
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 5 ประเทศที่มีภูมิประเทศอันแสนพิเศษผสมผสานกับความเชี่ยวชาญจาก 5 กรรมวิธีสกัดกาแฟของแต่ละท้องถิ่น ผลลัพธ์ที่ได้คือกาแฟ The Master Origin Collection (เดอะ มาสเตอร์ออริจิน คอลเลคชั่น) ใหม่จาก เนสเพรสโซ (Nespresso) 5 รสชาติกาแฟที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศได้อย่างลงตัว
กว่าจะค้นพบกาแฟมาสเตอร์ออริจินแต่ละชนิด ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟของเนสเพรสโซได้มีการเดินทางเพื่อเสาะหาแหล่งกาแฟที่มีคุณภาพเยี่ยมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีการสำรวจค้นหาแหล่งต้นกำเนิดกาแฟ โดยเริ่มจากภูเขาสุมาตราไปจนถึงเนินสูงของนิการากัว และได้ร่วมมือกับเกษตรกรผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการปลูกกาแฟในแต่ละท้องถิ่นโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะทำการทดสอบนวัตกรรมใหม่ๆ และวางแนวการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างสรรค์รสชาติกาแฟที่มีคุณภาพที่สุด
The Master Origin Collection จาก 5 แหล่งของประเทศที่มีภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์จนได้ 5 รสชาติใหม่นี้ ประกอบด้วย Master Origin Ethiopia (มาสเตอร์ออริจินเอธิโอเปีย), Master Origin Colombia (มาสเตอร์ออริจิน โคลอมเบีย), Master Origin Indonesia (มาสเตอร์ออริจินอินโดนีเซีย), Master Origin India (มาสเตอร์ออริจินอินเดีย) และ Master Origin Nicaragua (มาสเตอร์ออริจินนิการากัว) ซึ่งในแต่ละประเทศมีขั้นตอนการเก็บเกี่ยวและเพาะปลูกอย่างพิถีพิถัน ใช้ภูมิปัญญาการเก็บเกี่ยวกาแฟเฉพาะแบบ เช่น ในประเทศเอธิโอเปียจะเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟในทุกๆ ชั่วโมงด้วยมือเพื่อให้แน่ใจว่าเมล็ดพันธุ์แห้งและได้มาตรฐาน หรือประเทศโคลอมเบียจะบ่มกาแฟไว้บนต้นให้แก่เต็มที่จนเป็นสีม่วงเข้ม ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บเกี่ยว ในขณะเดียวกันในเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เหล่าเกษตรกรจะใช้กรรมวิธีท้องถิ่นคือการสีกาแฟแบบเปียก โดยใช้วิธีสีกาแฟในขณะที่เมล็ดยังสดอยู่
ทางด้านของนิการากัวจะใช้กรรมวิธี Black honey (แบล็ก ฮันนี่) คือการปลอกเปลือกแล้วนำกะลากาแฟที่ยังคงมีเมือกจากผลกาแฟอยู่ไปตากรวมกันเพื่อให้ความหวานของน้ำตาลธรรมชาติซึมซาบเข้าสู่เมล็ดกาแฟ ท้ายที่สุดในอินเดียจะใช้กรรมวิธีแบบ monsoon (มอนชูน) คือการนำเมล็ดกาแฟดิบที่เก็บเกี่ยวแล้วปล่อยไว้ริมชายฝั่งให้ได้รับทั้งความชื้นและแสงแดดในช่วงลมมรสุม โดยกรรมวิธีนี้มีที่มาจากเรือขนส่งเมล็ดกาแฟได้ฝ่าลมมรสุมในระหว่างการขนส่ง จึงทำให้เม็ดกาแฟได้ซึมซับความชื้นจากทะเล ส่งผลให้เมล็ดกาแฟพองตัวขึ้น รวมถึงการได้รับแสงแดดที่ส่งผลให้เมล็ดกาแฟหดตัวลง การพองตัวและหดตัวลงของเมล็ดกาแฟนี้ได้ให้กำเนิดรสชาติใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งกรรมวิธีของอินเดียมาสเตอร์ออริจินนี้ได้ถูกนำมาใช้ในศตวรรษที่ 21 โดยนิยมใช้กาแฟอาราบิก้าแต่เพื่อรสชาติที่แปลกใหม่เนสเพรสโซได้นำกรรมวิธีนี้มาใช้กับกาแฟโรบัสต้า
Karsten Ranitzsch, ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟจาก Nespresso กล่าวว่า
“กรรมวิธีการการผลิตกาแฟในแต่ละขั้นตอนนั้นสำคัญมากในการรังสรรค์กาแฟชุด Master Origin เนสเพรสโซสามารถผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อได้ 5 กาแฟที่รสชาติแตกต่าง และคงรสชาติดั้งเดิมของแต่ละพื้นที่ไว้ เราได้ร่วมกับเกษตรกรในท้องถิ่นในการลองสิ่งแปลกใหม่นี้ร่วมกัน จนออกมาเป็น 5 รสชาติที่พิเศษนี้ได้ ต้องขอบคุณแรงสนับสนุนจาก Nespresso AAA Sustainable Quality™ Program หนึ่งในโครงการจากเนสเพรสโซ่”
กาแฟ Nespresso Master Origin มีทั้งหมด 5 ชนิด
![]() |
Master Origin Indonesia มาสเตอร์ออริจินจากประเทศอินโดนีเซีย รสชาติ : เข้มข้นและมีกลิ่นหอมของไม้ กรรมวิธีในการสกัดกาแฟ : Wethulling (สกัดแบบสีกาแฟแบบเปียก) ความชื้นคงที่ในเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้เกษตรกรสามารถสกัดเมล็ดพันธุ์ขณะที่ยังชื้นและสดใหม่ เมล็ดจึงมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เข้มข้น มีรสสัมผัสนุ่มนวลและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของพันธุ์ไม้) |
![]() |
Master Origin Ethiopia มาสเตอร์ออริจินจากประเทศเอธิโอเปีย รสชาติ : มีกลิ่นหอมของดอกไม้และให้รสชาติที่เบาสดชื่น กรรมวิธีในการสกัดกาแฟ : Natural dry processing (กรรมวิธีการตากแบบธรรมชาติ) เกษตรกรท้องถิ่นในเอธิโอเปียมีความเชี่ยวชาญด้านการสกัดแบบแห้งมาอย่างยาวนาน โดยใช้กรรมวิธีตากผลของกาแฟในแดดบนเนินสูง ทำให้กาแฟรสชาตินุ่มนวลและมีกลิ่นผลไม้อ่อนๆ |
![]() |
Master Origin India มาสเตอร์ออริจินจากประเทศอินเดีย รสชาติ : รสชาติเข้มข้นและมีความสไปซี่ กรรมวิธีในการสกัดกาแฟ : Monsoon (มอนชูน) มรสุมที่พัดแรงเข้าชายฝั่งมาลาบาร์ในประเทศอินเดีย ทำให้เกษตรกรท้องถิ่นเริ่มพัฒนา ที่ดินเพื่อเพาะปลูกเมล็ดกาแฟที่ให้รสชาติเข้มข้น |
![]() |
Master Origin Nicaragua ต้นกำเนิดจากประเทศนิการากัว รสชาติ : รสชาติหวานนุ่มละมุน กรรมวิธีในการสกัดกาแฟ : Blackhoney (นำเมล็ดกาแฟที่ยังมีเมือกจากผลกาแฟ ไปตากแห้ง) ในเนินเขาสูงประเทศนิการากัว ได้มีการนำกะลากาแฟที่ยังมีเมือกจากผลกาแฟอยู่ไปตากแดดทุกๆ ชั่วโมงภายใต้แสงแดดจ้าช่วยทำให้ความหวานธรรมชาติซึมซาบเข้าไปในเมล็ดกาแฟได้อย่างดี |
![]() |
Master Origin Colombia ต้นกำเนิดจากประเทศโคลัมเบีย รสชาติ : รสชาติมีกลิ่นหอมของผลไม้และมีชีวิตชีวา กรรมวิธีในการสกัดกาแฟ : Lateharvest (เก็บเกี่ยวตอนสุกคาต้น) ใช้เทคนิคการเก็บเกี่ยวปลายฤดู เมล็ดกาแฟที่ได้จึงเป็นกาแฟที่โตเต็มที่บนกิ่ง และทุกๆ การเริ่มต้นของวันใหม่ ผลกาแฟทุกผลจะต้องได้รับการประเมินและเราจะเลือกเก็บต่อเมื่อมันพร้อมอย่างสมบูรณ์แล้วเท่านั้น |
คุณสามารถดื่มด่ำกับกาแฟพิเศษจากแตล่ะท้องถิ่นได้ในรูปแบบของเอสเปรสโซ (40มล.) หรือแบบลุงโก้ (110มล.) และกาแฟจากท้องถิ่นเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ของเนสเพรสโซทั่วโลกอย่างถาวร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ราคากล่องละ 240 บาท
นอกจากนี้เพื่อให้ได้ประสบการณ์การดื่มกาแฟอย่างสมบูรณ์เต็มอารมณ์ที่สุด การใช้เครื่องชงกาแฟคุณภาพสูงจะช่วยดึงเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟชั้นดีเหล่านี้ออกมาได้พิเศษกว่าเดิม โดย เนสเพรสโซขอแนะนำ เครื่องชงกาแฟรุ่น Essenza Mini Limited Edition Matte Black
ด้วยดีไซน์สีดำที่หรูหรา ทันสมัย ผิวสัมผัสด้าน มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานครบครันและสะดวกสบายในไซส์ขนาดกระทัดรัด ได้รับการรังสรรค์ ออกมาใน 2 รูปลักษณ์สไตล์ที่โดดเด่น ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์เรียบเท่ คลาสสิค และรูปทรง สามเหลี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความสนุกสนานเพิ่มบรรยากาศในห้องครัว Essenza Mini Limited Edition Matte Black วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 6,000 บาท
หากคุณสนใจผลิตภัณฑ์ของ เนสเพรสโซ่ สามารถสั่งซื้อได้ดังนี้
• Nespresso boutique, ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 1
• Nespresso Pop-Up Boutique, Emquatier, Helix Quatier ชั้น G
• Nespresso Central Embassy, ชั้น 2
• โทรฟรี 1800-019090, เว็บไซต์ www.nespresso.com หรือแอปพลิเคชันมือถือ Nespresso
• Facebook.com/Nespresso.thailand, Instagram : @Nespresso.th • LINE@ : @NespressoTH
บทความที่คุณอาจสนใจ
>> รีวิวเครื่องชงกาแฟ Nespresso ขนาดกะทัดรัด ทำได้สารพัดเมนูกาแฟสด