หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า แท็บเล็ต ถ้าไม่มี wifi สามารถใช้ได้หรือไม่

แท็บเล็ต ถ้าไม่มี wifi สามารถใช้ได้หรือไม่

7356
สามารถใช้แท็บเล็ตที่ไม่มี-WIFI-ได้หรือไม่

แท็บเล็ต ในปัจจุบันเป็นหนึ่งในสินค้าที่นับวันจะยิ่งเหลือน้อยในท้องตลาด ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูง อีกปัญหาคือ Tablet ที่ผู้บริโภคมีในครอบครองมีความทนทานไม่ชำรุดเสียหายให้เป็นเหตุต้องซื้อซ้ำ เรียกว่าเป็นช่วงชะลอตัวของตลาดสินค้าชนิดนี้ก็คงไม่ผิด ผู้ผลิตหลายเจ้าจึงระงับการผลิตเพื่อรอดูท่าทีของตลาด บางเจ้ายังคงผลิตอยู่แต่ก็ออกผลิตภัณฑ์ไม่กี่ตัวในแต่ละปี ล่าสุดมีข่าวดีว่าตลาด Tablet อาจกลับมาคึกคักอีกครั้งเพราะมีการคาดการณ์กันว่าเมื่อเทคโนโลยี 5G เข้ามา Tablet จะกลายเป็นพระเอกในหลาย ๆ งาน โดยเฉพาะการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเครื่องจักรกล อุปกรณ์ IoT และเครื่องมือทางด้านการเกษตรอีกหลายชนิดด้วย ดังนั้น Tablet ในอนาคตจึงน่าจับตามองทีเดียวว่าจะพัฒนาไปไกลขนาดไหนในยุค 5G

แท็บเล็ต-wifi

Tablet กับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

การเชื่อมต่อคลื่นสัญญาณต่าง ๆ ทำให้ Tablet สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป เล่นเกม หรือปรับปรุงซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ในเครื่อง ล้วนจำเป็นต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตแทบทั้งสิ้น และการเชื่อมต่อก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จำแนก Tablet ออกเป็นรุ่นต่าง ๆ ดังนี้

รุ่น Wifi

เป็นการเชื่อมต่อพื้นฐานของ Tablet แทบทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ถ้าหากตัวรับ Wifi หรือ Wireless ชำรุดก็จะแทบทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากเป็นเครื่องคิดเลข นาฬิกาปลุก หรือเอาไว้ดูปฏิทิน การเชื่อมต่อชนิดนี้ยังแบ่งออกเป็น Single band และ Dual band โดย Tablet รุ่นเก่าตัวรับสัญญาณจะเป็น Single band ที่รับได้เฉพาะสัญญาณ 2.4Ghz เท่านั้นในขณะที่ Router รุ่นใหม่ในปัจจุบันจะปล่อยคลื่นสัญญาณออกมาสองแบบคือ 2.4Ghz และ 5Ghz ซึ่งไม่มีปัญหากับ Tablet รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบัน ในส่วนของความต่างเรื่องสัญญาณทั้งสองแบบก็มีดังต่อไปนี้

  • 2.4Ghz เป็นสัญญาณความถี่ต่ำมีระยะสัญญาณที่กว้างกว่าไปได้ไกลกว่า แต่ก็มีคลื่นรบกวนมากทำให้การรับส่งสัญญาณค่อนข้างช้า
  • 5.0Ghz เป็นคลื่นความถี่สูงส่งข้อมูลได้มากกว่า ไวกว่า มีช่องสัญญานเยอะกว่า คลื่นรบกวนน้อยกว่า ได้คุณภาพสัญญาณ Wifi ที่เสถียรกว่ามาก แต่มีระยะครอบคลุมพื้นที่ค่อนข้างสั้น

รุ่น Wifi Cellular

เป็นรหัสต่อท้ายชื่อรุ่นของ Tablet ที่แปลเป็นภาษาชาวบ้านคือใส่ซิมได้นั่นเอง Tablet แบบใส่ซิมได้จะมีราคาสูงกว่าแบบ Wifi ธรรมดา แต่เป็นข้อดีคือหากตัวรับ Wifi ชำรุดอย่างน้อย ๆ ก็ยังสามารถใช้อินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ได้ รุ่น Cellular ยังมีทั้งแบบโทรศัพท์ได้และไม่ได้ให้เลือกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แบบโทรได้จะเป็นรุ่นเก่า ๆ เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคไม่มีความต้องการใช้งานโทรศัพท์โดย Tablet แต่อย่างใด การเชื่อมต่อแบบ Cellular ยังมีเทคโนโลยีของสัญญาณแยกย่อยอีกทั้ง 2G, 3G และ 4G ซึ่งทั้งสามรูปแบบมีความแตกต่างกันดังนี้

  • 2G คือยุคแรกที่สัญญาณโทรศัพท์พัฒนาจากโทรเข้าโทรออกสู่การส่งข้อมูลได้ SMS, GPRS, EDGE จึงเกิดขึ้นมาในยุคนี้ แต่สำหรับความเร็วอินเทอร์เน็ตแล้วระบบ 2G ยังความเร็วต่ำมาก แค่ไม่เกิน 384 kbps เท่านั้นเอง ดังนั้นเวลามีตัวอักษร E หรือ G ปรากฏขึ้นบนแถบแจ้งเตือนนั่นก็แปลว่า Tablet ของเรารับสัญญาณ 4G หรือ 3G ไม่ได้จนต้องปรับไปใช้สัญญาณ EDGE และ GPRS นั่นเอง
  • 3G เป็นเทคโนโลยียุคเปลี่ยนผ่านที่เราใช้งานกันไปไม่กี่ปีมานี้ มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 47Mbps และอัปโหลดข้อมูลสูงสุดที่ 5.7 Mbps ซึ่งสำหรับการใช้งานจริงความเร็วไม่ได้สูงมากขนาดนั้นจึงเป็นที่มาของสัญญาณ 4G ในภายหลัง นอกจากนี้ Tablet Cellular รุ่นเก่า ๆ ยังสามารถใช้ได้แค่สัญญาณ 3G เท่านั้นอีกด้วย
  • 4G เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดอยู่ที่ 100 Mbps และความเร็วในการอัพโหลดข้อมูลสูงสุดที่ 50 Mbps ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดในปัจจุบัน สามารถเล่นเกมที่มีการแข่งขันแบบเรียลไทม์ ดูวิดีโอสตรีมมิ่ง และไลฟ์วิดีโอได้

แท็บเล็ต-wifi1

เลือกซื้อ แท็บเล็ต Wifi หรือ Wifi Cellular ดี?

Tablet ไม่ว่าจะเป็นแบบ Wifi หรือ Wifi Cellular ก็สามารถใช้ได้ทั้งนั้น ขอแค่มีอินเทอร์เน็ตก็พอ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้านหรือผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ก็ควรเลือกใช้รุ่น Wifi Cellular เพราะสอดคล้องกับวิถีชีวิตมากกว่า และสำหรับผู้ที่มีอินเทอร์เน็ตบ้านอยู่แล้วที่ทำงานก็มี Wifi ทั้งยังไม่ได้เดินทางบ่อยจะเลือกจะเลือกซื้อรุ่น Wifi เพื่อเป็นการประหยัดก็ไม่ว่ากัน ดังนั้นหากให้แนะนำก็คงต้องบอกว่าเลือกซื้อตามความสะดวกและงบประมาณของแต่ละคนดูจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

Tablet ต้องพึ่งพาอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากอุปกรณ์สมัยใหม่ชนิดใด ๆ สัญญาณไร้สายความเร็วสูงเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างในชีวิตมนุษย์เราง่ายดายได้ดังใจ ไม่ว่าจะเป็นการค้นคว้าหาข้อมูล ดูหนัง ฟังเพลง หรือรับชมข่าวสาร ทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนสำเร็จได้เพียงไม่กี่วินาทีในยุคดิจิตอล

บทความที่เกี่ยวข้อง