ทุกวันนี้นาฬิกาไม่ได้เป็นแค่เครื่องประดับบอกเวลา แต่ว่ายังถูกพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์ให้สามารถวัดจำนวนก้าวการเดิน วัดแคลอรีที่ใช้ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมไปถึงคุณภาพการนอน ฯลฯ หรือที่เรียกว่านาฬิกา Smart Watch หรือ Smart Band สำหรับใครที่กำลังมองหานาฬิกาที่ทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้มาใช้สักเรือน
วันนี้ Priceza ขอแนะนำ 4 รุ่น Smart Watch ราคาต่ำกว่า 1,500 บาท ได้แก่ Xiaomi Mi Band 4 , Huawei Band 4, Honor Band 5 และ Samsung Galaxy Fit e ที่วางขายและมีศูนย์ในประเทศไทย ใส่ว่ายน้ำได้ พร้อมเปรียบเทียบจุดดีจุดเด่น จุดสังเกตของแต่ละเรือน เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ
เปรียบเทียบจุดดีจุดเด่น จุดสังเกตของแต่ละเรือน
Xiaomi Mi Band 4
สมาร์ทแบนด์ตัวฮ็อตฮิตที่สุดอ้างอิงจากยอดขายใน Priceza.com ที่อัพเกรดจากรุ่น 3 ไปใช้จอ OLED มีสีสันสามารถทัชสกรีนได้ มีรุ่นที่รองรับ NFC สำหรับการแตะจ่าย AliPay (ในไทยยังใช้งานไม่ได้) และรุ่นลิมิเต็ด ?Marvel Edition รองรับภาษาไทยแล้วตอนนี้ มีสายให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีม่วง สีส้ม และสีดำ
จุดเด่น
– จอสีสันคมชัด ทัชสกรีนลื่นติดนิ้ว ตอบสนองไว
– อุปกรณ์เสริมหาซื้อง่าย มีสายให้ซื้อเปลี่ยนเยอะมาก
– มีหน้าปัดให้เลือกหลายแบบ สามารถปรับแต่งได้เอง
– อัพเดต Software บ่อย
– ระยะเวลาใช้งานยาวนานที่สุด
– ราคาถูกที่สุด
จุดสังเกต
– ศูนย์บริการมีน้อย และยังไม่ครอบคลุม
– ต้องถอดตัวเครื่องออกมาชาร์จในแท่น
Huawei Band 4
สมาร์ทแบนด์รุ่นล่าสุดของหัวเหว่ย สามารถทำอะไรได้ครบเหมือน Mi Band 4 เลย ทั้งการตรวจจับการเคลื่อนไหวหลายรูปแบบ การวัดอัตราการเต้นหัวใจ Huawei TruSeen 3.5 ที่แม่นยำตัวนึงในตลาด พร้อมแจ้งเตือนเมื่อการเต้นช้าหรือเร็วเกินไป และการวัดคุณภาพการนอน มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีแดง Amber Sunrise (หน้าปัดดำ) สีดำ Graphite Black (หน้าปัดดำ) และสีชมพู Sakura Pink (หน้าปัดชมพู)
จุดเด่น
– ชาร์จสะดวกด้วยหัว USB ของตัวนาฬิกา สามารถใช้งานร่วมชาร์จกับอแดปเตอร์ USB-A ของอะไรก็ได้
– สามารถปิดเครื่องได้
– เปลี่ยนหน้าปัดได้หลากหลาย
– รองรับภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ
จุดสังเกต
– หน้าจอแบบ TFT คมชัดสู้ OLED ไม่ได้
– ฟอนต์ภาษาไทยมีการตัดคำที่ไม่สมบูรณ์
– ไม่มีเซ็นเซอร์ Gyroscope ตรวจจับการหมุน
– ผู้ใช้ iOS ไม่สามารถโหลด Watch Face เพิ่มได้
– Bluetooth 4.2
Honor Band 5
ยี่ห้อลูกของ Huawei ที่เข้ามาเจาะตลาดกลุ่มผู้ซื้อที่ชอบแก็ดเจ็ตคุณภาพดี ฟังก์ชั่นครบ ในราคาไม่แพง อัดแน่นด้วยฟีเจอร์มาตรฐานของสมาร์ทแบนด์ปี 2019 จอ OLED สีสันชัดเจน รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ
จุดเด่น
– มีเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด
– ใช้ ศูนย์บริการเดียวกับ Huawei
จุดสังเกต
– Bluetooth 4.2
– ผู้ใช้ iOS ไม่สามารถโหลด Watch Face เพิ่มได้
Samsung Galaxy Fit e
เรียกว่าเป็น Fitness Tracker ได้มากกว่านาฬิกา Smart Watch เพราะด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่เน้นแทร็กกิจกรรม และแสดงผลโดยเฉพาะเป็นหลัก ไม่สามารถตั้งค่าอะไรได้เลย เป็นรุ่นเล็กสุดและถูกที่สุดเท่าที่ Samsung เคยผลิตมา หน้าจอเป็นแบบ OLED ขาว-ดำ แทร็กกิจกรรมการออกกำลังกายได้เยอะหลายประเภทมาก ราคาค่อนข้างแรงที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ เหมาะกับคนที่ต้องการความเรียบง่าย Back to basic น้ำหนักเบาใส่แล้วเหมือนไม่ได้ใส่
จุดเด่น
– น้ำหนักเบาเพียง 15 กรัม
– รองรับการแทร็กกิจกรรมกว่า 96 ประเภท
จุดสังเกต
– จอขาวดำ ทัชไม่ได้
– ไม่สามารถตั้งค่า ใช้คำสั่งผ่านตัวนาฬิกาได้
– ราคาแพงที่สุดเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ของรุ่นอื่น ๆ
ตารางเปรียบเทียบ Mi Band 4 , Huawei Band 4 , Honor Band 5 และ Samsung Galaxy Fit e
| Mi Band 4 | Huawei Band 4 | Honor Band 5 |
Galaxy Fit e | |
| ราคาดีที่สุดบน Priceza | 669 บาท | 999 บาท | 990 บาท | 1,090 บาท |
| น้ำหนัก (รวมสาย) | 22.1 กรัม | 24 กรัม | 22.7 กรัม | 15 กรัม |
| หน้าจอ | จอสีชนิด AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว ปรับความสว่างได้ | จอสีแบบ TFT ขนาด 0.96 นิ้ว ปรับความสว่างได้ | จอสีชนิด AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว ปรับความสว่างได้ | จอขาวดำแบบ OLED ขนาด 0.74 นิ้ว ปรับความสว่างได้ 2 ระดับ |
| การทัชสกรีน | ทำได้ มีปุ่ม Home | ทำได้ มีปุ่ม Home | ทำได้ มีปุ่ม Home | ไม่ได้ เคาะแสดงผลได้อย่างเดียว |
| สายรัดข้อมือ | ยาง TPU ถอดเปลี่ยนได้ |
ยางซิลิโคน ถอดเปลี่ยนได้ | ยางซิลิก้าเจลถอดเปลี่ยนได้ | ยาง TPU ถอดเปลี่ยนได้ |
| การปิดเครื่อง | ทำไม่ได้ | ทำได้ | ทำไม่ได้ | ทำไม่ได้ |
| การแทร็กกิจกรรม (กีฬา) | 6 ประเภท | 9 ประเภท | 10 ประเภท | 96 ประเภท |
| ระดับการกันน้ำ | ระดับ 5ATM ใช้งานได้ที่ความลึก 30 เมตร ใส่ว่ายน้ำได้ | |||
| Bluetooth | 5.0 | 4.2 | 4.2 | 5.0 |
| แบตเตอรี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง / ระยะเวลาใช้งาน | 135 mAh สูงสุด 20 วัน | 91 mAh สูงสุด 9 วัน | 100 mAh สูงสุด 14 วัน | 70 mAh สูงสุด 13 วัน |
| การชาร์จ | แท่นชาร์จ (ต้องถอดเครื่องออกจากสาย) | หัวชาร์จ USB ติดกับตัวเครื่อง | สายพอร์ตชาร์จ | สายพอร์ตชาร์จ |
| เซ็นเซอร์ | – วัด Heart rate – Accelerometer 3 แกน – Gyroscope 3 แกน – วัดระยะชนิดเก็บประจุ |
– วัด Heart rate – Accelerometer 3 แกน – Infrared Wear |
– วัด Heart rate – Accelerometer 3 แกน – วัดระดับออกซิเจนในเลือด |
– วัด Heart rate -Accelerometer 3 แกน |
สรุปซื้อรุ่นไหนดี
ในมุมมองของผู้เขียนรู้สึกว่า Mi Band 4, Honor Band 5 และ Huawei Band 4 ล้วนแล้วแต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ใกล้เคียงกัน สามารถตั้งค่าอะไรต่าง ๆ ได้จากตัวนาฬิกา ซึ่งแตกต่างจาก Samsung Fit e ที่แสดงผลได้อย่างเดียว แต่จากสเปก ความอึดของแบตเตอรี่ การปรับแต่ง เมนูการใช้งาน และอุปกรณ์เสริม เช่น สายนาฬิกา ผู้เขียนรู้สึกว่า Mi Band 4 จะมีความโดดเด่นที่สุด ทั้งนี้ก็อยู่ที่เพื่อน ๆ แล้วล่ะว่าชอบดีไซน์แบบไหน และต้องการใช้ฟีเจอร์อะไรเป็นหลักจ้า
