึ้นบังคมกราบทูลเกล้าถึงความจำเป็นซึ่ง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” ก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตและพราชทานนามมูลนิธิว่า “มูลนิธิพระพุทธยอดฟ้า” พร้อมทั้งรับไว้ในพระบรมราชูปถัมถ์อีกด้วย “สมเด็จพระวันรัต” จึงจัดประชุมกรรมการหลายฝ่ายถึงเรื่องระดมทุนมาจัดตั้งเป็น “กองทุนมูลนิธิ” ผลการประชุมมีมติให้จัดงาน “ทอดผ้าป่ามหากุศล 84,000 องค์” พร้อมทั้งมีการจัดทำ “ของที่ระลึก” สมนาคุณแก่ผู้บริจาคเพราะจะทำให้ให้มีรายได้เข้ากองทุนมากขึ้น โดยสร้างเป็นวัตถุมงคลคือ “พระกริ่ง” และ “เหรียญ” สำหรับ “พระกริ่ง” ที่ประชุมยังมีมติอีกว่า ควรจัดสร้างด้วย “เนื้อทองคำ” น้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 บาท สำหรับสมนาคุณผู้บริจาคตั้งแต่ “5,000 บาท (ห้าพันบาท)” ขึ้นไป และควรสร้างจำนวนจำกัดคือ “1,250 องค์” อันเป็นจำนวนเท่ากับ “พระวิสุทธิสงฆ์” องค์อรหันต์ที่มาประชุมพร้อมกันเป็นมหาสันนิบาตในวันมาฆปุรณมีเพ็ญเดือนสาม ซึ่งเรียกว่า “วันจาตุรงคสันนิบาต” โดยขอบารมีธรรม ของพระอรหันต์เหล่านั้นมารวมไว้ที่ “พระกริ่ง” อันเป็น ปฏิมาของ “พระพุทธเจ้า” โดยตกลงกันว่าควรถวายพระนามว่า “พระกริ่งพระพุทธยอดฟ้า” ด้วยมูลเหตุที่มูลนิธินี้ได้รับพระราชทานนามว่า “มูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้า” ดังนั้นเพื่อให้สมกับพระนามจึงสร้างด้วย “เนื้อทองคำ” เพียงเนื้อเดียว ครั้นตกลงกันเป็นมติเอกฉันท์จึงจัดหาทองคำนำมารีดเป็นแผ่นบาง “108 แผ่น” สำหรับลงอักขระ “ยันต์ 108” และอีก “14 แผ่น” สำหรับลงอักขระ “นะปถมัง 14 นะ” ตามตำราของ “สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วกรุงเก่า” ที่ตกทอดมายัง “สมเด็จพระพนรัตน์” ปฐมอธิบดีสงฆ์องค์แรกของ “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม” ผู้เป็นพระอาจารย์เจ้าใน “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตโนรส” และมีการคัดลอกลงในสมุดไทยดำแล้วตกทอดไปยัง “วัดบวรนิเวศวิหาร วัดจักรวรรดิราชาวาส วัดสุทัศน์เทพวรารามและวัดเทพธิดาราม” เป็นต้น และหลังจาก “แผ่นทองคำ” ทั้งหมดทำการลงอักขระยันต์แล้วจึงนำมารวมกับทองคำอื่น ๆ ที่มีประชาชนร่วมบริจาคเพื่อหล่อพระไว้ในพระอุโบสถที่มีการจุดตั้ง “พระวัตรฉัตรธง” โดยมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ตลอดเวลา 3 เดือน แห่ง “ปุริมเข้าพรรษา” ซึ่งท่านเจ้าคุณ “พระเทพวรมุนี” (ฟุ้ง ปุณณโก) เป็นหัวหน้าในการนำสวดพระพุทธมนต์บทต่าง ๆ อาทิ “ชินบัญชรคาถา ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร โพชฌงค์ปริตร เจ็ดตำนาน มงคลจักรวาล ฯลฯ” จนกระทั้งถึงวันอาทิตย์ แรม 8 คำ เดือน 11 ซึ่งตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2509 อันเป็นวันที่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีพระราชทานถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเป็นโบราณราชประเพณีทุกปี ซึ่งวันนั้นได้เสด็จฯเป็น “วัดที่ 3” (วัดแรกคือวัดมกุฎฯ) ซึ่งในบันทึกพระนิพนธ์เรื่อง “มูลนิธิทุนพระทุทธยอดฟ้าในพระบรมราชูปถัมถ์” ของ “สมเด็จพระสังฆราช” (ปุ่น ปุณฺณสิริมหาเถร) ได้บันทึกความสำคัญในวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเสด็จฯทรงประกบพิธีเททองหล่อพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าไว้ดังนี้ วันนี้เป็นวันที่ทรงเครื่องยศใหญ่ เสนามาตย์ราชบริพารแต่งตัวเต็มยกทุกคนที่มารับเสด็จฯ และจะหาวันไหนเป็นโอกาสสอนเป็นมงคลยิ่งเสมอวันนี้ยากนัก เพราะวันแรม 8 ค่ำเป็นวันอาทิตย์นั้น ได้รับความนิยมว่าเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่ จะหาวันที่เป็นมิ่งมงคลเช่นนี้ไม่ง่ายนักในขวบปีหนึ่ง โบราณ จึงเขียนไว้เป็นแบบว่า “จันทร์ตรีศรีสิทธิเก้า ภุมเมทร์ พุธทวัชอัฏฐสุรเยนทร์ เลศลัน พฤหัสบดิ์จตุรเกณท์ ศุกร์ค่ำ หนึ่งนา เสาร์ห้าสถาพรพัน โชคใช้ได้เสมอ” โดยมีพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณนั่งปรกปลุกเสกประกอบด้วย 1.หลวงพ่อเงินวันดอนยายหอม 2.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี 3.หลวงพ่อมุ่ย วัดอนไร่ 4.หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม 5.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ 6.หลวงปู่ธูป วันแคนางเลิ้ง” ฯล เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ทราบถึง “ความสำคัญ” โดยเฉพาะบรรดา “ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คหบดี เศรษฐี” และ “ผู้มีอันจะกิน” ในสมัยนั้น จึงร่วมกันบริจาคเพื่อเข้ารับพระราชทานจากพระหัตถ์ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” อีกด้วย ดังนั้น “พระกริ่งพระพุทธยอดฟ้า” ที่สร้างด้วย “ทองคำ” เมื่อปี 2510 จึงไม่มีหมุนเวียนออกมาเป็น “สมบัติผลัดกันชม” เฉกเช่นวัตถุมงคลอื่นๆ เนื่องจาก “ใครมีก็หวง” อีกทั้งแต่ละบุคคลที่ได้รับพระราชทานครั้งนั้น ล้วนเป็นผู้ที่ไม่เดือดร้อนทางด้านการเงิน ปัจจุบันจึงพบเห็นได้ยาก เพราะผู้ที่ดีรับพระราชทานต่างอาราธนาบูชาเป็น “สมบัติประจำตระกูล” ที่บรรดาลูกหลาน ต่างก็ยึดถือเฉกเช่นบุพการี เพราะทราบดี “พระพุทธคุณ” ยอดเยี่ยมด้าน “คุ้มครองป้องกันภัยพิบัติ มหาอำนาจก็เป็นเอก” ที่สำคัญ “มีความมั่นคงก้าวหน้าในชีวิต มีความมั่นคงก้าวหน้าในฐานะ มีความมั่นคงก้าวหน้าในกิจการ”
฿800
คูปองส่วนลดจากร้านค้า
โค้ด PRZOCT25A ลด 30% ขั้นต่ำ 0 บาท ลดสูงสุด 100 บาท
ใช้ได้ถึง 31-10-2025
ธนบัตร เหรียญ
:
ร้าน Collectibles by kiriya: #เหรียญรัชกาลที่1 และ รัชกาลที่9 พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พ.ศ 2543 ขนาด 3 ซม ราคา 600 บาท
฿600
จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พระเครื่อง
:
ร้าน MUTELU LUCKY
ในประเทศ
พระเครื่อง
:
ร้าน MUTELU LUCKY
ขายเเล้ว 1
ในประเทศ
คูปองส่วนลดจากร้านค้า
โค้ด PRZOCT25A ลด 30% ขั้นต่ำ 0 บาท ลดสูงสุด 100 บาท
ใช้ได้ถึง 31-10-2025
แสตมป์
:
ร้าน KT22shop: ไปรษณีไทย THAILAND POST 8850608 311044 875. ตราไปรษณียากรที่ระลึก 200 ปีแห่งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จ 875. Bicentenary of the Demise of King Rama I of the Royal House of พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วันแรกจ่าหน่าย : 6 เมษายน 2553 ความมุ่งหมาย ภาพ ผู้ออกแบบ Chakri Commemorative Stamp Date of Issue : เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี แห่งการสวรรคต Purpose ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช : พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก Design มหาราช (รัชกาลที่ 1) : 6 April 2010 To commemorate the Bicentenary of the Demise of His Majesty King Buddha Yod Fa Chulalok the Great (King Rama I) : Depicting a royal portrait of His Majesty King Buddha Yod Fa Chulalok the Great (King Rama I) : Mr, Chenwit Thongkaew : นายเจนวิทย์ ทองแก้ว บริษัทผู้พิมพ์ - ไทยบริติช ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จํากัด (มหาชน) ประเทศไทย ซองวันแรกจําหน่าย : ซองละ 10,00 บาท บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด กรุงเทพฯ 102100299 Designer Printer : Thai British Security Printing Public Company Limited, Thailand First Day Cover : 10,00 Baht Thailand Post Company Limited, Bangkok 10210-0299
฿83
จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พระเครื่อง
:
ร้าน R.S.AMULET 999
฿599
ในประเทศ
เครื่องรางของขลัง
:
ร้าน tonram2
฿550
ในประเทศ
พระเครื่อง
:
ร้าน R.S.AMULET 999
5.0
(3)
ขายเเล้ว 1
ในประเทศ
เครื่องรางของขลัง
:
ร้าน วัตถุมงคล ทั่วไป168
ขายเเล้ว 1
ในประเทศ
คูปองส่วนลดจากร้านค้า
โค้ด PRZOCT25A ลด 30% ขั้นต่ำ 0 บาท ลดสูงสุด 100 บาท
ใช้ได้ถึง 31-10-2025
ธนบัตร เหรียญ
:
ร้าน Coins the world: เหรียญพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ฉลอง 200 ปี ราชวงศ์จักรี ปี2525
฿200
จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พระเครื่อง
:
ร้าน PPE safety
ในประเทศ
พระเครื่อง
:
ร้าน MUTELU LUCKY
ในประเทศ
พระเครื่อง
:
ร้าน only one shop
ในประเทศ
พระเครื่อง
:
ร้าน R.S.AMULET 999
฿999
ในประเทศ
เครื่องรางของขลัง
:
ร้าน ร้านพระเครื่อง89
฿350
ขายเเล้ว 1
ในประเทศ
เครื่องรางของขลัง
:
ร้าน yuthi2559
ในประเทศ
ตัวกรองสินค้า
หมวดหมู่
พระเครื่อง
(3)