กล้องวงจรปิด ถูกแฮกได้หรือไม่ รู้ได้อย่างไร

กล้องวงจรปิด อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินที่ดูเหมือนว่าจะไม่ปลอดภัยเอาเสียแล้ว เพราะมีข่าวว่ามีแฮกเกอร์ได้เข้ามาแฮกกล้อง CCTV จำนวนหลายพันตัวจากทั่วโลกเพื่อนำไปเผยแพร่และแสวงหาผลกำไรต่าง ๆ อีกทั้งยังมีข่าวเกี่ยวกับการแฮกกล้อง CCTV ใน Crown Casino ในประเทศออสเตรเลียเพื่อแอบดูแต้มและโกงเงิน โดยกวาดเงินไปได้กว่า $32,000,000 ทำให้ผู้ใช้งานต่างร้อน ๆ หนาว ๆ กันเป็นแถบ ๆ เพราะระบบความปลอดภัยที่ไม่ปลอดภัยและมีช่องโหว่หลายช่องทาง เช่น ไม่มีนโนบายความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจน ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าไอพีของเราได้โดยไม่ต้องล็อกอินก่อน หรือการอัพเดตเฟิร์มแวร์โดยไม่มีการตรวจสอบข้อมูล วันนี้เราจึงมีวิธีการตรวจสอบและการสังเกตกล้อง CCTV ที่บ้านเมื่อโดนแฮก พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น

รู้ได้อย่างไรว่ากล้องวงจรปิด โดนแฮก

จอมืด

โดยส่วนมากแฮกเกอร์จะรบกวนกล้อง CCTV โดยการทำให้จอมืดหรือเบลอก่อน เพื่อให้เราหลงประเด็นคิดว่ากล้องเสีย และจะทำให้จอมืดหลาย ๆ ตัว หรือทุกตัวเพื่อเป็นการรบกวน หากเกิดการเหล่านี้ขึ้นให้เอ๊ะใจและเริ่มทำการตรวจสอบได้เลย

ทำงานผิดปกติ

เช่น ใช้ได้งานบ้าง ไม่ได้บ้าง หรือใช้งานได้เป็นบางตัว ซึ่งอาจเป็นเพราะแฮกเกอร์ตั้งใจเข้ามารบกวนเพื่อไม่ให้เราใช้งานได้อย่างปกติ โดยจะไม่แสดงตัวอย่างชัดเจนว่าโดนแฮก หรืออาจอยู่ในขั้นตอนการแฮกนั่นเอง

มีการเปลี่ยนชื่อกล้อง CCTV ที่ตั้งไว้

โดยจะเปลี่ยนชื่อต่าง ๆ ของกล้อง CCTV ที่เราตั้งไว้เพื่อแสดงตัวตน เช่น จากเดิมตั้งไว้ว่า กล้องหน้าบ้าน กล้องหลังบ้าน กล้องในบ้าน ฯลฯ ก็อาจโดนเปลี่ยนเป็น Hack 1, Hack 2 หรือ Hack 3 ในกรณีนี้แน่ชัดแล้วว่ากล้อง CCTV ของเราโดนแฮก สิ่งที่ควรทำคือ ตัดสัญญาณกล้อง หรือปรับองศากล้องขึ้นในมุมอับ เช่น เพดาน ผนัง แล้วรีบทำการตรวจสอบที่มา

IP DVR ถูกแก้ไขและเปลี่ยน

หลังจากที่เปลี่ยนชื่อกล้องแล้วก็มักจะเข้ามาเปลี่ยน IP DVR เพื่อให้เราสับสนหรือเข้าใช้งานไม่ได้ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าไปดูประวัติการแก้ไขได้ และลบไอพีที่เข้ามารบกวนได้ แต่หากเป็นการแฮกเข้ามาจากค่าพื้นฐานของโรงงานก็จะเข้ามาใหม่ได้

พบว่ามี IP อื่นเข้ามาใช้งานและแก้ไขข้อมูล

ส่วนมากแล้วแฮกเกอร์จะใช้ไอพีจากโรงงานเข้ามาแฮก เพราะการตั้งค่าจากโรงงานมักจะใช้รหัสง่าย ๆ เพื่อให้คนจำได้ เช่น 1234 ฯลฯ ทำให้แฮกเกอร์แฮกเข้ามาได้ไม่ยาก และสามารถแฮกเข้าไปในกล้อง CCTV ทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่มีช่องโหว่ของระบบความปลอดภัย ซึ่งในสหรัฐอเมริกาก็มีสถิติโดนแฮกกล้อง CCTV ไปกว่า 4 พันตัว ฝรั่งเศษโดนไปประมาณ 2 พันตัว ส่วนสหราชอาณาจักรโดนไปประมาณ 500 ตัว และมีอีกหลายประเทศที่โดนเช่นกัน

สิ่งที่ควรทำหลังโดนแฮกกล้อง CCTV และวิธีแก้ไข

ตรวจสอบการตำแหน่งการแฮก

เข้าไปตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งการแฮกว่ามาจากประเทศใด เมืองใด เข้ามาแฮกวันที่เท่าไหร่ เวลากี่โมง ชื่อไอพีอะไร เพื่อเก็บเป็นหลักฐานและแจ้งให้กับทางโรงงานหรือศูนย์ให้บริการของกล้อง CCTV ที่ติดตั้งทราบ

เปลี่ยนรหัสผ่าน

เข้าไปเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่โดยให้เปลี่ยนเป็นรหัสที่ยากกว่าเดิมในเบื้องต้น แล้วรีบส่งเรื่องให้โรงงานทราบเพื่อทำการแก้ไข

เปลี่ยนรหัส WiFi

ควรเปลี่ยนรหัส WiFi ใหม่ เพื่อตัดช่องทางการเข้าระบบหรือเพิ่มความยากในการแฮก

ส่งเลข Serial Number ให้โรงงานเพื่อรับการแก้ไข

เพื่อให้โรงงานตั้งค่ารหัสใหม่ วิธีนี้จะช่วยให้ไกลจากมือแฮกเกอร์มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย 100% เพราะความปลอดภัยของผู้ใช้งานขึ้นอยู่กับระบบความปลอดภัยของโรงงานในยี่ห้อนั้น ๆ หากเป็นยี่ห้อที่มีระบบความปลอดต่ำก็มีโอกาสที่จะพบเจอปัญหาเหล่านี้ได้อีก อีกทั้งแฮกเกอร์แต่ละคนก็มีจุดประสงค์การแฮกเข้ามาที่ไม่เหมือนกัน บางคนแฮกเข้ามาเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่บางคนต้องการเข้ามาเพื่อก่อกวนและอวดความเก่งเท่านั้นเอง

กล้อง CCTV แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์แต่ก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน ก่อนเลือกซื้อยี่ห้อไหนควรดูให้ดีว่ายี่ห้อนั้นมีระบบความปลอดภัยที่ดีหรือไม่ เพื่อป้องกันการการแฮกจากเหล่าแฮกเกอร์มือดี