ราคา เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาล

ปัจจุบัน ผู้คนต่างก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น หนึ่งในโรคที่หลายคนกังวลและมีสภาวะเสี่ยงมากที่สุดในยุคปัจจุบันก็คือ “ โรคเบาหวาน” และ “ความดันโลหิตสูง “ เทคโนโลยีล่าสุดได้พัฒนาไปไกลถึงขั้นผลิตเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง เพื่อช่วยลดสภาวะเสี่ยงของการเกิดโรคนี้ เพราะถ้าหมั่นตรวจอยู่เป็นประจำ จะทำให้คุณรู้จักระวังและป้องกันตัวเองได้มากขึ้น

ส่วนใหญ่แล้ววิธีการใช้เครื่องไม่ต่างกัน ถ้าไม่นับรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งในชุดตรวจน้ำตาลในเลือดนี้ จะประกอบไปด้วย อุปกรณ์สำหรับเจาะเลือด คู่มือการใช้ที่มีแผนภูมิระบุตำแหน่งที่เจาะเลือดแล้วได้ผลสูงสุด ตามด้วยเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลที่ต้องใช้พร้อมกันทั้งชุด

ก่อนการตรวจเลือดผู้ใช้ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม เช่น หากต้องการตรวจในเช้าวันถัดไป เที่ยงคืนวันนี้ควรงดทานอาหาร ดื่มได้เฉพาะน้ำเปล่าสะอาด เพื่อผลการตรวจที่แม่นยำยิ่งขึ้น ต่อมา ในวันที่ต้องตรวจ ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง เตรียมอุปกรณ์สำหรับเจาะเลือดให้พร้อม หลังจากนั้นให้ดูวันหมดอายุของแถบตรวจที่เราจะหยดเลือดใส่ลงไป เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้ผู้ตรวจทำการเจาะเลือดตามปริมาณที่กำหนดไว้ต่อรุ่น  หยดใส่แถบตรวจสอบสอดเข้าไปในเครื่องตรวจ แล้วรอผล และนั่นคือวิธีการใช้งานแบบคร่าวๆสำหรับคนที่ไม่รู้จักเครื่องมือชนิดนี้ ต่อไปนี้จะเป็นวิธีการเลือกซื้อเพื่อให้ได้ประโยชน์สุงสุด

หลักการเลือกซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด

1.  หน่วยความจำในตัวเครื่อง

ถือว่าสำคัญมาก เพราะเครื่องตรวจจะช่วยเก็บผลการตรวจในแต่ละครั้งไว้เปรียบเทียบกัน ซึ่งถ้าหน่วยความจำในตัวเครื่องมีน้อยเกินไป อาจทำให้ผลการตรวจเปรียบเทียบคลาดเคลื่อนได้ หน่วยความจำของเครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือด นับเป็นจำนวนคำ ควรเลือกรุ่นที่มีหน่วยความจำ 300 -500 คำขึ้นไป เพื่อเก็บข้อมูลไว้เป็นตัวช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลหลังอาหารของผู้ตรวจได้อย่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. ปริมาณเลือดที่ต้องใช้ในการตรวจต่อครั้ง

บางรุ่นต้องใช้ปริมาณเลือดในการตรวจต่อครั้งมากขึ้น ซึ่งสำหรับคนที่กลัวการเจาะเลือด อาจจะทำใจลำบากในการเจาะต่อครั้ง ส่วนใหญ่แล้ว ปริมาณเลือดที่ใช้ตรวจ จะเริ่มต้นที่ 0.6 ไมโครลิตรขึ้นไป จนมากถึง 1-2 ไมโครลิตรเลยก็มี

3. เวลาในการอ่านค่าน้ำตาลในเลือด

ควรใช้ระยะเวลาเพียงไม่นานนัก เพื่อช่วยประหยัดเวลา และควบคุมผลการตรวจให้แม่นยำยิ่งขึ้น เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดแต่ละรุ่น ใช้เวลาในการอ่านค่าไม่เท่ากัน บางรุ่นที่ราคาไม่แพง อาจใช้เวลานานถึง 10 วินาที/การตรวจ 1 ครั้ง ถ้าจะให้ดี ควรเลือกเครื่องที่ใช้เวลาในการตรวจเพียง 5 วินาที ซึ่งถือเป็นความเร็วเครื่องในระดับยอดนิยม และให้ผลไม่คลาดเคลื่อน

4. เลือกเมนูและฟังค์ชั่นการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก

บางรุ่นมีเมนูการใช้งานที่ยากจะทำความเข้าใจ ควรสอบถามบริษัทเจ้าของสินค้าให้ละเอียดทุกครั้ง เกี่ยวกับวิธีการใช้งานปุ่มต่างๆ เลือกรุ่นที่มีปุ่มไม่มาก และศึกษาวิธีการใช้ให้คุ้นเคย เพื่อผลการตรวจที่แม่นยำตามที่คุณต้องการ

5. ควรมีระบบปลุกเตือนให้ตรวจสม่ำเสมอ

เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดนี้ เราไม่ได้ซื้อมาเพื่อใช้ตรวจเพียงครั้งเดียว ส่วนใหญ่จะวัดระดับน้ำตาลสองรูปแบบ คือก่อนมื้ออาหาร และหลังมื้ออาหาร ซึ่งคุณอาจจะลืมตรวจได้ ถ้าไม่มีระบบปลุกเตือนที่ว่านี้

การตรวจที่สม่ำเสมอจะทำให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรง ลดความเสี่ยง และสภาวะแทรกซ้อนที่จะตามมา