จะดีแค่ไหนถ้าออมเงินแล้วไม่ต้องเสียภาษี เพราะส่วนใหญ่จะฝากธนาคาร แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ต้องโดนหักภาษีถึง 15% วันนี้เรามีเทคนิคการออมเงินที่ไม่ต้องเสียภาษีมาฝากกัน
8 เทคนิคการออมเงินที่ไม่ต้องเสียภาษี
1.เปิดบัญชีฝากประจำแบบปลอดภาษี
เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากจะเริ่มฝึกวินัยในการออม เพราะเป็นการฝากประจำทุกเดือน เดือนละเท่าๆ กัน จนถึงระยะเวลาที่กำหนดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน โดยธนาคารจะกำหนดขั้นต่ำไว้ที่เดือนละ 1,000 บาท เมื่อครบกำหนดเราก็จะได้ทั้งเงินต้น พร้อมอัตราดอกเบี้ย โดยที่ไม่ต้องเสียภาษี
2.เงินฝากประจำผู้สูงอายุ
เป็นบัญชีเงินฝากประจำผู้สูงอายุปลอดภาษี ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 1.75% โดยมีเงื่อนไขจะต้องได้รับดอกเบี้ยเงินฝากรวมกับบัญชีอื่นๆ แล้วไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ถึงจะได้สิทธิ์ยกเว้นภาษี
3.เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์
ส่วนใหญ่มักจะเป็นสวัสดิการให้แก่ข้าราชการหรือพนักงานของหน่วยงานรัฐต่างๆ ที่ให้สิทธิ์ในการฝากเงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ของหน่วยงานนั้นๆ ได้ ซึ่งจะได้รับยกเว้นภาษี และโดยทั่วไปแล้วยังให้ดอกเบี้ย หรือเงินปันผลที่สูงกว่าธนาคารด้วย
4.กองทุนรวม
ที่ไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล จึงทำให้ได้รับสิทธิยกเว้นทางภาษี และสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการนำเงินไปฝากในบัญชีออมทรัพย์ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นออมเงินประเภทนี้อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจมากนัก จึงควรเริ่มจากกองทุนกองทุนตลาดเงินก่อน เพราะจะคล้ายกับการฝากประจำ
5.การลงทุนใน LTF หรือ RMF
เป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนควรที่จะให้ความสนใจ เพราะได้สิทธิประโยชน์ที่สามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีรายได้ส่วนบุคคลได้ แถมยังเป็นการสร้างเสริมนิสัยในการออมของแต่ละบุคคลด้วย และถ้าถือครองครบตามกำหนดก็ไม่ต้องเสียภาษีอีกเช่นกัน
6.ออมในพันธบัตรรัฐบาล
ออกโดยกระทรวงการคลัง เป็นการออมในระยะยาวอยู่ที่ประมาน 5 – 10 ปี ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝาก มีความเสี่ยงต่ำ แถมได้ลดหย่อนภาษี แต่ถ้าหากจะเลือกที่จะออมในรูปแบบนี้่ ต้องมั่นใจว่าเป็นเงินเย็นที่ยังไม่มีภาวะใช้เร่งด่วน ไม่ได้เป็นเงินที่ต้องนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือใช้จ่ายในภาวะฉุกเฉิน
7.ออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ถ้าบริษัทที่ทำงานอยู่มีสวัสดิการนี้ถือว่าดีมาก ๆ รีบสมัครกันเลย เพราะเป็นตัวช่วยให้พนักงานมีเงินเก็บในยามเกษียณอายุนั่นเอง แถมยังได้ลดหย่อนภาษีอีกด้วย โดยเงินในกองทุนจะมาจาก 2 ส่วน คือ เงินสะสมที่ลูกจ้างให้นายจ้างหักแต่ละเดือนในอัตรา 2-15% ทุกเดือน
8.ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ถือเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะการจ่ายเบี้ยประกันในแต่ละครั้ง จะช่วยฝึกให้มีวินัยในการออมเงินมากยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับผลตอบแทนเป็นเงินก้อนในอนาคตอีกด้วย และได้ความคุ้มครอง นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดหย่อนภาษีประจำปีได้อีกด้วย
การออมผ่านประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันเห็นได้ว่า บริษัทประกันต่างออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับใจผู้บริโภค ดังนั้นการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จึงกลายเป็นทางเลือกในการเก็บออมได้เป็นอย่างดี
เลือกทำประกันสะสมทรัพย์กับประกันเมืองไทย โครงการเมืองไทย Super Saving 14/7 ออมสั้น คุ้มครองนาน ออมแบบสบายๆ จ่ายเบี้ยสั้นๆ เพียงแค่ 7 ปี แต่คุ้มครองชีวิตยาวนานถึง 14 ปี แถมมีเงินจ่ายคืน พร้อมรับผลประโยชน์สูงสุด 186,000 บาท รวมถึงการคุ้มครองชีวิตสูงสุด 145% ซึ่งมีช่องทางการชำระเบี้ยที่หลากหลายให้คุณเลือกชำระได้ทั้งรายเดือน, 3 เดือน, 6 เดือน หรือรายปี
และถ้าหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากมีชีวิตที่ดี มีความมั่นคง และมีเงินออมไว้ใช้จ่ายในอนาคต การเลือกซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์กับประกันเมืองไทยก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะนอกจากได้ออมเงินแล้ว ยังได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอีกต่างหาก สนใจสมัครผ่าน rabbit finance
