หูฟัง TWS คืออะไร?
TWS ย่อมาจาก True Wireless Stereo หมายถึงหูฟังไร้สายอย่างแท้จริงที่ไม่มีสายเชื่อมต่อระหว่างหูฟังทั้งสองข้างและไม่มีสายเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต้นทางเลย ต่างจากหูฟังบลูทูธแบบเดิมที่อาจยังมีสายเชื่อมต่อระหว่างหูฟังซ้าย-ขวา การทำงานของหูฟัง TWS อาศัยการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านเทคโนโลยี Bluetooth ระหว่างหูฟังทั้งสองข้างและจากหูฟังหนึ่งข้างไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ด้วยลักษณะการทำงานที่ไร้สายอย่างสมบูรณ์หูฟัง TWS จึงมอบประสบการณ์การใช้งานที่คล่องตัว เหมาะสำหรับกิจกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย พกพาในการเดินทาง หรือใช้เพื่อการทำงาน ทำให้หูฟังไร้สายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้หูฟัง TWS ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับฟังเพลงเท่านั้น แต่ยังได้ผสานรวมฟังก์ชันอัจฉริยะมากมาย เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancellation) โหมดรับเสียงรอบข้าง Transparency Mode ไมโครโฟนพร้อมระบบลดเสียงรบกวนสำหรับการโทร ENC (Environmental Noise Cancellation) โหมดเกมที่มีความหน่วงต่ำ รวมไปถึงการควบคุมด้วยระบบสัมผัส ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสและความสะดวกสบายในการใช้งาน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว
ที่มาของหูฟัง TWS
ก่อนที่หูฟังไร้สาย True Wireless Stereo จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่หลายๆคนขาดไม่ได้ในปัจจุบัน ก็มีเรื่องราวและวิวัฒนาการที่น่าสนใจ หลายคนจะคุ้นเคยกับ Apple AirPods และเชื่อว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของหูฟังไร้สายอย่างแท้จริง แต่ในความเป็นจริงแล้ว แนวคิดและเทคโนโลยีเบื้องหลัง TWS มีมาก่อนหน้านั้น จุดกำเนิดแรกสุดอาจต้องย้อนกลับไปถึงแนวคิดของเทคโนโลยีบลูทูธ Bluetooth ที่เกิดขึ้นในปี 1994 ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเชื่อมต่อไร้สายระยะใกล้ที่ทำให้หูฟังสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ต่างๆได้
และจากหูฟังบลูทูธแบบมีสายเชื่อมต่อระหว่างข้าง ไปสู่หูฟังที่ไร้สายอย่างสมบูรณ์นั้น เกิดจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของชิปเซ็ตบลูทูธที่เล็กลง ประหยัดพลังงานมากขึ้น และมีประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น ในช่วงแรกของหูฟังบลูทูธ ผู้ใช้งานยังคงต้องทนกับสายที่เชื่อมระหว่างหูฟังซ้าย-ขวา หรือบางรุ่นอาจมีสายคล้องคอ แต่ความต้องการอิสระที่แท้จริงก็ยังคงเป็นแรงผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมา จนกระทั่งในปี 2015 บริษัท Onkyo ของญี่ปุ่นได้เปิดตัว Onkyo W800BT ซึ่งถือเป็นหูฟัง True Wireless รุ่นแรกของโลกอย่างเป็นทางการ โดยมีรูปทรงเป็นอินเอียร์ไร้สายทั้งสองข้าง แยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้หูฟัง TWS กลายเป็นกระแสหลักและแพร่หลายอย่างก้าวกระโดดคือการเปิดตัว Apple AirPods ในปลายปี 2016 ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย การเชื่อมต่อที่ราบรื่นกับอุปกรณ์ Apple และการตลาดที่แข็งแกร่ง AirPods ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดหูฟังไร้สาย และผลักดันให้ผู้ผลิตรายอื่นๆหันมาพัฒนาหูฟัง TWS ของตนเองอย่างจริงจัง หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด TWS ที่มีแบรนด์มากมายเข้ามาร่วมวง ที่ต่างก็พัฒนารุ่นใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง
10 หูฟังไร้สายยอดนิยมปี 2025
Onikuma T305
เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 มาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาด 8 มม. มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูง ด้วยเสียงเบสที่ทรงพลัง เสียงคมชัด ควบคุมด้วยระบบสัมผัส จัดการการเล่นเพลงได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเล่น-หยุดเพลง การเปลี่ยนเพลงไปข้างหน้าหรือย้อนกลับ การเพิ่มหรือลดระดับเสียง รวมถึงการรับสายหรือวางสายโทรศัพท์ เวลาทำงานสูงสุด 4 ชั่วโมง มาพร้อมเคสชาร์จมีจอแสดงผล LED บอกระดับแบตเตอรี่ของเคส ระยะเวลาการใช้งานรวมกับเคสชาร์จสูงสุด 15 ชั่วโมง
ราคา 400 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
SoundPEATS Free2 Classic
ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่สมดุลและคุณภาพดีเยี่ยม ด้วยไดรเวอร์ Dynamic ขนาด 6 มม. ให้เสียงเบสที่หนักแน่น ช่วยให้ผู้ใช้ดื่มด่ำกับบทเพลงได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมกับ Bluetooth 5.1 และชิป Jerry 6973D4 ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อมีเสถียรภาพ มีระยะสัญญาณสูงสุดถึง 10 เมตร การควบคุมแบบสัมผัสแตะเพื่อเล่น-หยุดเพลง เลื่อนเพลงถัดไปหรือย้อนกลับ ปรับระดับเสียง รับสาย-วางสาย อีกทั้งยังมีไมโครโฟนคุณภาพสูงที่หุ้มด้วยตาข่ายโลหะ สามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่อง 6-8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ใช้งานร่วมกับเคสชาร์จได้รวมสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง
ราคา 600 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
Aukey EP-M3A
มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 6 มม. เหมาะสำหรับการฟังเพลง พอดแคสต์ และการสนทนาโทรศัพท์ การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 ช่วยให้การเชื่อมต่อมีเสถียรภาพ และมี Latency ต่ำเป็นพิเศษถึง 80ms เหมาะสำหรับการเล่นเกมและรับชมวิดีโอแบบเรียลไทม์ ระบบควบคุมแบบสัมผัสที่ใช้งานง่าย มีน้ำหนักเบามาก เพียง 3.5 กรัมต่อข้าง ทำให้สวมใส่สบายตลอดวัน โดยสามารถเล่นเพลงได้ประมาณ 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และใช้งานร่วมกับเคสชาร์จได้สูงสุดถึง 20 ชั่วโมง
ราคา 600 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
Redmi Buds 6 Lite
มาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิก 12.4 มม. พร้อมแผ่นไดอะแฟรมไทเทเนียม ให้เสียงเบสที่ทรงพลัง รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 ให้ความเสถียรและประสิทธิภาพ พร้อมด้วยโหมดความหน่วงต่ำเหมาะสำหรับการเล่นเกมและรับชมวิดีโอ มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน ANC สามารถลดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 40dB ช่วยให้ดื่มด่ำกับเสียงเพลงหรือพอดแคสต์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนคู่พร้อมระบบลดเสียงรบกวนด้วย AI สามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่องสูงสุด 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (เมื่อปิด ANC) และใช้งานร่วมกับเคสชาร์จได้สูงสุดถึง 38 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็ว โดยชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถฟังเพลงได้นานถึง 2 ชั่วโมง
ราคา 800 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
Tozo AeroSound 3
ผสมผสานดีไซน์ที่ทันสมัยและฟังก์ชันเสียงที่ทรงพลัง มาพร้อมไดนามิกไดรเวอร์ 10 มม. ที่ให้เสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงที่คมชัด การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 พร้อมรองรับโหมด Low Latency เพื่อให้เสียงและภาพซิงค์กันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นเกมและรับชมวิดีโอโดยไม่มีดีเลย์ หูฟังรุ่นนี้ให้ความสำคัญกับคุณภาพการสื่อสารด้วยไมโครโฟน 4 ตัว (ข้างละ 2 ตัว) พร้อมเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนรอบข้างระหว่างการสนทนา ทำให้เสียงของคุณชัดเจนแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง นอกจากนี้ยังมาพร้อม ANC ลดเสียงรบกวน สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 6-7 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และใช้ร่วมกับเคสชาร์จได้สูงสุดถึง 35 ชั่วโมง
ราคา 800 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
Onikuma T302 KUKU & NINI
ผสมผสานดีไซน์ที่น่ารักเข้ากับฟังก์ชันการเล่นเกมและฟังเพลงได้อย่างลงตัว จุดเด่นอยู่ที่รูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเคสชาร์จตุ๊กตา KUKU & NINI มีไฟ RGB มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 10 มม. เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 นอกจากนี้ยังมีโหมดเกมโดยเฉพาะที่ช่วยลด Latency ลงไปอีก เพื่อให้ภาพและเสียงซิงโครไนซ์กันได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น หูฟังมีไมโครโฟนในตัวที่มาพร้อมระบบลดเสียงรบกวน ENC ทำให้การสนทนาทางโทรศัพท์ชัดเจน สามารถใช้งานได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง แบตเตอรี่หูฟัง 35mAh ต่อข้าง และเคสชาร์จ 500mAh ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดวัน
ราคา 800 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
Defunc True Lite
มาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาด 13 มม. สร้างมิติในการฟังเพลงที่ดีเยี่ยม เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 ในระยะสูงสุด 10 เมตร มาพร้อมระบบ ENC ลดเสียงรบกวนรอบข้าง ช่วยเพิ่มความชัดเจนของเสียงสนทนา แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง ควบคุมแบบสัมผัสใช้งานง่าย ให้คุณสามารถเล่น-หยุดเพลง ปรับระดับเสียง และรับสาย-วางสายโทรศัพท์ได้โดยตรงจากหูฟัง เล่นเพลงต่อเนื่องได้ประมาณ 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และใช้งานร่วมกับเคสชาร์จได้สูงสุดถึง 20 ชั่วโมง
ราคา 800 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
Onikuma T20
มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์รูปทรงหมีอวกาศ สามารถปรับเปลี่ยนหน้ากากเคสชาร์จได้ มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 8 มม. ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 พร้อมด้วยโหมดเกมที่ช่วยลดความหน่วงของเสียง Latency ได้ต่ำถึง 45ms ทำให้การซิงโครไนซ์ระหว่างภาพและเสียงเป็นไปอย่างราบรื่น ควบคุมระบบสัมผัสสามารถจัดการเพลง รับสายโทรศัพท์ และเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และใช้งานร่วมกับเคสชาร์จได้สูงสุด 25 ชั่วโมง
ราคา 850 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
Ugreen HiTune S3
มาพร้อมดีไซน์แบบ Clip-On Cuff หรือแบบหนีบหู ที่ถูกออกแบบมาให้สวมใส่กระชับโดยไม่กดทับใบหู ทำให้สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานานโดยไม่รู้สึกปวดเมื่อย มีไดรเวอร์ไดนามิก 12 มม. สร้างประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มและดื่มด่ำ เชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 พร้อมฟังก์ชันการลดความหน่วง Low Latency ที่ต่ำเพียง 60ms มีไมโครโฟนพร้อมเทคโนโลยี AI Noise Cancellation สามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และใช้งานร่วมกับเคสชาร์จได้สูงสุด 30 ชั่วโมง
ราคา 900 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
JLab Go Pop+
มาพร้อมระบบปรับแต่งคุณภาพเสียงได้ตามความชอบด้วย EQ Sound Settings 3 โหมด JLab Signature, Balanced และ Bass Boost โดยไม่ต้องใช้แอปพลิเคชันเพิ่มเติม เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 ที่รวดเร็วและเสถียร มาพร้อมกับ “Be Aware Mode” เพื่อความปลอดภัย ช่วยให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมภายนอกโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก รองรับฟังก์ชัน Dual Connect ทำให้ใช้งานหูฟังแต่ละข้างได้อย่างอิสระ และมีไมโครโฟน MEMS ในแต่ละข้างเพื่อให้การโทรมีความชัดเจน โดยสามารถเล่นเพลงได้สูงสุด 9 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และใช้ร่วมกับเคสชาร์จได้สูงสุดถึง 35 ชั่วโมง
ราคา 900 บาท
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนเปลง ยังไม่รวมส่วนลดและโปรโมชั่น
บทส่งท้าย
หูฟัง TWS ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นมากกว่าแค่อุปกรณ์เสริม แต่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของเรา ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง หูฟังไร้สายนอกจากจะมอบอิสระจากสายที่พันกันยุ่งเหยิง แต่ยังเติมเต็มประสบการณ์การฟังเพลง ดูหนัง หรือแม้แต่การทำงานให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพเสียงที่คมชัด ฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน หรือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และยังคงพัฒนาอย่างไต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย การเลือกหูฟังที่เหมาะสมจึงเป็นการลงทุนเพื่อประสบการณ์การฟังที่ยอดเยี่ยมและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกหูฟัง TWS ที่ใช่สำหรับคุณ
