ระอุชัวร์!! เมื่อสุดยอดเซลฟี่สมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่าสุด OPPO F7 รุ่นสานต่อความปังจาก OPPO F5 ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า กำลังจะวางขายในบ้านเราปลายเดือนเมษานี้ เตรียมท้าชน Vivo V9 อีกหนึ่งสุดยอดเซลฟี่สมาร์ทโฟนเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา แถมเปิดราคามาแบบต่างกันแค่ 9 บาท วันนี้เลยจะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ สเปค และราคาปัจจุบัน Oppo F7 และ Vivo V9 รุ่นไหนน่าซื้อสุด งานนี้มันส์แน่นอน
หน้าจอ
สิ่งแรกที่สะดุดตาและเห็นชัดสุดๆ ก็คือทั้งสองรุ่นเลือกใช้ดีไซน์หน้าจอพร้อมรอยบาก (Notch) ที่กำลังฮอตฮิตมากในเวลานี้ ความละเอียดหน้าจออยู่ในระดับ FullHD+ (2280 x 1080) อัตราส่วน 19:9 โดย OPPO F7 มีขนาดหน้าจอ 6.23 นิ้ว เล็กกว่า Vivo V9 ที่มีขนาด 6.3 นิ้วนิดเดียว แต่ตัว F7 ครอบทับด้วยกระจก Gorlila Glass 5 ทำให้เรื่องกันรอยขีดข่วนและความทนทานของหน้าจอทำได้ดีกว่า
การออกแบบตัวเครื่อง
ฝาหลังของ F7 ทำจากกระจก Gorilla Glass 5 ขัดเงาเล่นกับแสงได้ดี มาพร้อมกับสีสันแสบทรวงสีแดงสด สีเงิน และสีดำลายเพชร (ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายในบ้านเรา) ส่วน V9 วางขายทั้งหมด 2 สี คือสีทองและ สีดำที่เพิ่มความพิเศษด้วยการผลิตจากวัสดุที่เบาและมีความเงางามมากๆ แต่แลกมากับการเป็นรอยนิ้วมือที่ง่ายกว่า
ประสิทธิภาพการทำงาน
OPPO F7 มีทั้งหมด 2 โมเดลคือรุ่น RAM 4 GB และ 6 GB ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล MediaTek Helio P60 รันบน Android 8.0 ร่วมกับ ColorOS 5.0 ที่บอกเลยว่าการใช้งานหรือเล่นเกมทำได้ดีไม่ไก่กานะจ๊ะ ส่วน VIVO V9 (แว่วๆ ว่าจะมีรุ่นอัปเกรดแบบ V9 Plus เหมือนกัน) ให้ RAM มา 4 GB ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 625 รันบน Android 8.1 ตัวใหม่ล่าสุด ร่วมกับ Funtouch OS 4.0 การทำงานทุกอย่างทำได้ดีตามมาตรฐาน Snapdragon ซึ่งจากการทดสอบ Speedtest ของการเล่นเกม เปิดแอปต่างๆ จากหลายชาแนลใน Youtube เช่น Ramesh Bakotra Tech4mob หรือ TechBuzz เป็นไปทิศทางเดียวกันคือ F7 สามารถทำงานได้รวดเร็วกว่า รวมไปถึงสามารถจัดการพลังงานได้ดีกว่า (ปริมาณแบตเตอรี่ F7 ให้มา 3,400 mAh และ V9 ที่ให้มา 3,260 mAh)
ความจำเครื่อง การเชื่อมต่อ และเซ็นเซอร์
ทั้ง OPPO F7 และ VIVO V9 สองรุ่นให้ความจุตัวเครื่องมาที่ 64 GB ซึ่งตัว F7 จะมีรุ่นความจุ 128 GB ด้วย (ราคาจะเพิ่มขึ้นมา) รองรับการเพิ่มการ์ดความจำสูงสุด 128 GB และ 256 GB ตามลำดับ สามารถใช้งานได้ 2 ซิม และใส่การ์ดความจำพร้อมกันได้ด้วย (Triple Slot) ซึ่ง F9 จะพิเศษกว่าตรงที่สามารถใช้งาน 4G และ voLTE ได้พร้อมกันทั้งสองซิม! ในเรื่องของการเชื่อมต่ออื่นๆ ทั้งคู่รองรับ Wifi แบบ 2.4GHz และ 5.0 GHz แต่สิ่งที่น่าเสียดายมากคือทั้งคู่ยังคงใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Micro-USB อยู่ ยังไม่ใช้แบบ USB Type-C นอกจากนี้ทั้งคู่ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ฝาหลังและการแสกนใบหน้าอีกด้วย
การถ่ายรูป
มาถึงหัวใจหลักของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นในก็คือการถ่ายรูปนั่นเอง ที่นาทีนี้ไม่มีใครยอมใคร
สำหรับ OPPO F7 มาพร้อมกล้องเซลฟี่แบบจัดหนักความละเอียด 25 ล้านพิกเซล ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX576 (HDR) ตัวแรกที่สามารถเก็บแสงได้ดีกว่าเดิม ขนาดรูรับแสง F/2.0 ผสานพลังเทคโนโลยี AI Face Beauty 2.0 และ ARSticker ทำให้การถ่ายเซลฟี่สนุกและได้คุณภาพดีมากขึ้น ส่วนกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง F/1.8 พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ผสานเทคโนโลยี AI Scene Recognition มาช่วยประมวลผลภาพ
สำหรับ VIVO V9 ก็มาพร้อมกล้องเซลฟี่ที่จัดเต็มไม่แพ้กันด้วยความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง F/2.0 มีเทคโนโลยี AI Face Beauty เช่นเดียวกัน ส่วนกล้องหลังก็ตามเทรนด์เลนส์คู่เพื่อรองรับการถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ ความละเอียด 16 และ 5 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง F/2.0 ใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยวิเคราะห์และประมวลภาพด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่าย
เปรียบเทียบราคาปัจจุบัน OPPO F7
ใครที่น่าสนใจรุ่น OPPO F7 ตอนนี้ราคาดีสุดอยู่ที่ 9,990 บาท ส่วน VIVO V9 ก็ได้วางจำหน่าย ใน ราคา 8,990 บาท อย่ารอช้าถ้าอยากได้ต้องจัด อยากเซลฟี่สวยปังต้องหามาครอบครองให้ได้ เข้าไปค้นหาราคาที่ดีที่สุดของทั้งสองรุ่นได้เลยจ้า
ภาพรวม
ในแง่ของการใช้งานทั่วไป แอปโซเชียล โทรศัพท์ เรามองว่าทั้ง Oppo f7 และ Vivo v9 ทำงานได้ดีแทบไม่ต่างกัน เล่นเกมส์กราฟิกหนักๆ ก็ไหวอยู่ เช่น ROV , PUBG (ปรับความละเอียดระดับกลาง) เล่นสบายๆ ไม่มีปัญหา มีฟีเจอร์หลายอย่างที่คอยอำนวยสะดวกผู้ใช้ได้เหมือนๆ กัน เช่น ฟีเจอร์ Game Mode ปิดการแจ้งเตือนไม่ให้มารบกวนขณะเล่นเกมส์ , การสแกนใบหน้า, ล็อคไม่ให้คนอื่นใช้แอป ฯลฯ อาจจะมีข้อสังเกตเล็กน้อยเรื่องความเร็วในการเปิดแอปฯ หรือโหลดแอปฯ F7 ทำเวลาได้ดีกว่า ส่วนในเรื่องของกล้องถ่ายภาพเราขอบอกตรงๆ เลยว่ากล้องหน้าของทั้งสองตัวถือว่าตอบโจทย์เพื่อนๆ ที่ชอบเซลฟี่สุดแล้ว เปิดบิวตัเแต่ดูดีเป็นธรรมชาติกว่าเก่า อีกทั้งยังมีลูกเล่นต่างๆ เช่น AR Sticker เพิ่มความสนุกไปอีก ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้ระบบ AI ที่รีดเร้นพลังให้กับกล้องของทั้งสองรุ่น ยิ่งไปกว่านั้นกล้องหลังของทั้งสองรุ่นก็อัปเกรดมาพอตัวเลย โดยเฉพาะ V9 ที่ให้กล้องคู่มา ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้แบบไม่ตกเทรนด์ (F7 กล้องเดียวก็ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้น้า) ทั้งนี้เรื่องถ่ายภาพมันขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละคนมากกกว่า บางคนชอบสีซี้ดๆ บางคนชอบสีสดๆ เราแนะนำว่าให้เพื่อนๆ ลองไปเล่นเครื่องตัวจริง ลองถ่ายรูปถ่ายเซลฟี่ จะเป็นการประกอบการตัดสินใจได้ที่สุด
