เลือกซื้อ ตู้เย็น ใหม่ควรเลือกแบบไหนดี อินเวอร์เตอร์ หรือ ธรรมดา

เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงตลอดทั้งปี หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้น ตู้เย็น ที่ต้องทำความเย็นตลอดเวลาเพื่อถนอมอาหาร โดยระบบทำความเย็นของตู้เย็นนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ นั่นคือระบบอินเวอร์เตอร์และระบบธรรมดา โดยวันนี้จะขอนำข้อมูลเกี่ยวกับระบบทำความเย็นมาให้ได้รู้จักกันเพื่อที่จะช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อ ตู้เย็น เครื่องใหม่ให้กับคุณ

ระบบอินเวอร์เตอร์คืออะไร?

อินเวอร์เตอร์เปรียบเสมือนสมองสั่งการที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทำงานอย่างชาญฉลาดมากขึ้น ซึ่งจะช่วยในการสั่งการและบริหารจัดการระบบไฟฟ้าภายในเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ประหยัดไฟมากขึ้นนั่นเอง จุดประสงค์หลักของการติดตั้งระบบอินเวอร์เตอร์ในเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็น แอร์ เครื่องทำความเย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องดูดฝุ่น รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่มีมอเตอร์เป็นส่วนประกอบในการทำงาน เพื่อต้องการให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ที่มีระบบมอเตอร์ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดไฟได้มากขึ้น

โดยเฉพาะ ตู้เย็น ที่นำระบบอินเวอร์เตอร์เข้ามาใช้ หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าระบบอินเวอร์เตอร์จะช่วยให้ทำความเย็นมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงนั้นเปล่าเลย ตัวที่ทำความเย็นให้ตู้จริง ๆ นั่นคือคอมเพรสเซอร์ โดยตู้ทำความเย็นจะทำความเย็นได้ดีหรือไม่นั้นขึ้นกับขนาดของคอมเพรสเซอร์ ยิ่งคอมเพรสเซอร์ตัวใหญ่ ยิ่งสามารถทำความเย็นได้ดี ดังจะเห็นได้จากแอร์ที่มีการกำหนดขนาดของ BTU ยิ่ง BTU มาก แอร์ยิ่งเย็น ในขณะที่ค่าไฟก็จะยิ่งแพงขึ้นมากตามไปด้วยเช่นกัน

หากสังเกตให้ดีเกี่ยวกับการทำงานของคอมเพรสเซอร์ เมื่อความเย็นที่ตั้งไว้ถึงระดับที่กำหนด ตัวคอมเพรสเซอร์จะหยุดทำงานในทันที เมื่อความเย็นลดลงต่ำกว่าที่กำหนด คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานใหม่อีกครั้ง จึงเกิดการกระชากไฟฟ้าขึ้นเพราะตัวมอเตอร์และคอมเพรสเซอร์กินไฟมาก

จึงมีการคิดค้นอินเวอร์เตอร์ขึ้นมาซึ่งตัวอินเวอร์เตอร์จะมาช่วยในการควบคุมการทำงานของแรงดันไฟ ความถี่ของกระแสไฟ มอเตอร์และคอมเพรสเซอร์ไม่ให้ทำงานหนัก ด้วยการปรับลดระดับความเร็วรอบของมอเตอร์ให้ค่อย ๆ หมุนช้าลงเพื่อรักษาอัตราการหมุนและทำให้ความเย็นคงอยู่ได้นาน

ความแตกต่างระหว่าง ระบบอินเวอร์เตอร์ และ ระบบธรรมดา

ระบบธรรมดา เมื่อตู้ทำความเย็นถึงความเย็นในระดับที่ตั้งไว้ ตัวคอมเพรสเซอร์จะหยุดการทำงานทันที ซึ่งจะมีผลต่อกระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟที่รับมาและหยุดในทันที เมื่อความเย็นลดลงในระดับต่ำที่ตั้งไว้ตัวคอมเพรสเซอร์ก็จะเริ่มทำงานและเร่งมอเตอร์ให้ทำความเย็นจึงเกิดไฟกระชากและกินไฟมากกว่าปกติ

ระบบอินเวอร์เตอร์ เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำความเย็นถึงระดับที่กำหนด คอมเพรสเซอร์จะไม่หยุดทำงานทันที แต่ตัวอินเวอร์เตอร์จะไปช่วยสั่งการให้มอเตอร์ค่อย ๆ ปรับรอบความเร็วลง โดยที่มอเตอร์ยังคงหมุนในระดับรอบที่ช้าลง เมื่อเริ่มการทำงานใหม่มอเตอร์ก็สามารถค่อย ๆ เริ่มการทำงานได้โดยที่ไม่เกิดไฟกระชากเหมือนแบบตู้เย็นธรรมดานั่นเอง

หัวใจสำคัญของระบบอินเวอร์เตอร์คือช่วยประหยัดไฟได้และสามารถทำได้ดีเลยทีเดียว

สำหรับร้านค้าที่มีตู้แช่เย็นขนาดใหญ่และยังคงเป็นตู้แช่ในระบบธรรมดาจะสังเกตได้เลยว่าค่าไฟฟ้าจะแพงมาก นั่นเพราะการใช้งานของตู้แช่มีการเปิด-ปิดบ่อยครั้ง เพราะทุกครั้งที่เปิด-ปิดตู้เย็น ก็จะทำให้ความเย็นในตู้สูญเสียออกไปจึงทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักและใช้งานไฟฟ้าที่มากขึ้นนั่นเอง แต่ในขณะที่ร้านค้าไหนใช้ตู้เย็นแบบใหม่ที่มีระบบอินเวอร์เตอร์ก็จะช่วยให้ประหยัดการใช้งานไฟฟ้ามากขึ้นไปโดยอัตโนมัติ

อีกทั้งสิ่งของที่จะนำเข้าไปแช่ใน ตู้เย็น นั้นก็ควรจะเป็นสิ่งของที่แห้งเพราะจะช่วยไม่ให้ตู้ทำงานหนักมากเกินไป โดยเฉพาะของที่มีความชื้นสูงยิ่งทำให้ตู้ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เช่น ถุงกระดาษที่ห่อของ, น้ำใส่แก้วหรือขัน ควรเปลี่ยนเป็นถุงพลาสติกหรือกล่องพลาสติกสุญญากาศปิดฝาให้แน่น เพียงเท่านี้ก็เป็นการช่วยไม่ให้ตู้ทำงานหนักแล้ว รวมถึงห้ามวางของร้อนไว้บนหลังเครื่องทำความเย็นทุกชนิด เพราะจะทำให้เครื่องทำงานหนักมากขึ้นเพราะต้องรักษาระดับความเย็นเพื่อต่อสู้กับความร้อนนั่นเอง

หวังเป็นอย่างยิ่งในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น แอร์ เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า จะทำให้คุณเลือกและใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งระบบอินเวอร์เตอร์เพื่อที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวได้เป็นอย่างดี