วิเคราะห์ราคารีเจนซี่ กลม-แบน ตั้งแต่อดีตจนถึงช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566

ข่าวการปรับโครงสร้างภาษีเครื่องดื่มออลกอฮอล์สร้างความหวั่นใจให้บรรดานักดื่มคอทองแดงไม่ใช่น้อย เพราะจะมีผลให้ราคาเหล้าและเบียร์ที่จำหน่ายในประเทศไทยปรับเปลี่ยนราคาต่างจากเดิม โดยเฉพาะผู้ที่หลงใหลบรั่นดีไทย รีเจนซี่ ที่ปัจจุบันจะมีราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ แบนละ 340 บาท กลมละ 480 บาท (500มล)

บทความนี้เป็นบทความเพื่อให้ความรู้ มิได้มีเจตนาส่งเสริมการขายแต่อย่างใด

ปรับราคาใหม่! รีเจนซี่ตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2565 จนถึงปัจจุบัน ราคาเพิ่มขึ้น 50 – 100 บาท

เรียกได้ว่าอวสานสายดื่มที่ติดอกติดใจรีเจนซี่เลยก็ว่าได้ นอกจากปัจจุบันจะหาซื้อได้ยากแล้ว ยังพบว่าร้านค้าหลายแห่งเริ่มทยอยปรับราคารีเจนซี่ขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดราคาดังนี้

*ราคาดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง

ราคาบรั่นดีรีเจนซี่จะแพงขึ้นหรือถูกลง?

ถ้าใครเป็นแฟนตัวยงของบรั่นดียี่ห้อนี่ คงจะตอบได้ทันทีว่า มันแพงขึ้น จากอดีตพอสมควร และจะบอกว่าแค่เฉพาะยี่ห้อรีเจนซี่อย่างเดียวก็ไม่ถูกนัก ต้องเรียกว่าแพงขึ้นในทุกชนิดของเครื่องดื่มแอลกอฮออลล์ไม่ว่าจะแบรนด์ใดก็ตาม ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการปรับฐานโครงสร้างภาษีน้ำเมาของกรมสรรพสามิตหลายครั้ง

ครั้งแรกในปี 2556 ที่ผ่านการอนุมัติคณะรัฐมนตรีปรับขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เฉลี่ย 7 – 8% ส่งผลให้ราคาเหล้าและเบียร์ปรับขึ้นทันที

หลังจากนั้นในปี 2560 ราคาสินค้าเหล้า เบียร์ มีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อกฎหมายภาษีสรรพสามิตแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ถูกบังคับใช้ ทำให้ราคาเหล้าในประเทศปรับขึ้นราคาด้วย กล่าวคือเหล้าทั้งหมดในประเทศ ขวดกลม 28 ดีกรี ปรับราคาขึ้น 8 -30 บาท และเหล้าขวดกลม 40 ดีกรี ปรับขึ้น 30 บาทต่อขวด สวนทางกับราคาของสุรานำเข้าซึ่งปรับราคาลงขวดละ 2 – 20 บาท จากตัวอย่างดังกล่าวเห็นได้ว่ายิ่งปริมาณแอลกอฮอลล์มากราคาก็จะยิ่งถูกปรับขึ้นมากกว่า

แน่นอนว่าเหล้าบรั่นดีไทยยอดนิยมอยู่ในเกณฑ์สินค้าหลายรายการต้องปรับราคาภาษีใหม่ด้วย สินค้าอาจจะปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงเล็กน้อยก็ได้ แล้วเมื่อลองเปรียบเทียบกับราคาของเหล้ารีเจนซี่ช่วงต้นปี 2561 ราคาของเหล้ารีเจนซี่ ขวดกลม อยู่ที่ 690 บาท และขวดแบน 390 บาท เมื่อมาเทียบกับราคาช่วงปลายปี 2563 อยู่ที่ แบนละ 370 บาท กลมละ 640 บาท และเทียบกับต้นปี 2565 อยู่ที่ แบนละ 280 บาท กลมละ 450 บาท (500มล) ซึ่งถือว่าลดลงเล็กน้อย จากพิษเศรษฐกิจและช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19

จนมาถึงล่าสุดในช่วงกลางปี 2562 ดูเหมือนว่าจากการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดน้ำเมา เห็นได้ว่ามีมันมีการปรับราคาลงมาเพื่อกระตุ้นยอดขายสู้กับคู่แข่งทางตรงและทางอ้อม ทั้งเหล้าในประเทศอย่าง Meridian (เมอริเดียน) เหล้านอกโดยเฉพาะแบรนด์จิมบีม ซึ่งเป็นเหล้าวิสกี้นำเข้า ราคาขวด 1 ลิตรประมาณ 820 – 980 โดยราคาชนิดขวดแบนมีราคาสูงสุด 299 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 243 บาท ส่วนรีเจนซี่ขวดกลม 700 มล. มีราคาสูงสุด 588 บาท และราคาต่ำสุดคือ 475 บาท

เมื่อมาเทียบกับราคาช่วงปลายปี 2563 อยู่ที่ แบนละ 370 บาท กลมละ 640 บาท และต้นปี 2564 แบนละ 280 บาท กลมละ 450 บาท (500มล) ซึ่งถือว่าลดลงเล็กน้อย จากพิษเศรษฐกิจและช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 และในต้นปี 2565 280 และกลมละ 450 บาท (500 มล) เท่ากับปี 2564

คาดการณ์ทิศทางราคาบรั่นดีรีเจนซี่ในอนาคต

คาดว่าการปรับราคาเหล้ามีผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ เนื่องจากผู้บริโภคหันกลับมาซื้อเหล้าไปดื่มกินที่บ้านมากขึ้น เมื่อกำลังซื้อของครัวเรือนลดลงในเวลาเดียวกัน ลูกค้ากลุ่มที่กินเหล้าและเบียร์มีการปรับพฤติกรรมอย่างชัดเจน เปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อเหล้ากินที่บ้านจะช่วยประหยัดรายจ่ายได้ทางหนึ่งด้วย เหล้าบรั่นดี รีเจนซี่ ยังคงขายได้เรื่อย ๆ เนื่องจากราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์นำเข้าค่อนข้างแพง พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ส่งผลให้เหล้าไทยขายดีขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าราคาจะปรับขึ้น แต่ก็เป็นการปรับเพิ่มเล็กน้อย ไม่ค่อยกระทบกับผู้บริโภคที่เป็นลูกค้ารายย่อย

ปีที่ผ่านมามีรายงานจากกรมสรรพสามิตว่าจัดเก็บภาษีเหล้าและเบียร์ได้น้อยลง แสดงว่ายอดขายชะลอตัวจากการรณรงค์งดดื่มสุราส่วนหนึ่ง  รวมถึงการจัดโซนห้ามดื่มในหลายสถานที่ ในส่วนของผู้ประกอบการพยายามปรับราคาและประคองยอดขายเอาไว้ โดยเหล้าบรั่นดี รีเจนซี่ ขวดแบน 350 มล. ที่จำหน่ายในร้านค้าออนไลน์มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อลดลงให้ลูกค้าเป็นพิเศษ โดยขายต่ำสุดราคาเพียง 243 บาท เป็นโอกาสให้ลูกค้ายุคใหม่ได้ตรวจสอบข้อเสนอพิเศษเพื่อรับส่วนลดและซื้อเหล้าบรั่นดีไทยในราคาที่ถูกลง

ว่ากันตามหลักความจริงการขึ้นภาษีกระทบต่อต้นทุนราคาสุราไม่มากนัก และในช่วงที่ยอดขายซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้ผู้ประกอบการและร้านค้าปลีกบางแห่งยังคงตรึงราคาเดิมไว้ ส่วนหนึ่งเป็นสินค้าจากสต๊อกเก่าที่ยังคงมีต้นทุนเดิม ผู้บริโภคก็ไม่ได้รับผลกระทบจากจากนโยบายปรับราคาเหล้าและเบียร์อย่างที่กังวลกัน หน่วยงานของรัฐก็คอยตรวจตราไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสเอาเปรียบปรับขึ้นราคามากเกินไปด้วย

โดยปกติเหล้าบรั่นดี ราคารีเจนซี่ ไม่โหดมาก เป็นมาตรฐานบรั่นดีไทยที่กินได้ดี แต่ก็มีคู่แข่งแบรนด์นอกหลายที่ราคาอยู่ในเกณฑ์สู้กันได้ คือ 500 – 900 บาท ถ้าเหล้าไทยปรับราคาขึ้นอีก ขณะที่เหล้านำเข้าลดราคาลงมา คงทำให้เหล้าบรั่นดีไทยอยู่ยาก การปรับอัตราภาษีใหม่ครั้งล่าสุดดูจะไม่ส่งผลต่อราคาขายปลีกมากนัก
ด้วยการรักษาเอกลักษณ์และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้เหมือนเดิมจากเมื่อ 40 กว่าปี ทำให้แม้ว่าราคารีเจนซี่จะแพงขึ้น ก็คงยังครองใจลูกค้าอยู่เสมอ และคิดว่าหากมีการปรับราคาเพิ่มในอนาคตก็จะแพงขึ้นระหว่าง 10 – 30 บาท ถึงอย่างนั้นนักดื่มบรั่นดีหลายท่านก็ยินดีที่จะจ่ายอย่างแน่นอน

ผลไม้อะไรที่ใช้ผลิตบรั่นดีบ้าง

บรั่นดีอาจผลิตจากผลไม้อื่น ๆ เช่น แอปเปิ้ล, แบล็กเบอร์รี่, แอปริคอท, เชอร์รี่, แพร์, พลัม, พีช และผลไม้ท้องถิ่นนั้น เมื่อบ่มในถังไม้โอ๊ค รส สี และกลิ่นจะมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป บรั่นดีบางชนิดก็ไม่ผ่านการบ่มในถังไม้แต่อย่างใด โดยบรั่นดีที่กลั่นมาจากผลไม้อื่น ๆ เรียกว่า White Fruit Brandy เป็นเครื่องดื่มที่ผลิตจากผลไม้ชนิดอื่นนอกเหนือจากองุ่น เป็นเหล้ากลั่นเหมือนกันเพียงแต่ไม่บ่มในถังไม้ มีกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของผลไม้ชนิดนั้น ต้องนำมาหมักบ่มต่ออีกขั้นจึงจะเรียกว่าบรั่นดีได้

รีเจนซี่ องุ่น สับปะรด ดูยังไง

อย่างที่กล่าวไปว่าผลไม้ที่ใช้เอามาทำบรั่นดีรีเจนซี่ มีทั้งองุ่นและสับปะรด ซึ่งมีความแตกต่างกัน ถ้าเป็นองุ่นล้วน จะเขียนข้างขวดว่า Finest Grape Brandy ส่วนเหล้าบรั่นดีที่ผลิตจากองุ่นเบลนด์กับสับปะรด จะเขียนข้างขวดว่า Finest Thai Brandy ซึ่งรสชาติที่เป็นผสมกับสับปะรดจะละมุนหอมหวานแนวฟรุตตี้มากกว่า
**การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อาจเป็นเหตุให้พิการหรือเสียชีวิตได้ และการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ให้เฉพาะผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ถือว่ามีความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย