หน้าแรก ข่าว อัปเดตไทม์ไลน์ สถานการณ์ล่าสุด ไวรัสโควิด 19 พร้อมอาการ และการป้องกัน

อัปเดตไทม์ไลน์ สถานการณ์ล่าสุด ไวรัสโควิด 19 พร้อมอาการ และการป้องกัน

ณ ตอนนี้ผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และยังไม่พบวิธีการรักษาที่ได้ผล 100% ยังคงต้องรักษาตามอาการ แนะนำให้ป้องกันตัวเองก่อนเสมอ งดเดินทางต่างประเทศทุกรณีจะดีที่สุด

15082
ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่-2019-สถานการณ์-อาการ-และการป้องกัน

นอกจากเรื่องปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ที่คนไทยต้องให้ความสนใจ ยังมี ไวรัสอู่ฮั่น หรือ ไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2019 (2019-nCoV) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ไวรัสโควิด 19 (Covid-19)” ที่ต้องตระหนักและเฝ้าระวังให้ดี เพราะตอนนี้พบผู้ป่วยแล้ว 2,220 คนในไทย และเสียชีวิตแล้ว 26 คน

ไทม์ไลน์ และสถานการณ์ไวรัสล่าสุด

คุณสามารถดูข้อมูลจำรวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต ในแต่ละประเทศที่พบการแพร่ระบาดแบบเรียลไทม์ได้แล้วที่ กรมควบคุมโรค หรือ workpoint จ้า

ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ประเทศไทย
กรมควบคุมโรค : 6 เมษายน 2563
6 เมษายน 2563 จำนวนผู้ติดเชื้อในไทย 2,220 คน เสียชีวิต 26 คน รักษาหายแล้ว 793 คน ทั่วโลกติดเชื่อสะสมทะลุ 1.3 ล้านคนแล้ว
9 มีนาคม 2563 ไทยติดเชื้อสะสม 50 คน , โซเชียลตรวจสอบพบการกักตุนสินค้าหน้ากากอนามัยเป็นหลักร้านชิ้น #Saveแหม่มโพธิ์ดำ

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 110,034 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,825 ราย รักษาหายแล้ว 61,977 ราย

6 มีนาคม 2563 ไทยติดสะสม 47 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 98,387 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,383 ราย รักษาหายแล้ว 55,424 ราย

5 มีนาคม 2563 ผีน้อยที่กลับมาไทยหลายคน ไม่ยอมกักตัวเอง ประชาชนวอนภาครัฐช่วยจัดการ

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 95,413 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,3285 ราย รักษาหายแล้ว 53,257 ราย

4 มีนาคม 2563 คนไทยกลับมาจากเกาหลีเพิ่ม 158 คน มีไข้ 17 คน

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 93,158 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,198 ราย รักษาหายแล้ว 50,690 ราย

3 มีนาคม 2563 ผีน้อย (ผู้ที่ลักลอบไปทำงานที่เกาหลีอย่างผิดกฎหมาย) 8 รายที่เพิ่งกลับมาไทย เข้าข่ายติดเชื้อ ตอนนี้กำลังถูกกักตัว เบื้องต้นรัฐบาลยังไม่มีมาตรการรับมือการกลับประเทศของผีน้อยที่เหลืออีกราว ๆ 5,000 คน

สหรัฐเฝ้าระวังเร่งด่วน หลังพบผู้ติดเชื้อถูกปล่อยตัวในรัฐ Taxas

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 90,933 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,117 ราย รักษาหายแล้ว 48,183 ราย

2 มีนาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อรายที่ 43 ในไทย เป็นหญิงอายุ 22 ปี ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 37 ที่เป็นคนขับรถ

ยอดผู้ติดเชื้อเกาหลีพุ่ง 4,000 คน แนะไม่ควรไปเด็ดขาด

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 88,590 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,044 ราย รักษาหายแล้ว 47,995 ราย

1 มีนาคม 2563 สาธารณสุขแถลงการณ์ หนุ่มวัย 35 ปี เสียชีวิตเป็นรายแรกในไทย พร้อมประกาศเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ติดเชื้อสะสมรวม 42 คน

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 88,590 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,977 ราย รักษาหายแล้ว 45,074 ราย

28 กุมภาพันธ์ 2563 ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม สะสมรวม 41 คน รักษาหายแล้ว 28 คน

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 83,374 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,858 ราย รักษาหายแล้ว 36,545 ราย

26 กุมภาพันธ์ 2563 Breaking : พบผู้ติดเชื้อคนไทย เป็นผู้สูงวัยที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น หวั่นเชื้อกระจายเร็วเพราะตอนนี้คนในครอบครัวเป็นแล้ว 1 คน ขณะนี้ถูกกักตัวเฝ้าดูอาการอยู่ที่โรงพยายาบาล

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 81,005 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,762 ราย รักษาหายแล้ว 30,109 ราย

24 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 79,360 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,619 ราย รักษาหายแล้ว 25,044 ราย , เกาหลีคุมไม่ได้หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 763 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโรค ใครที่มีแผนจะไปควรหลีกเลี่ยง เปลี่ยนเส้นทาง
21 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 76,497 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,247 ราย รักษาหายแล้ว 18,440 ราย ,ผู้ติดเชื้อที่เกาหลีพุ่ง 2 เท่าในวันเดียว
20 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 75,725 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2128 ราย รักษาหายแล้ว 16,330 ราย 
19 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 75,200 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2012 ราย รักษาหายแล้ว 14,772 ราย
18 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 73,261 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,869 ราย รักษาหายแล้ว 12,584 ราย , ไทยมีผู้ป่วยเพิ่ม 1 คน , ไทยห้ามผู้โดยสารต่างชาติบนเรือเวสเตอร์ดัมเข้าประเทศ
17 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 71,331 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,775 ราย รักษาหายแล้ว 10,972 ราย , ไต้หวันเสียชีวิตรายแรก , เวียดนามหน้ากากอนามัยขาดตลาดพร้อมปิดหมู่บ้านหลังพบการระบาด ใครจะเดินทางไปเที่ยวเตรียมอุปกรณ์ไว้ด้วย , ญี่ปุ่นวิกฤตระดับ 3 สั่งห้ามเดินทางและให้ทำงานที่บ้านบางส่วนหลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง 3 เท่า ใครจะไปเที่ยวระวังถูกกักตัว , สายการบินหลายแห่งไปญี่ปุ่นเปิดขอเงินคืนหรือเลื่อนตั๋วแล้ว
16 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 69,290ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,669 ราย รักษาหายแล้ว 9,983 ราย , ผลวิจัยใหม่เผยเชื้อไวรัสสามารถอยู่บนสิ่งของได้นาน 9 วัน
15 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 68,997 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,670 ราย รักษาหายแล้ว 9,871 ราย , ญี่ปุ่นติดเชื้อแซงหน้าทุกประเทศเป็นรองจีน
14 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 64,437 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,383 ราย รักษาหายแล้ว 6,886 ราย 
13 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 60,312 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,368 ราย รักษาหายแล้ว 5,976 ราย , งาน Mobile World Congress งานมือถือที่ใหญ่ที่สุดของโลกถูกยกเลิกเรียบร้อยจากสถานการณ์ไวรัส , ท่าเรือแหลมฉบัง ห้ามผู้ติดเชื้อโคโรน่าเข้าเขตท่าเรือ
12 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 45,183 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,115 ราย รักษาหายแล้ว 4,833 ราย องค์การอนามัยโลกประกาซชื่อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อย่างเป็นทางการคือ Covid-19
11 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 43,112 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1018 ราย รักษาหายแล้ว 4,099 ราย , เกิดข้อพิพาทที่ไทยไม่ให้เรือขนส่งจากฮ่องกงเข้าเทียบท่าจากเรื่องไวรัส
10 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 40,561 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 956 ราย รักษาหายแล้ว 3,416 ราย , สถานทูตสหรัฐในจีนงดออกวีซ่าจากสถานการณ์ไวรัส
9 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ  37,198 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น  811 ราย รักษาหายแล้ว  2,649 ราย
8 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 34,546 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 752 ราย รักษาหายแล้ว 2,345 ราย
7 กุมภาพันธ์ 2563 ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 34,914 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 734 ราย รักษาหายแล้ว 2,085 ราย , คุณหมอลี่ที่ออกมาเตือนเรื่องไวรัสเป็นคนแรกๆ ในจีน ติดเชื้อและเสียชีวิตแล้ว , จีนพบทารกแรกเกิดติดเชื้อไวรัส ล่าสุดยังไม่พบสาเหตุว่ามาจากไหน หมอสันนิษฐานไวรัสอาจจะติดจากแม่สู่ลูกได้
6 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 28,254 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 565 ราย รักษาหายแล้ว 1171 ราย (ไทยรักษาหายแล้ว 5 จาก 25 ราย) , อย.เตือน ตอนนี้ยารักษาหรือป้องกันไวรัสโคโรน่าไม่มีจริง อย่าหลงเชื่อ!
5 กุมภาพันธ์ 2563 138 คนไทยในอู่ฮั่นถึงประเทศไทยแล้วเมื่อคืน พร้อมถูกกักตัวเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน , ผู้ติดเชื้อ 24503 ราย เสียชีวิต 492 ราย รักษาหายแล้ว 899 ราย , โรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยโคโรน่าโดยเฉพาะในจีนใกล้สร้างเสร็จแล้ว ผู้ติดเชื้อในไทย 25 ราย (ไทยรักษาหายแล้ว 5 ราย)
4 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 2 หมื่นรายเป็นที่เรียบร้อย , เสียชีวิต 427 ราย รักษาหาย 667 ราย,ผู้เสียชีวิตรายที่ 2 ของฮ่องกง , รัฐบาลส่งคนไปรับคนไทย 142 คน ที่อู่ฮั่นแล้ววันนี้ คาดถึงสนามบินอู่ตะเภาเวลา 1 ทุ่ม
3 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 17,360 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 362 ราย รักษาหายแล้ว 486 ราย
2 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 15,000 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 305 ราย รักษาหายแล้ว 346 ราย , โรงพยาบาลราชวิถี ค้นพบวิธีรักษาไวรัสโคโรน่า จากการใช้ยารักษาไวรัส HIV และ ไข้หวัดใหญ่ร่วมกัน ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง
31 มกราคม 2563 องค์การอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉินระดับโลก ยังไม่สามารถควบคุมได้, ผู้ป่วยทะลุ 9,776 รายทั่วโลก ยอดผู้เสียชีวิต 213 ราย แซงโรคซาร์สแล้ว , ในไทยยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม , พบคนไทยติดไวรัสรายแรก เป็นคนขับแท็กซี่
30 มกราคม 2563 ผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกเพิ่มเป็น 170 ราย ติดเชื้อเพิ่มเป็น 7,783 ราย รักษาหายแล้ว 177 ราย
29 มกราคม 2563 ผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกเพิ่มเป็น 131 ราย ติดเชื้อเพิ่มเป็น 5,578 ราย รักษาหายแล้ว 107 ราย ในไทยยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม , ผู้ป่วยเชียงใหม่เสียชีวิตแล้ว
28 มกราคม 2563 ผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกพุ่งเกือบ 2 เท่า  เป็น 107 ราย , ติดเชื้อเพิ่มเป็น 4,474 ราย รักษาหายแล้ว 106 ราย , ในไทยพบเพิ่มอีก 6 ราย รวมทั้งหมด 14 คน ซึ่งเป็นนทท.จีนทั้งหมด , พบการติดจากคนสู่คนครั้งแรกในญี่ปุ่น
27 มกราคม 2563 ผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลก 56 ราย , ติดเชื้อ 2,118 ราย ไทยต้องสงสัยผู้ป่วยรายที่ 10 , สื่อจีนเผยโคโรน่าสามารถติดกันได้แม้อยู่ในระยะฟักตัวที่ยังไม่แสดงอาการ 5
26 มกราคม 2563 พบผู้ต้องสงสัยผู้ติดเชื้อที่เชียงใหม่เพิ่มอีก 2 ราย , ทุกสายการบินเส้นทาง จากไทยไปจีน สามารถเลื่อนตั๋วหรือคืนเงินได้ (ตรวจสอบสายการบินได้จากเว็บไซต์หลักของแต่ละบริษัท) , ฮ่องกงประกาศภาวะฉุกเฉินรับมือการแพร่ระบาดของไวรัส, อเมริกาพบผู้ติดเชื้อคนที่ 3
25 มกราคม 2563 ยอดผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 45 ราย และติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1,287 ราย, ประธานาธิบดีของจีนมีคำสั่งคนจีนเดินทางออกนอกประเทศ
24 มกราคม 2563 ผู้ป่วยในจีนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 25 ราย ติดเชื้อเพิ่มเป็น 830 ราย ขยายพื้นที่เป็น 29 เมืองในจีน กักกันประชากรรวมกว่า 23 ล้านคน และสั่งปิดพระราชวังต้องห้ามในวันตรุษจีน ยกเลิกงานฉลองตรุษจีนในปักกิ่ง ฮ่องกง มาเก๊า 2 , ประเทศจีนเตรียมสร้างโรงพยาบาลพิเศษเพื่อรักษาโรคนี้โดยเฉพาะ
23 มกราคม 2563 ผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าในจีนเสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย ติดเชื่อเพิ่มอีก 571 คน ทางการจีนสั่งปิดระบบขนสั่งมวลชนในเมือง ปิดการติดต่อเข้าออกเมือง งดเที่ยวบิน, พบผู้ป่วยรายแรกที่อเมริกา , พบนักท่องเที่ยวชาวจีน ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ที่กระบี่ (อัปเดตแล้วว่าไม่ติดเชื่อ แต่เป็นทอมซินอักเสบ)
21 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยรายแรกของไต้หวัน รวมถึง 3 เมืองใหญ่ของจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ เซิ่นเจิ้น และกรุงปักกิ่ง
16 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยรายแรกของญี่ปุ่น และในวันที่หายดีแล้ว
22 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยในไทยเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 4 ราย (จีน 3 ไทย 1)
13 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยรายแรกในไทย เป็นชาวจีน
12 – 31 ธันวาคม 2563 พบผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรง ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และทราบว่าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เป็นสาเหตุของอาการป่วย

ไวรัสโควิด 19 (ไวรัสโคโรน่า)

ไวรัสโคโรน่า เป็นชื่อกลุ่มไวรัสสายพันธุ์แรกสุดพบในปี 2003 อยู่ในกลุ่มเดียวกันของไวรัสโรคหวัดธรรมดา และโรคซาร์สที่เคยระบาดหนักก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจอันตราย ส่งผลให้ถุงลมปอดอักเสบรุนแรง

ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่-2019-lung
news-medical.net

เชื้อตัวนี้สามารถพบได้ปกติในสัตว์ แต่ในบางกรณีอาจติดจากสัตว์สู่คน รวมไปถึงในคนกับคนแต่ส่วนใหญ่มักมีที่มาจากในสัตว์ จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะสัตว์ป่า เช่น ชะมด ค้างคาว ไก่ป่า และงู เป็นต้น

สำหรับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ที่ค้นพบ องค์การอนามัยโลก ยังไม่สามารถหาที่มาของเชื้ออย่างชัดเจนได้ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากเนื้อสัตว์ป่าที่ซื้อขายอยู่ ในเขตของตลาดค้าอาหารทะเลอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พบการระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ และมีรายงานว่าสามารถติดจากคนสู่คนได้แล้ว

กรณีติดจากคนสู่คน จะติดจากการถูกไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของคนที่ป่วย

อาการของโรค เป็นแบบนี้รีบไปหาหมอนะ

ด้วยความที่ อาการของผู้ป่วยจากไวรัสชนิดนี้ จะมีอาการคล้ายอาการของไข้หวัดใหญ่ เป็นอย่างมากเลยทำให้การสังเกตได้ค่อนข้างยาก แต่ในเบื้องต้นถ้าเราเคยมีประวัติไปสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด หรืออยู่ใกล้คนที่เคยไปสถานที่ดังกล่าวมา ให้สังเกตอาการของโรค ดังนี้

  • มีไข้สูงเกิน 37.5 องศา
  • มีน้ำมูก
  • ไอเจ็บคอ คอแดง
  • หายใจหอบเหนื่อย
  • รู้สึกผิดปกติขึ้นที่จมูก โพรงจมูก หรือช่องคอส่วนบน

แต่ถ้ามีไข้สูงไม่ลดภายใน 2 วัน แนะนำควรรีบไปหาหมอ เพื่อรีบตรวจหาเชื้อ แม้จะไม่ใช่ไวรัสโคโรน่า แต่อาจจะเป็นไวรัสตัวอื่น เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ตอนนี้มีอยู่หลายสายพันธุ์เลย โดยหากรอช้า อาการอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นปอดติดเชื้อ และทำให้ปอดอักเสบได้เลย

อย่างที่กล่าวไป ผู้เขียนขอย้ำว่าหากคุณมีประวัติเคยเดินทางไปยังเมื่ออู่ฮั่นภายใน 14 วัน หรือเคยไปใกล้ชิดกับผู้ที่มีประวัติเดินในระยะเวลาดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการอย่างเร็วที่สุดค่ะ เพราะว่าไวรัสชนิดนี้มีระยะฟักตัวประมาณ 14 วัน ซึ่งระหว่างนั้นอาจจะไม่แสดงอาการของโรคออกมา

การป้องกันไวรัสโคโรน่า

  1. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เกิดการระบาดหรือเสี่ยงต่อการระบาดโดยไม่จำเป็น
  2. สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในสถานที่ผู้คนแออัด หรืออยู่ใกล้ผู้ที่มีอาการป่วย
  3. ล้างมือบ่อย ๆ หรือใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ 60% ขึ้นไป
  4. ระวังการสัมผัสของคัดหลั่งของผู้อื่นที่มีความเสี่ยง เช่น น้ำลาย น้ำมูก หรือเสมหะ
  5. อย่าใช้มือขยี้ตา แคะจมูก แคะปาก
  6. อย่าเข้าใกล้สัตว์ที่เสี่ยงในการเป็นพาหะของโรค ในที่นี้ถูกสงสัยว่าเป็นค้างคาว และงู รวมไปถึงห้ามทานเนื้อสัตว์แปลก ๆ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ป่าในช่วงนี้

อัปเดตประเทศที่พบผู้ป่วยไวรัส  COVID-19 ช่วงนี้งดเดินทางกันก่อน!

ข้อมูลอัปเดตล่าสุดของวันที่ 6 เมษายน 2563 ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว ทั้งหมด 182 ประเทศ ควรงดการเดินทางไปต่างประเทศทุกประเทศ

ไวรัส COVID -19 โคโรน่าในไทย?

ณ ตอนนี้พบผู้ที่ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วกว่า 2,000 คน เสียชีวิตแล้วกว่า 20 คน ช่วงนี้หากจำเป็นต้องออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือและพกน้ำยาหรือเจลแอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อติดตัวด้วยเสมอ เพราะจากตัวเลขผู้เข้าข่ายที่จะป่วยยังมีสะสมกว่า 2 หมื่นคน ผู้เขียนวิคราะห์ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอีกตลอดทั้งเดือน

ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่-2019-การควบคุมโรค
forum.thaivisa.com

สรุป

แม้ว่าในตอนนี้รัฐบาลจะมีมาตรการป้องกัน คัดกรอง ที่สนามบินอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ในไทย แต่อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ควรประมาท เพราะไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่จากคนสู่คนได้ ด้วยเหตุนี้จึงต้องรู้จักดูแลป้องกันโรคเบื้องต้นด้วยตัวเอง และหมั่นติดตามข่าวและสถานการณ์ข่าวอย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ ซึ่งไพรซ์ซ่าจะคอยอัปเดตอย่างเร็วที่สุดค่ะ


1 https://www.nytimes.com/2020/01/20/world/asia/coronavirus-china-symptoms.html
2 https://www.tnnthailand.com/content/27151