
ค็อกเทล คือ เครื่องดื่มที่เกิดจากการผสมเหล้าชนิดต่างๆ อาจจะชนิดเดียวหรือหลายชนิดเข้าด้วยกัน กับน้ำหวานรสต่างๆ น้ำผลไม้ แล้วใส่น้ำแข็ง นำไปเขย่าในแก้ว Cocktail Shaker จนเกิดรสชาติใหม่ๆ ที่ลงตัวมากมาย ซึ่งวันนี้เรามี สูตรค็อกเทล มาฝาก เป็นการผสมเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรมาตรฐาน ไม่ยุ่งยาก ทำง่าย และอร่อย สามารถทำดื่มชิลๆ ที่บ้านได้
อย่างที่บอกไป Cocktail คือการผสมเหล้า ดังนั้น “เหล้า” จึงเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น รัม (Rum) วอดก้า (Vodka) ยิน (Gin) เตกีล่า (Tequila) วิสกี้ (Whisky) บรั่นดี (Brandy) เป็นต้น เอาล่ะไปเริ่มทำกันเลยดีกว่า
รู้ไว้ใช่ว่า หน่วยตวงส่วนผสมค็อกเทล ที่นิยมใช้กันจะมีค่าเป็น ช็อต (Shot) หรือ จิ๊กเกอร์ (Jigger) และ ออนซ์ Oz. (ประมาณ )โดย 1 Oz. = 29.57 มล. และ 1 Shot (Jigger)= เท่ากับ 44.36 มล.
ค็อกเทลที่มีเหล้ารัม (RUM) เป็นส่วนผสมหลัก
ไหมไทย (Mai-Tai)
ค็อกเทลรสชาติหวานอมเปรี้ยว หอมกลิ่นส้มและสัปปะรด ดื่มง่าย และเป็นที่นิยมมากของชาวต่างชาติที่มาเที่ยวในไทย
ส่วนผสม Mai Tai
- รัมดำ 1/2 ออนซ์
- รัมขาว 1 ออนซ์
- ออเรนจ์ คุยราโซ 1/2 ออนซ์
- น้ำมะนาว 3/4 ออนซ์
- น้ำส้ม 1/2 ออนซ์
- น้ำสัปปะรด 1/2 ออนซ์
- น้ำเชื่อมตามความชอบ
สูตรค็อกเทล Mai-Tai
- นำส่วนผสมทั้งหมดนำมาเชคประมาณ 8 – 12 ครั้ง (ไม่ควรมากกว่านี้) ในอัตราส่วน น้ำแข็ง 3 ต่อส่วนผสม
- เทลงในแก้ว หรือผลสัปปะรดคว้านเนื้อออก จะใส่น้ำแข็งด้านในหรือไม่ก็แล้วแต่ความชอบ
โมฮิโต้ (Mojito)
รสชาติอร่อย ซ่า หอมใบมินท์ รสชาติค่อนข้างแรง สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีแก้วเชค
ส่วนผสม Mojito
- รัมขาว 1/2 ออนซ์
- มะนาว 1/2 ลูก
- น้ำตาล 1-2 ช้อนชา
- ใบสะระแหน่ หรือใบมินท์ 10 ใบ
- โซดา 1/3 ขวด (ถ้าไม่มีสามารถใช้น้ำสไปร์ท หรือ 7-up ได้)
- โซดา
สูตรค็อกเทล Mojito
- ล้างมะนาวให้สะอาดหั่นซีก 1/4 จากครึ่งลูก และใส่ใบสาระแหน่ หรือใบมินท์ ลงในแก้ว
- ใส่รัมขาวและโซดาลงไปให้มีปริมาณน้ำกับน้ำแข็งอยู่ในอัตราส่วน 3:1
- คนให้เข้ากันเทลงแก้วโดยไม่ต้องเชค
รู้ไว้ใช่ว่า 1 ออนซ์ มีปริมาณเท่ากับ 29.6 มิลลิลิตร
บลูเบอร์รี่เมเปิ้ลโมจิโต้ (Blueberry Maple Mojito)
หากใครชอบโทนสีม่วงก็ต้องจัดค็อกเทลสูตรนี้ไปลองทาน เพราะมีความม่วงจากบลูเบอร์รรี่และไซรัปทำให้สดชื่นนิดๆ ติดเปรี้ยวหน่อยๆ จากโซดาและมะนาว ปิดท้ายด้วยบลูเบอร์รี่สดประดับอยู่ด้านบนพร้อมใใบสะรแหน่หอมสดชื่น
ขอบคุณรูปจาก https://neighborfoodblog.com
ส่วนผสม Blueberry Maple Mojito
- น้ำมะนาว 1/2 ออนซ์
- เมเปิ้ลไซรัป 1/2 ออนซ์
- โซดา 1/2 ถ้วย
- บลูเบอร์รี่แช่แข็งตามชอบ
- ใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง
สูตรค็อกเทล Blueberry Maple Mojito
- เริ่มจากใส่บลูเบอร์รี่ใบสะระแหน่ลงในแก้วที่จะใช้เสิร์ฟ ตามด้วยใส่น้ำแข็ง น้ำมะนาว
เมเปิ้ลไซรัป น้ำบลูเบอร์รี่และโซดาตามลงไปในแก้ว
- จากนั้นคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน สุดท้ายเทค็อกเทลที่ได้ลงในแก้วที่ใส่ใบสะระแน่ไว้ในตอนแรก เสร็จแล้วก็จัดการดื่มได้เลย
ค็อกเทลที่มีวอดก้า (Vodka) เป็นส่วนผสมหลัก
คอสโมโพลิแทน (Cosmopolitan)
เครื่องดื่มสีชมพูหวานๆ รสชาติเปรี้ยวแกมความหวานของผลไม้ ระดับความมึนแบบละมุนไม่รุนแรง ยกเว้นแต่จะเพิ่มช็อตวอดก้า
ส่วนผสม Cosmopolitan
- วอดก้า 1.5 ออนซ์
- Chambord (Raspberry Liqueur) หรือ 1 ออนซ์
- น้ำแครนเบอร์รี่ 1/4 ออนซ์
- น้ำส้ม 1 ออนซ์
- น้ำมะนาว 1 ออนซ์
สูตรค็อกเทล Cosmopolitan
- นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในแก้วเชค เติมน้ำแข็งจนเกือบเต็ม
- เขย่าแรงๆ 5-10 ครั้ง แล้วนำมาเทใส่แก้วที่เตรียมไว้
ลองไอร์แลนด์ที (Long Iceland Tea)
แก้วนี้บอกเลยว่าถ้าได้ “ลองสักที” อาจจะ “ล่วง” กันได้ง่ายๆ เพราะมีส่วนผสมของเหล้าถึง 5 ชนิดได้แก่ วอดก้า รัมขาว เตกีล่า เหล้ายิน และทริปเปิ้ลเซค รสจะเข้มโดนใจสายสตรอง แต่ที่ต้องรู้แม้ชื่อเมนูจะมีคำว่า Tea แต่ไม่มีส่วนผสมของชาชนิดใดเลย
ส่วนผสม Long Island Ice Tea
- วอดก้า 1/2 ออนซ์
- ทริปเปิ้ลเซค 1/2 ออนซ์
- เตกีล่า 1/2 ออนซ์
- ยิน 1/2 ออนซ์
- รัมขาว 1 ออนซ์
- น้ำมะนาว 1/2 ออนซ์
- โค้ก
สูตรค็อกเทล Long Island Ice Tea
- เตรียมแก้วทรงยาวที่เติมน้ำแข็งจนเกือบเต็ม
- เติมส่วนผสมทั้งหมดลงไปตามลำดับส่วนผสม
- เทโค้กไปจนน้ำเต็มแก้วพอดี แล้วคนเบาๆ
เซ็กส์ ออนเดอะบีช (Sex On The Beach)
สูตรค็อกเทลวอดก้าตัวสุดท้าย ที่ชื่ออาจดูแรง แต่รสชาติซอฟต์ใส อุดมไปด้วยผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว แครนเบอร์รี่ ตัวน้ำจึงมีสีชมพูพีชๆ
ส่วนผสม Sex On The Beach
- วอดก้า 1 ออนซ์
- เหล้าส้ม หรือทริปเปิ้ลเซค 1/2 ออนซ์
- เหล้าพีช 1/2 ออนซ์
- น้ำสับประรด 1/2 ออนซ์
- น้ำแครนเบอร์รี่ 2 ออนซ์
- น้ำมะนาว 1/2 ออนซ์
- น้ำส้ม 2 ออนซ์
สูตรค็อกเทล Sex On The Beach
- เตรียมแก้วทรงยาวที่เติมน้ำแข็งจนเกือบเต็ม
- เติมส่วนผสมทั้งหมดลงไปตามลำดับส่วนผสม
- เทโค้กไปจนน้ำเต็มแก้วพอดี แล้วคนเบาๆ
แก้ว Cocktail แต่ละชนิดจะมีเอกลักษณ์เหมาะกับรสชาติของค็อกเทลแต่ละประเภท
ค็อกเทลที่มียิน (Gin) เป็นส่วนผสมหลัก
ยิน&โทนิค (Gin&Tonic)
เป็นการผสมเหล้ายินกับโทนิคเข้าด้วยกัน ซึ่ง ยินคือเหล้าขาวชนิดหนึ่งที่หมักจากธัญพืช ส่วนโทนิคคือเครื่องดื่มรสขมจากเปลือกไม้ซิงโคนา ทำให้ “ยินโทนิค” เป็นเครื่องดื่มรสขมๆ ถ้าดื่มแบบออริจินัลอาจจะทานยากสำหรับบางคน ด้วยเหตุนี้จึงอาจใส่มะนาวลงไปเพื่อช่วยปรุงแต่งรส
ส่วนผสม Gin Tonic
- ยิน 2 ออนซ์
- ชเวปส์ น้ำโซดา โทนิค วอเตอร์ 4 ออนซ์
- มะนาว 1/4 ลูกฝานแว่น
สูตรค็อกเทล Cosmopolitan
- เติมน้ำแข็งจนเกือบเต็ม (3ใน4)
- ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
ดรายมาร์ตินี (Dry Martini)
ชื่อเหล้าที่เป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์สายลับพยัคฆ์ร้าย 007 ที่มีส่วนประกอบแค่ 2 อย่าง คือ Gin และ Dry Vermouth แต่ความแรงอย่าบอกใคร ลิ้มรสในแก้วที่แช่เย็นได้ที่ และอาจจะใส่มะกอกลงไปด้วยก็ได้
ส่วนผสม Dry Martini
- ยิน 2 ออนซ์
- เวอร์มุธ (Vermouth) 1/2 ออนซ์
- ผิวเปลือกเลม่อน (ลูกสีเหลือทรงรี) หรือผลมะกอกดองเล็ก 2 – 3 ลูก
สูตรค็อกเทล Dry Martini
- นำแก้วไปแช่เย็น
- เติมส่วนผสมทั้งหมดลงไปในแก้วเชค พร้อมใส่น้ำแข็ง 3 ใน 4 แก้ว
- คนเร็วๆ เป็นเวลา 1 นาทีแล้วรีบเทใส่แก้ว
- ใส่ผิวเลมอน หรือผลมะกอกลงไป
ค็อกเทลที่มีเตกีล่า (Tequila) เป็นส่วนผสมหลัก
มาการิต้า (Margarita)
โดย การผสมเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรมาตรฐาน ของ Margarita เครื่องดื่มผสมเตกีล่า เหล้าขาวเม็กซิโกรสรุนแรง ที่ถ้าได้เห็นหน้าตาแล้วอาจจะร้องอ๋อ เพราะว่าจะเสิร์ฟพร้อมกับแก้วปากกว้างที่มีการทางมะนาว และเคลือบเกลือไว้ที่ขอบแก้ว เพื่อช่วยเติมรสเปรี้ยวเค็มตัดรสความแรงของ Tequila
ส่วนผสม Margarita
- เตกีล่า 1 ออนซ์
- ทริปเปิ้ล เซค 1/2 ออนซ์
- น้ำมะนาว 1 ออนซ์ (ใช้เป็นน้ำมิกซ์เบอร์รี่ก็ได้)
- น้ำเชื่อม
- เกลือสำหรับเคลือบขอบแก้ว
สูตรค็อกเทล Margarita
- นำน้ำมะนาวมาทารอบขอบแล้ว แล้วพลิกปากแก้วจุ่มในจานที่มีเกลือเพื่อเคลือบแก้ว
- ใส่ส่วนผสมทั้งหมด เติมน้ำเชื่อมตามความชอบลงในแก้วเชค
- ใส่น้ำแข็ง 4 – 5 ก้อนในแก้วเชค แล้วเขย่าประมาณ 10-12 ครั้ง
- เทเครื่องดื่มลงในแก้วโดยระวังไม่ให้โดนปากแก้ว
เตกีล่า ซันไรซ์ (Tequila Sunrise)
ค็อกเทลสีส้มแดง ร้อนแรงดั่งแสงพระอาทิตย์ขึ้น รสชาติหวานนำเปรี้ยวตาม อร่อยสดชื่น
ส่วนผสม Tequila Sunrise
- เตกีล่า 2 ออนซ์
- น้ำเชื่อมทับทิม 1/2 ออนซ์
- น้ำส้มคั้น
สูตรค็อกเทล Tequila Sunrise
- ใส่น้ำแข็งให้เต็มแก้ว
- เติมเตกีล่าตามอัตราส่วน แล้วตามด้วยน้ำส้มไปจนเกือบเต็มแก้ว 4 ใน 5
- เติมน้ำเชื่อมทับทิมลงไป แล้วคนเล็กน้อยเพื่อให้เกิดการไล่สีเลเยอร์ ซึ่งน้ำเชื่อมจะลงไปอยู่ล่างสุดของแก้ว
ค็อกเทลที่มีวิสกี้ (Whisky) เป็นส่วนผสมหลัก
วิสกี้ ซาวเออร์ (Whiskey Sour)
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเปรี้ยวแน่ แต่ที่แน่ๆ ดริ้งนี้มีการใส่ของคาวอย่างไข่ขาวที่ถูกเชคแล้วจะเกิดเป็นฟองนุ่มนวล เหมือนจะแปลกแต่มันเข้ากันได้ดีมาก แถมเมนูนี้กินแล้วยังได้โปรตีนจากไข่ด้วยนะ
ส่วนผสม Whisky Sour
- เบอร์เบิร์นวิสกี้ 2 ออนซ์
- น้ำมะนาว 3/4 ออนซ์
- น้ำเชื่อม 1/2 ออนซ์
- ไข่ขาว 1 ฟอง
สูตรค็อกเทล Whiskey Sour
- นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในแก้วเชค ใส่น้ำแข็งเล็กน้อย
- เขย่าแรงๆ เป็นเวลา 8 – 10 นาที เพื่อให้ไข่ข่าวเกิดเป็นฟองละมุน
- นำมาเทลงใส่แก้ว
บลัดแอนด์แซนด์ (Blood and Sand)
เติมดีกรีความเข้มอีกสักนิด ด้วยการเพิ่มเหล้าอีก 2 ตัวลงไป แล้วให้ความเปรี้ยวของส้มเพื่อชูรสชาติให้โดดเด่นเข้ากับเหล้า
ส่วนผสม Blood and Sand
- สก็อตช์วิสกี้ 1 ออนซ์
- บรั่นดีเชอร์รี่ 1 ออนซ์
- รุซโซ่ เวอร์มุธ 1 ออนซ์
- น้ำส้ม 1 ออนซ์
สูตรค็อกเทล Blood and Sand
- นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในแก้วเชค ใส่น้ำแข็ง 4-5 ก้อน
- เขย่าแรงๆ ต่อเนื่อง 2-3 นาที และนำมาเทกรองใส่แก้ว
ค็อกเทลยอดนิยมอื่นๆ เป็นส่วนผสมหลัก
บีฟิฟตี้ทู (B52)
ค็อกเทลไฟลุกที่มีชื่อมาจากเครื่องบิน กินแล้ววูบวาบด้วยดีกรีความแรงที่คนคอแข็งแค่ไหนก็อาจยกธงขาว ส่วนผสมจะแยกเป็นเลเยอร์ 3 ชั้น มักจะเสิร์ฟเป็นแก้วช็อต นิยมจุดไฟบนแก้วให้ร้อนก่อนดื่ม แล้วใช้หลอดดูดให้หมดในคราวเดียวเพื่อเพิ่มความตื่นเต้น (ควรศึกษาวิธีทำอย่างละเอียดก่อนลองทำนะคะเพราะว่าค่อนข้างอันตราย)
นอกจากนี้ถ้าเพิ่มวิปครีมไปด้านบนของ B52 จะกลายเป็นเครื่องดื่มที่ชื่อว่า Blow Job
ส่วนผสม B52
- คาห์ลัว Kahlua 1/2 ออนซ์
- เบย์ลี่ส์ (Bailey’s Cream) 1/2 ออนซ์
- ทริปเปิ้ลเซค 1/2 ออนซ์
- ไข่ขาว 1 ฟอง
สูตรค็อกเทล B52
- เทส่วนผสมทั้งหมดลงในแก้วช็อต ไม่ต้องคน ซึ่งของเหลวจะแยกเลเยอร์เอง
- จุดไฟ แล้วใช้หลอดดูด (โปรดใช้ความระมัดระวังอย่างสูง)
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับสูตรเครื่องดื่มค็อกเทลแบบ Classic ที่เรานำเสนอ ถ้าใครอยากทำดื่มเองที่บ้าน ก็ลองทำกันดู วัตถุดิบหาซื้อค่อนข้างง่าย ยกเว้นบางเมนูอย่าง B52 ที่ต้องระวังกันมากขึ้นหน่อยนะคะ ขอให้สนุกกับการดื่มค็อกเทลนะจ้ะคุณผู้อ่านทุกคน
**บทความนี้ทำมาเพื่อให้ความรู้เท่านั้น มิได้มีจุดประสงค์เพื่อสงเสริมการดื่มแอลกอฮอลล์ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีห้ามดื่ม และการจำหน่ายในบุคคลที่อายุไม่ถึง 20 ปี ถือว่าผิดกฎหมาย ต้องระวางโทษทั้งจำและปรับ