เครื่องปั่นอาหาร เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่องานครัว การทำกับข้าวในเมนูต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบหลาย ๆ ชนิด และวัตถุดิบแต่ละชนิดก็จำเป็นจะต้องนำมาซอย มาตัด มาหั่น มาบด หรือกระทั่งปั่นให้มีขนาดเล็ก หรือมีความละเอียดมากพอพร้อมสำหรับใช้ในการปรุงอาหารต่อไป ดังนั้นการมีอุปกรณ์ที่สามารถช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น และช่วยลดระยะเวลาลงได้ ก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่น้อย อย่างไรก็ตามสำหรับหลาย ๆ ท่านที่ยังไม่ค่อยเข้าใจถึงหลักการใช้งานของอุปกรณ์ชนิดนี้ ว่าสามารถนำไปใช้งานในรูปแบบไหนได้บ้าง รูปแบบและประเภทเครื่องปั่นแต่ละชนิด ตลอดจนวิธีการดูแลรักษาหลังการใช้งานจะต้องทำอย่างไร บทความนี้มีข้อมูลความรู้เหล่านี้ไว้ให้ได้ศึกษากันอย่างครบถ้วนแน่นอน
เครื่องปั่นสามารถนำใช้สร้างสรรค์เมนูอาหารชนิดไหนได้บ้าง
เครื่องใช้ปั่นอาหารเป็นหนึ่งในเครื่องเตรียมอาหารที่มีประโยชน์มากมายหลายอย่างต่อผู้ใช้งาน โดยสามารถนำมาใช้งานในการเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหารทั้งคาวหวานได้ดังนี้
1.ใช้ปั่นหรือบดอาหารสำหรับเด็กเล็ก ๆ
โดยคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายที่อยากจะเริ่มต้นหัดทำอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้แก่ลูกน้อย อาจจะใช้เครื่องใช้ปั่นอาหารทารก ทำอาหารเหลวอย่างง่าย ๆ ให้ลูก ๆ ทานได้ ซึ่งไม่เพียงแต่ได้อาหารที่เด็ก ๆ สามารถทานได้ง่าย ๆ บางครั้งอาจใส่ส่วนผสมที่เป็นพวกผักผลไม้ที่ดีและมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยเพิ่มเข้าไปด้วย โดยปรุงรสให้น่ากิน จนแม้แต่เด็กโตบางคนที่ไม่ค่อยชอบทานผักอาจจะไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าเขาได้ทานผักต่าง ๆ ที่เคยไม่ชอบเข้าไปมากขนาดไหน
2.ใช้ทำเครื่องดื่มปั่นเย็นแบบต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นน้ำผักสด น้ำผลไม้สด หรือน้ำสมุนไพรที่อุดมไปด้วยประโยชน์ ที่มั่นใจได้เลยว่าส่วนผสมของสมูทตี้ที่ทำขึ้นเองนั้นมีแต่ของที่เราชอบและอยากรับประทานเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมรสชาติได้อย่างใจต้องการ ดีกว่าการต้องไปลุ้นรสชาติตามร้านขายน้ำผลไม้อื่น ๆ ซึ่งบางทีอาจมีรสชาติที่ไม่ค่อยคงที่เท่าที่ควร เป็นการคลายร้อนที่ได้ของมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพแน่นอน
3.ใช้เตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำกับข้าว
หั่น ซอย สไลด์ผักสดหลากหลายชนิด บดเนื้อสัตว์ประเภทต่าง ๆ ตลอดจนการปั่นเครื่องเทศที่จำเป็นในการทำเครื่องแกง เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะได้ชิ้นส่วนวัตถุดิบต่าง ๆ ในเวลาที่รวดเร็วแล้ว บางครั้งใบมีดหั่นของเครื่องปั่นบางยี่ห้อ ยังทำให้ได้ชิ้นส่วนที่สวยงาม อย่างเช่น รอยหยักต่าง ๆ อีกด้วย
4.ใช้ในการบดสับธัญพืช
สามารถใช้บดสับธัญพืชที่มีลักษณะเป็นเมล็ดแข็ง ๆ หรือกระทั่งใช้ในการบดเมล็ดกาแฟเพื่อใช้ชงกาแฟสดก็ได้
ชนิดของเครื่องปั่น และการดูแลรักษาให้พร้อมสำหรับการใช้งานได้ตลอดเวลา
เครื่องปั่นโดยทั่วไปแล้วนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ แตกต่างกันไปต่างลักษณะรูปร่างและการใช้งานของตัวเครื่อง คือ
1.เครื่องปั่นแบบจุ่ม
หรือที่เรียกกันว่าเครื่องปั่นมือถือ มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก แต่เหมาะกับการปั่นอาหารหรือวัตถุดิบที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก ส่วนมากเหมาะกับผลไม้ชิ้นเล็ก ๆ
2.เครื่องปั่นแบบโถตั้งโต๊ะ
ซึ่งเป็นเครื่องปั่นที่พบเห็นได้กันบ่อย ๆ จนชินตา ซึ่งเครื่องปั่นประเภทนี้ปั่นอาหารได้หลายประเภท บางชนิดอาจมีลักษณะของใบมีดได้หลายรูปแบบ ซึ่งความละเอียดของการปั่นก็ขึ้นอยู่กับจำนวนวัตต์ที่ใช้ของเครื่องปั่นแต่ละเครื่อง ยิ่งมีจำนวนมาก ประสิทธิภาพที่ใช้ในการปั่นก็สูงตามไปด้วย
3.เครื่องปั่นแบบหัวกระสุน
ที่นิยมนำมาปั่นทำสมูทตี้พร้อมดื่ม ตลอดจนใช้สำหรับการปั่น การบดพวกเครื่องเทศ และเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เป็นต้น
สำหรับการดูแลและรักษาความสะอาดเครื่องปั่นก็ไม่ใช้เรื่องยาก เพียงแค่ทำความสะอาดทุกครั้งที่เลิกใช้งานด้วยน้ำยาทำความสะอาด แล้วล้างฟองออกด้วยน้ำเปล่าให้หมดคราบ จากนั้นวางคว่ำไว้ให้น้ำแห้ง หรืออาจใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งก็ได้ เคล็ดลับอีกประการก็คือไม่ควรใส่วัตถุดิบที่ต้องการปั่นลงไปมากเกินครึ่งของโถปั่นบ่อยนัก เพราะอาจจะส่งผลให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานหนักมากเกินไป อาจจะทำให้มอเตอร์ไหม้และเครื่องปั่นชำรุดเสียหายได้
เครื่องปั่นอาหาร เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มากในการประกอบอาหาร เมื่อรู้แบบนี้แล้ว หากท่านใดอยากซื้อหาไว้ใช้งานติดครัวคู่บ้านเรือน สามารถอ่านบทความเครื่องปั่น 3 รุ่น ที่มีพลังในการปั่นแรงหายห่วงเพิ่มเติมได้ เพื่อให้คุณเลือกเครื่องปั่นที่มีคุณภาพดี และเหมาะสมกับการใช้งานตลอดจนงบประมาณที่มีอย่างสูงสุด และสนุกกับการสร้างสรรค์เมนูอาหารต่าง ๆ จากวัตถุดิบที่ได้จากเครื่องปั่นเหล่านี้
