เสริมความรู้รอบตัว! ไมโครเวฟมีขนาดเท่าไหร่บ้าง? และแต่ละแบบต่างกันอย่างไร?

ไมโครเวฟ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเพิ่มความสะดวกสบายในการอุ่นอาหารได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากบางคนอาจมีห้องครัวที่เล็กมากทำให้มีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะนำ Microwave มาใช้งานได้ ซึ่งหลายคนก็อาจจะสงสัยว่า Microwave มีขนาดเท่ากันทั้งหมดหรือไม่ มีเตาขนาดเล็ก ๆ ที่สามารถนำมาติดตั้งในห้องครัวของตนเองได้หรือเปล่า ดังนั้นวันนี้เราจะพาคุณไปหาคำตอบกันว่าที่จริงแล้ว Microwave มีกี่ขนาด และขนาดมาตรฐานที่เหมาะสมอยู่ที่เท่าไหร่

Microwave มีขนาดใดบ้าง เท่ากันทั้งหมดหรือไม่

มีหลากหลายขนาด โดยถูกออกแบบขึ้นมาให้มีขนาดที่หลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด เพราะบางคนอาจมีพื้นที่ห้องครัวขนาดเล็ก บางคนอาจมีห้องครัวขนาดใหญ่ จึงต้องเลือก Microwave ให้มีความเหมาะสมด้วย โดยสามารถแบ่งขนาดออกได้เป็น 3 ระดับดังนี้

1. เตาขนาดเล็ก

เตาขนาดเล็กจะมีขนาดตั้งแต่ 17-20 ลิตร สามารถอบอาหารได้ไม่เกิน 2 ที่ต่อครั้ง และด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัดจึงย้ายที่ตั้งได้ง่าย ซึ่งก็เหมาะกับการใช้งานในห้องครัวขนาดเล็กและการนำมาใช้ในคอนโดมากที่สุด

2. เตาขนาดกลาง

เตาขนาดกลางจะมีขนาดตั้งแต่ 21-29 ลิตร เหมาะกับการใช้งานในครอบครัวเล็ก ๆ โดยสามารถอุ่นอาหารได้ครั้งละ 3-4 ที่ แถมยังอุ่นอาหารได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนานอีกด้วย ทำให้ Microwave ขนาดกลางได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายมากทีเดียว

3. เตาขนาดใหญ่

เตาขนาดใหญ่จะมีขนาดตั้งแต่ 30 ลิตรขึ้นไป โดยนิยมนำมาใช้กับครอบครัวขนาดใหญ่ ซึ่งต้องมีพื้นที่สำหรับติดตั้งในห้องครัวกว้างพอสมควรเช่นกัน นอกจากนี้ก็มักจะถูกนำไปใช้กับร้านที่จำหน่ายอาหารแช่เย็นที่มีบริการอุ่นอาหารให้กับลูกค้าอีกด้วย

Microwave มีขนาดมาตรฐานเท่าไหร่

Microwave มีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 22-23 ลิตร ซึ่งจัดเป็นเตาขนาดกลางที่สามารถอุ่นอาหารได้พอดีกับครอบครัวเล็ก ๆ และนำมาใช้อุ่นอาหารแช่เย็นขายได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามการจะเลือกเตาแบบไหนให้เหมาะสมและใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ก็ต้องพิจารณาจากหลายสิ่งด้วยกัน โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับติดตั้งว่ามีพื้นที่กว้างมากแค่ไหน หากมีพื้นที่น้อยก็ต้องเลือกเตาที่มีขนาดเล็กนั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อดังนี้

1. ดูวัสดุที่ใช้ทำเตาว่ามีความแข็งแรงทนทานมากแค่ไหน และมีความปลอดภัยต่อการใช้งานหรือไม่ ที่สำคัญควรมีมาตรฐานรับรองการผลิต เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่าจะไม่เป็นอันตรายขณะใช้งานแน่นอน
2. มีฟังก์ชันการใช้งานอย่างไรบ้าง โดยเตาที่ดีควรมีฟังก์ชันที่หลากหลาย สามารถใช้อุ่นอาหารได้อย่างรวดเร็ว ปรับอุณหภูมิความร้อนได้หลายระดับ และหากตรวจสอบอุณหภูมิของอาหารได้ด้วยก็จะดีมาก
3. ควรมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อให้ประหยัดไฟได้ดีนั่นเอง เพราะเตาก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ใช้พลังงานมากพอสมควร หากต้องใช้เป็นประจำ และเลือกใช้แบบที่ไม่ได้มีการรับรองการประหยัดไฟ ก็อาจทำให้ต้องสิ้นเปลืองค่าไฟเป็นจำนวนมากได้
4. ควรเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อความมั่นใจว่าจะใช้งานได้อย่างคุ้มค่ายาวนาน และต้องมีการรับประกันสินค้าด้วย เพราะหากเกิดการชำรุดเสียหายตั้งแต่ซื้อมาใช้ได้ไม่ถึงปี จะได้ไม่มีปัญหาในการส่งกลับไปซ่อมแซมนั่นเอง
5. เลือกประเภทให้ตรงตามความต้องการ เพราะ Microwave มีหลายประเภท เช่น เตาแบบธรรมดา แบบย่าง แบบลมร้อน และแบบอบไอน้ำ โดยแต่ละประเภทจะมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะเลือกแบบไหนดีนั้นก็อย่าลืมศึกษาทำความเข้าใจให้ดีก่อน
6. ราคาก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาเช่นกัน โดยควรเลือกราคาที่ไม่เกินกำลังซื้อ และต้องมีความสมเหตุสมผลคุ้มค่ากับสินค้าที่ได้ด้วย

ไมโครเวฟ มีให้เลือกหลายขนาด โดยจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน มีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ซึ่งแต่ละขนาดก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นจะเลือกเตาแบบไหนดีก็ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยกันดู โดยเฉพาะเรื่องของขนาดและราคา เพื่อให้นำมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด นอกจากนี้อย่าลืมติดตั้งให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 5 เซนติเมตรด้วย และอย่าตั้งใกล้กับโทรทัศน์เด็ดขาด ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานนั่นเอง