อายแชโดว์ เป็นไอเทมสำคัญชิ้นหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตาของสาว ๆ ผู้หญิงเราสามารถแต่งตาออกมาได้หลายสไตล์หลายลุคโดยไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละวัน แถมยังมีหลายสีและหลายเนื้อสัมผัสให้เลือกใช้ แล้วแบบไหนล่ะที่จะช่วยทำให้ดวงตาดูโดดเด่นน่าจับจ้องมากที่สุด
เนื้อของอายแชโดว์
มีเนื้ออยู่ 3 แบบ ได้แก่ Shimmer , Glitter , Matteใบหน้าได้อีกด้วย
เนื้อแบบ Shimmer
เนื้อที่มีกากเพชรเล็ก ๆ เนื้อละเอียดอยู่ภายใน ทำให้ดูวาว มีทั้งที่ใส่ Shimmer แน่น ๆ และแบบที่ใส่บาง ๆ ซึ่งก็จะให้ลุคที่แตกต่างกัน ช่วยเสริมดวงตาของเราให้ดูมันวาวโดดเด่นมีมิติน่าค้นหา โดยเจ้า Shimmer เล็ก ๆ นั้นจะเล่นกับแสงและช่วยดึงดูดสายตา จะทาแค่บริเวณกลางเปลือกตาหรือหัวตาเพื่อให้ลุคธรรมชาติแต่โดดเด่นก็ได้หรือจะทาแน่น ๆ ให้ลุคโกล์ว ฉ่ำก็ได้เช่นกัน
เนื้อแบบ Glitter
มีความคล้ายคลึงกลับเนื้อ Shimmer เพียงแต่ตัวกากเพชรในเนื้อจะมีขนาดใหญ่กว่ามากและเห็นได้ชัดเจน เป็นอีกตัวที่สร้างความโดดเด่นให้กับดวงตาสาว ๆ ได้ไม่น้อยเลย ด้วยกากเพชรระยิบระยับเหล่านี้ทำให้สาว ๆ ที่ใช้ดูเด่นได้ตั้งแต่ระยะไกล หากไม่ต้องการให้ดูแต่งหน้าจัดเกินไป ก็สามารถแต่งเป็น everyday look ใช้ Glitter บาง ๆ ก็ดูน่ารักน่าค้นหาได้เช่นกัน
เนื้อแบบ Matte
จะเป็นสีล้วน สีด้าน ๆ ไม่ผสมกากเพชร และไม่มีความมันวาวปนอยู่ สามารถใช้งานง่ายแต่งได้หลายลุค ดูกลมกลืนแถมยังให้ความรู้สึกธรรมชาติ และยังสามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลายส่วนบน
เนื้อแบบไหนปัง ทำให้ดวงตาสวยโดดเด่น
หลังจากได้รู้จักเนื้อ eyeshadow แต่ละแบบกันไปแล้ว ขอตอบให้ชัดเจนว่าเนื้อแบบไหนที่ทำให้เด่น คือ
- เนื้อที่ล้อกับแสงและสายตาให้จ้องมองมาที่เรา อย่างเนื้อชิมเมอร์
- เนื้อที่ให้ประกายวับ ๆ อย่างกลิตเตอร์
แน่นอนว่าทั้งสองก็สร้างความโดดเด่นกว่าหากเทียบกันทั้งสามตัว แต่อย่างไรก็ตามในการแต่งหน้าให้ดูดีจะหนักไปทางเนื้อใดเนื้อหนึ่งไม่ได้ ก็อาจจะต้องใช้ทั้งหมดมิกซ์แอนด์แมทช์กันให้เหมาะเลือกลุคที่ต้องการ ถ้าแต่งหน้าถูกกาลเทศะแล้ว ไม่ว่าจะแต่งแบบไหนก็ออกมาสวยทั้งนั้น ลองคิดดูเล่น ๆ ว่าหากต้องแต่งหน้าในงานบุญยามเช้าตรู่ แขกในงานมีแต่ญาติผู้ใหญ่ ควรแต่งหน้าสุภาพ แต่ดวงตาของสาว ๆ แน่นไปด้วยกลิตเตอร์จนเกินควร ไม่มีที่ว่างเลยก็คงจะไม่เหมาะใช่ไหม เพราะฉะนั้นการใช้และการเลือกสีก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเสริมให้ดวงตาของสาว ๆ ดูโดดเด่นแต่พองาม เข้ากับกาลเทศะ
ประเภทของอายแชโดว์
หลังจากทราบกันแล้วว่า มีเนื้อแบบไหนบ้างแต่ละเนื้อดีอย่างไร การแต่งหน้าแต่ละครั้งก็จะมีอีกสิ่งสำคัญคือ ความติดทน ดวงตาจะเด่นอย่างเดียวไม่ได้ต้องเป๊ะปังด้วย เรามาดูแต่กันดีกว่าว่า eyeshadow มีกี่ประเภทแล้วประเภทไหนดีอย่างไร ?
Powder Eye shadow
เป็นแบบเนื้อแป้งอัดแข็งอยู่ในพาเสทที่เราเห็นกันบ่อย ๆ เป็นที่นิยมที่สุดเพราะหาซื้อได้ง่าย แถมในตลับเดียวมีหลากสีให้เลือก ข้อดีคือมีหลายสีราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายเหมาะกับสาว ๆ ทั่วไปและมือใหม่ ข้อเสียคืออาจะไม่ติดทนนานเท่าไหร่ บางยี่ห้ออาจมีเนื้อสีไม่ค่อยแน่น
Cream Eye shadow
อยู่ในรูปแบบเนื้อครีม ข้อดีคือ ติดทนนานมาก เม็ดสีแน่น แต่ข้อเสียก็คือ ไม่เหมาะกับสาวผิวมันเพราะเยิ้มได้ง่าย
Liquid Eye shadow
มาในรูปแบบของขวดจิ้มจุ่มเนื้อสัมผัสเป็นน้ำ แต่เมื่อทาลงไปแล้วจะแห้งเช่นเดียวกับประเภทอื่น ๆ ข้อดีก็คือ พกพาง่าย สะดวก ขนาดเล็ก และติดทน แต่ข้อเสียคือ แห้งเร็ว เมื่อทาลงไปแล้วต้องรีบเกลี่ยให้ทั่ว ไม่อย่างนั้นจะจับตัวเป็นคราบได้
Loose Powder Eye shadow / Pigments
จะมาในรูปของผงในกระปุก ส่วนมากจะพบเป็นเนื้อ Shimmer และ Glitter ข้อดีของเขาคือ ได้ปริมาณมาก พิกเมนท์สีแน่นและเห็นชัด แต่ข้อเสียคือ ไม่ติดทนเท่าไหร่ ค่อนข้างใช้ยากและเลอะเทอะ เหมาะสำหรับช่างแต่งหน้ามืออาชีพ
Stick Eye shadow / Crayon Eye shadow
เป็นรูปแบบแท่งอัดแข็ง ข้อดีคือ ติดทน ใช้งานง่ายและพกสะดวกมาก เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีชีวิตเร่งรีบ ข้อเสียคือ ติดทนน้อยกว่าแบบครีมและลิขวิดเล็กน้อย ถ้าใช้ไม่ระวังอาจทำให้ตัว eyeshadow หักได้
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับอายแชโดว์
- แบบเนื้อ Shimmer สามารถใช้แทนไฮไลท์ยามฉุกเฉินได้ เพียงเลือกสีโทน เหลือง ทอง เงิน ทาบาง ๆ บริเวณที่ต้องการไฮไลท์ให้โดดเด่น เช่น สันจมูก โหนกแก้ม โหนกคิ้ว หน้าผาก และ คาง แต่เน้นย้ำว่าต้องทาเบา ๆ หรือกลับกันสามารถใช้ไฮไลท์ทาแทน eyeshadow แบบ Shimmer ได้เช่นกัน
- แบบเนื้อด้านหรือเนื้อ Matte สามารถหยิบมาใช้แทนเครื่องสำอางอื่น ๆ ได้หลากหลาย เช่น ใช้สีชมพูและส้มแทนบลัชออน หรือสีน้ำตาลแทน คอนทัวร์ บอรนเซอร์เพื่อเพิ่มแสงเงามิติของใบหน้า และสีเทาดำน้ำตาลแทน ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นไปพลาง ๆ ก่อนในยามฉุกเฉินเมื่อเครื่องสำอางอื่น ๆ หมด และเช่นกัน สามารถใช้ ลิปสติก บลัชออน ที่เขียนคิ้ว ทาที่เปลือกตาแทนได้เช่นกัน
ถึงแม้ว่าประโยชน์ของอายแชโดว์เนื้อต่าง ๆ จะมีมาก สามารถใช้แทนเครื่องสำอางอื่นได้ แต่ทางที่ดีควรเลือกใช้เครื่องสำอางให้ตรงกับจุดประสงค์ เพราะเครื่องสำอางแต่ละชนิดออกแบบมาเหมาะสมกับแต่ละส่วนบนใบหน้า
เมื่อรู้จักอายแชโดว์แต่ละเนื้อสัมผัสและแต่ละประเภทกันไปแล้ว แค่นี้สาว ๆ ก็รู้แล้วว่า eyeshadow แบบไหนที่จะทำให้ดวงตาโดดเด่นมากที่สุด นอกจากจะเลือกใช้ตามความต้องการแล้ว “ความเหมาะสม ความพอดี” คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยให้โดดเด่นที่หน้าตาแล้ว ตัวตนของสาว ๆ ทุกคนก็จะเปล่งประกายออกมาอีกด้วย
ขอบคุณรูปเนื้อ eyeshadow จาก primamakeup
