
นอกจากเรื่องปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ที่คนไทยต้องให้ความสนใจ ยังมี ไวรัสอู่ฮั่น หรือ ไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2019 (2019-nCoV) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ไวรัสโควิด 19 (Covid-19)” ที่ต้องตระหนักและเฝ้าระวังให้ดี เพราะตอนนี้พบผู้ป่วยแล้ว 2,220 คนในไทย และเสียชีวิตแล้ว 26 คน
ไทม์ไลน์ และสถานการณ์ไวรัสล่าสุด
คุณสามารถดูข้อมูลจำรวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต ในแต่ละประเทศที่พบการแพร่ระบาดแบบเรียลไทม์ได้แล้วที่ กรมควบคุมโรค หรือ workpoint จ้า

6 เมษายน 2563 | จำนวนผู้ติดเชื้อในไทย 2,220 คน เสียชีวิต 26 คน รักษาหายแล้ว 793 คน ทั่วโลกติดเชื่อสะสมทะลุ 1.3 ล้านคนแล้ว |
9 มีนาคม 2563 | ไทยติดเชื้อสะสม 50 คน , โซเชียลตรวจสอบพบการกักตุนสินค้าหน้ากากอนามัยเป็นหลักร้านชิ้น #Saveแหม่มโพธิ์ดำ
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 110,034 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,825 ราย รักษาหายแล้ว 61,977 ราย |
6 มีนาคม 2563 | ไทยติดสะสม 47 ราย
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 98,387 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,383 ราย รักษาหายแล้ว 55,424 ราย |
5 มีนาคม 2563 | ผีน้อยที่กลับมาไทยหลายคน ไม่ยอมกักตัวเอง ประชาชนวอนภาครัฐช่วยจัดการ
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 95,413 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,3285 ราย รักษาหายแล้ว 53,257 ราย |
4 มีนาคม 2563 | คนไทยกลับมาจากเกาหลีเพิ่ม 158 คน มีไข้ 17 คน
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 93,158 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,198 ราย รักษาหายแล้ว 50,690 ราย |
3 มีนาคม 2563 | ผีน้อย (ผู้ที่ลักลอบไปทำงานที่เกาหลีอย่างผิดกฎหมาย) 8 รายที่เพิ่งกลับมาไทย เข้าข่ายติดเชื้อ ตอนนี้กำลังถูกกักตัว เบื้องต้นรัฐบาลยังไม่มีมาตรการรับมือการกลับประเทศของผีน้อยที่เหลืออีกราว ๆ 5,000 คน
สหรัฐเฝ้าระวังเร่งด่วน หลังพบผู้ติดเชื้อถูกปล่อยตัวในรัฐ Taxas ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 90,933 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,117 ราย รักษาหายแล้ว 48,183 ราย |
2 มีนาคม 2563 | พบผู้ติดเชื้อรายที่ 43 ในไทย เป็นหญิงอายุ 22 ปี ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 37 ที่เป็นคนขับรถ
ยอดผู้ติดเชื้อเกาหลีพุ่ง 4,000 คน แนะไม่ควรไปเด็ดขาด ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 88,590 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3,044 ราย รักษาหายแล้ว 47,995 ราย |
1 มีนาคม 2563 | สาธารณสุขแถลงการณ์ หนุ่มวัย 35 ปี เสียชีวิตเป็นรายแรกในไทย พร้อมประกาศเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ติดเชื้อสะสมรวม 42 คน
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวม 88,590 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,977 ราย รักษาหายแล้ว 45,074 ราย |
28 กุมภาพันธ์ 2563 | ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม สะสมรวม 41 คน รักษาหายแล้ว 28 คน
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 83,374 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,858 ราย รักษาหายแล้ว 36,545 ราย |
26 กุมภาพันธ์ 2563 | Breaking : พบผู้ติดเชื้อคนไทย เป็นผู้สูงวัยที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น หวั่นเชื้อกระจายเร็วเพราะตอนนี้คนในครอบครัวเป็นแล้ว 1 คน ขณะนี้ถูกกักตัวเฝ้าดูอาการอยู่ที่โรงพยายาบาล
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 81,005 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,762 ราย รักษาหายแล้ว 30,109 ราย |
24 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 79,360 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,619 ราย รักษาหายแล้ว 25,044 ราย , เกาหลีคุมไม่ได้หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 763 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโรค ใครที่มีแผนจะไปควรหลีกเลี่ยง เปลี่ยนเส้นทาง |
21 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 76,497 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,247 ราย รักษาหายแล้ว 18,440 ราย ,ผู้ติดเชื้อที่เกาหลีพุ่ง 2 เท่าในวันเดียว |
20 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 75,725 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2128 ราย รักษาหายแล้ว 16,330 ราย |
19 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 75,200 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2012 ราย รักษาหายแล้ว 14,772 ราย |
18 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 73,261 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,869 ราย รักษาหายแล้ว 12,584 ราย , ไทยมีผู้ป่วยเพิ่ม 1 คน , ไทยห้ามผู้โดยสารต่างชาติบนเรือเวสเตอร์ดัมเข้าประเทศ |
17 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 71,331 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,775 ราย รักษาหายแล้ว 10,972 ราย , ไต้หวันเสียชีวิตรายแรก , เวียดนามหน้ากากอนามัยขาดตลาดพร้อมปิดหมู่บ้านหลังพบการระบาด ใครจะเดินทางไปเที่ยวเตรียมอุปกรณ์ไว้ด้วย , ญี่ปุ่นวิกฤตระดับ 3 สั่งห้ามเดินทางและให้ทำงานที่บ้านบางส่วนหลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง 3 เท่า ใครจะไปเที่ยวระวังถูกกักตัว , สายการบินหลายแห่งไปญี่ปุ่นเปิดขอเงินคืนหรือเลื่อนตั๋วแล้ว |
16 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 69,290ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,669 ราย รักษาหายแล้ว 9,983 ราย , ผลวิจัยใหม่เผยเชื้อไวรัสสามารถอยู่บนสิ่งของได้นาน 9 วัน |
15 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 68,997 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,670 ราย รักษาหายแล้ว 9,871 ราย , ญี่ปุ่นติดเชื้อแซงหน้าทุกประเทศเป็นรองจีน |
14 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 64,437 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,383 ราย รักษาหายแล้ว 6,886 ราย |
13 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 60,312 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,368 ราย รักษาหายแล้ว 5,976 ราย , งาน Mobile World Congress งานมือถือที่ใหญ่ที่สุดของโลกถูกยกเลิกเรียบร้อยจากสถานการณ์ไวรัส , ท่าเรือแหลมฉบัง ห้ามผู้ติดเชื้อโคโรน่าเข้าเขตท่าเรือ |
12 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 45,183 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,115 ราย รักษาหายแล้ว 4,833 ราย องค์การอนามัยโลกประกาซชื่อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อย่างเป็นทางการคือ Covid-19 |
11 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 43,112 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1018 ราย รักษาหายแล้ว 4,099 ราย , เกิดข้อพิพาทที่ไทยไม่ให้เรือขนส่งจากฮ่องกงเข้าเทียบท่าจากเรื่องไวรัส |
10 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 40,561 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 956 ราย รักษาหายแล้ว 3,416 ราย , สถานทูตสหรัฐในจีนงดออกวีซ่าจากสถานการณ์ไวรัส |
9 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 37,198 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 811 ราย รักษาหายแล้ว 2,649 ราย |
8 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 34,546 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 752 ราย รักษาหายแล้ว 2,345 ราย |
7 กุมภาพันธ์ 2563 | ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 34,914 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 734 ราย รักษาหายแล้ว 2,085 ราย , คุณหมอลี่ที่ออกมาเตือนเรื่องไวรัสเป็นคนแรกๆ ในจีน ติดเชื้อและเสียชีวิตแล้ว , จีนพบทารกแรกเกิดติดเชื้อไวรัส ล่าสุดยังไม่พบสาเหตุว่ามาจากไหน หมอสันนิษฐานไวรัสอาจจะติดจากแม่สู่ลูกได้ |
6 กุมภาพันธ์ 2563 | ผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 28,254 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 565 ราย รักษาหายแล้ว 1171 ราย (ไทยรักษาหายแล้ว 5 จาก 25 ราย) , อย.เตือน ตอนนี้ยารักษาหรือป้องกันไวรัสโคโรน่าไม่มีจริง อย่าหลงเชื่อ! |
5 กุมภาพันธ์ 2563 | 138 คนไทยในอู่ฮั่นถึงประเทศไทยแล้วเมื่อคืน พร้อมถูกกักตัวเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน , ผู้ติดเชื้อ 24503 ราย เสียชีวิต 492 ราย รักษาหายแล้ว 899 ราย , โรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยโคโรน่าโดยเฉพาะในจีนใกล้สร้างเสร็จแล้ว ผู้ติดเชื้อในไทย 25 ราย (ไทยรักษาหายแล้ว 5 ราย) |
4 กุมภาพันธ์ 2563 | ผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 2 หมื่นรายเป็นที่เรียบร้อย , เสียชีวิต 427 ราย รักษาหาย 667 ราย,ผู้เสียชีวิตรายที่ 2 ของฮ่องกง , รัฐบาลส่งคนไปรับคนไทย 142 คน ที่อู่ฮั่นแล้ววันนี้ คาดถึงสนามบินอู่ตะเภาเวลา 1 ทุ่ม |
3 กุมภาพันธ์ 2563 | ผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 17,360 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 362 ราย รักษาหายแล้ว 486 ราย |
2 กุมภาพันธ์ 2563 | ผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกือบ 15,000 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 305 ราย รักษาหายแล้ว 346 ราย , โรงพยาบาลราชวิถี ค้นพบวิธีรักษาไวรัสโคโรน่า จากการใช้ยารักษาไวรัส HIV และ ไข้หวัดใหญ่ร่วมกัน ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง |
31 มกราคม 2563 | องค์การอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉินระดับโลก ยังไม่สามารถควบคุมได้, ผู้ป่วยทะลุ 9,776 รายทั่วโลก ยอดผู้เสียชีวิต 213 ราย แซงโรคซาร์สแล้ว , ในไทยยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม , พบคนไทยติดไวรัสรายแรก เป็นคนขับแท็กซี่ |
30 มกราคม 2563 | ผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกเพิ่มเป็น 170 ราย ติดเชื้อเพิ่มเป็น 7,783 ราย รักษาหายแล้ว 177 ราย |
29 มกราคม 2563 | ผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกเพิ่มเป็น 131 ราย ติดเชื้อเพิ่มเป็น 5,578 ราย รักษาหายแล้ว 107 ราย ในไทยยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม , ผู้ป่วยเชียงใหม่เสียชีวิตแล้ว |
28 มกราคม 2563 | ผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกพุ่งเกือบ 2 เท่า เป็น 107 ราย , ติดเชื้อเพิ่มเป็น 4,474 ราย รักษาหายแล้ว 106 ราย , ในไทยพบเพิ่มอีก 6 ราย รวมทั้งหมด 14 คน ซึ่งเป็นนทท.จีนทั้งหมด , พบการติดจากคนสู่คนครั้งแรกในญี่ปุ่น |
27 มกราคม 2563 | ผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลก 56 ราย , ติดเชื้อ 2,118 ราย ไทยต้องสงสัยผู้ป่วยรายที่ 10 , สื่อจีนเผยโคโรน่าสามารถติดกันได้แม้อยู่ในระยะฟักตัวที่ยังไม่แสดงอาการ 5 |
26 มกราคม 2563 | พบผู้ต้องสงสัยผู้ติดเชื้อที่เชียงใหม่เพิ่มอีก 2 ราย , ทุกสายการบินเส้นทาง จากไทยไปจีน สามารถเลื่อนตั๋วหรือคืนเงินได้ (ตรวจสอบสายการบินได้จากเว็บไซต์หลักของแต่ละบริษัท) , ฮ่องกงประกาศภาวะฉุกเฉินรับมือการแพร่ระบาดของไวรัส, อเมริกาพบผู้ติดเชื้อคนที่ 3 |
25 มกราคม 2563 | ยอดผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 45 ราย และติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1,287 ราย, ประธานาธิบดีของจีนมีคำสั่งคนจีนเดินทางออกนอกประเทศ |
24 มกราคม 2563 | ผู้ป่วยในจีนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 25 ราย ติดเชื้อเพิ่มเป็น 830 ราย ขยายพื้นที่เป็น 29 เมืองในจีน กักกันประชากรรวมกว่า 23 ล้านคน และสั่งปิดพระราชวังต้องห้ามในวันตรุษจีน ยกเลิกงานฉลองตรุษจีนในปักกิ่ง ฮ่องกง มาเก๊า 2 , ประเทศจีนเตรียมสร้างโรงพยาบาลพิเศษเพื่อรักษาโรคนี้โดยเฉพาะ |
23 มกราคม 2563 | ผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าในจีนเสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย ติดเชื่อเพิ่มอีก 571 คน ทางการจีนสั่งปิดระบบขนสั่งมวลชนในเมือง ปิดการติดต่อเข้าออกเมือง งดเที่ยวบิน, พบผู้ป่วยรายแรกที่อเมริกา , พบนักท่องเที่ยวชาวจีน ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ที่กระบี่ (อัปเดตแล้วว่าไม่ติดเชื่อ แต่เป็นทอมซินอักเสบ) |
21 มกราคม 2563 | พบผู้ป่วยรายแรกของไต้หวัน รวมถึง 3 เมืองใหญ่ของจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ เซิ่นเจิ้น และกรุงปักกิ่ง |
16 มกราคม 2563 | พบผู้ป่วยรายแรกของญี่ปุ่น และในวันที่หายดีแล้ว |
22 มกราคม 2563 | พบผู้ป่วยในไทยเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 4 ราย (จีน 3 ไทย 1) |
13 มกราคม 2563 | พบผู้ป่วยรายแรกในไทย เป็นชาวจีน |
12 – 31 ธันวาคม 2563 | พบผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรง ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และทราบว่าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เป็นสาเหตุของอาการป่วย |
ไวรัสโควิด 19 (ไวรัสโคโรน่า)
ไวรัสโคโรน่า เป็นชื่อกลุ่มไวรัสสายพันธุ์แรกสุดพบในปี 2003 อยู่ในกลุ่มเดียวกันของไวรัสโรคหวัดธรรมดา และโรคซาร์สที่เคยระบาดหนักก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจอันตราย ส่งผลให้ถุงลมปอดอักเสบรุนแรง

เชื้อตัวนี้สามารถพบได้ปกติในสัตว์ แต่ในบางกรณีอาจติดจากสัตว์สู่คน รวมไปถึงในคนกับคนแต่ส่วนใหญ่มักมีที่มาจากในสัตว์ จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะสัตว์ป่า เช่น ชะมด ค้างคาว ไก่ป่า และงู เป็นต้น
สำหรับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ที่ค้นพบ องค์การอนามัยโลก ยังไม่สามารถหาที่มาของเชื้ออย่างชัดเจนได้ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากเนื้อสัตว์ป่าที่ซื้อขายอยู่ ในเขตของตลาดค้าอาหารทะเลอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พบการระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ และมีรายงานว่าสามารถติดจากคนสู่คนได้แล้ว
กรณีติดจากคนสู่คน จะติดจากการถูกไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของคนที่ป่วย
อาการของโรค เป็นแบบนี้รีบไปหาหมอนะ
ด้วยความที่ อาการของผู้ป่วยจากไวรัสชนิดนี้ จะมีอาการคล้ายอาการของไข้หวัดใหญ่ เป็นอย่างมากเลยทำให้การสังเกตได้ค่อนข้างยาก แต่ในเบื้องต้นถ้าเราเคยมีประวัติไปสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด หรืออยู่ใกล้คนที่เคยไปสถานที่ดังกล่าวมา ให้สังเกตอาการของโรค ดังนี้
- มีไข้สูงเกิน 37.5 องศา
- มีน้ำมูก
- ไอเจ็บคอ คอแดง
- หายใจหอบเหนื่อย
- รู้สึกผิดปกติขึ้นที่จมูก โพรงจมูก หรือช่องคอส่วนบน
แต่ถ้ามีไข้สูงไม่ลดภายใน 2 วัน แนะนำควรรีบไปหาหมอ เพื่อรีบตรวจหาเชื้อ แม้จะไม่ใช่ไวรัสโคโรน่า แต่อาจจะเป็นไวรัสตัวอื่น เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ตอนนี้มีอยู่หลายสายพันธุ์เลย โดยหากรอช้า อาการอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นปอดติดเชื้อ และทำให้ปอดอักเสบได้เลย
อย่างที่กล่าวไป ผู้เขียนขอย้ำว่าหากคุณมีประวัติเคยเดินทางไปยังเมื่ออู่ฮั่นภายใน 14 วัน หรือเคยไปใกล้ชิดกับผู้ที่มีประวัติเดินในระยะเวลาดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการอย่างเร็วที่สุดค่ะ เพราะว่าไวรัสชนิดนี้มีระยะฟักตัวประมาณ 14 วัน ซึ่งระหว่างนั้นอาจจะไม่แสดงอาการของโรคออกมา
การป้องกันไวรัสโคโรน่า
- หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เกิดการระบาดหรือเสี่ยงต่อการระบาดโดยไม่จำเป็น
- สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในสถานที่ผู้คนแออัด หรืออยู่ใกล้ผู้ที่มีอาการป่วย
- ล้างมือบ่อย ๆ หรือใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ 60% ขึ้นไป
- ระวังการสัมผัสของคัดหลั่งของผู้อื่นที่มีความเสี่ยง เช่น น้ำลาย น้ำมูก หรือเสมหะ
- อย่าใช้มือขยี้ตา แคะจมูก แคะปาก
- อย่าเข้าใกล้สัตว์ที่เสี่ยงในการเป็นพาหะของโรค ในที่นี้ถูกสงสัยว่าเป็นค้างคาว และงู รวมไปถึงห้ามทานเนื้อสัตว์แปลก ๆ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ป่าในช่วงนี้
อัปเดตประเทศที่พบผู้ป่วยไวรัส COVID-19 ช่วงนี้งดเดินทางกันก่อน!
ข้อมูลอัปเดตล่าสุดของวันที่ 6 เมษายน 2563 ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว ทั้งหมด 182 ประเทศ ควรงดการเดินทางไปต่างประเทศทุกประเทศ
ไวรัส COVID -19 โคโรน่าในไทย?
ณ ตอนนี้พบผู้ที่ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วกว่า 2,000 คน เสียชีวิตแล้วกว่า 20 คน ช่วงนี้หากจำเป็นต้องออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือและพกน้ำยาหรือเจลแอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อติดตัวด้วยเสมอ เพราะจากตัวเลขผู้เข้าข่ายที่จะป่วยยังมีสะสมกว่า 2 หมื่นคน ผู้เขียนวิคราะห์ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอีกตลอดทั้งเดือน

สรุป
แม้ว่าในตอนนี้รัฐบาลจะมีมาตรการป้องกัน คัดกรอง ที่สนามบินอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ในไทย แต่อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ควรประมาท เพราะไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่จากคนสู่คนได้ ด้วยเหตุนี้จึงต้องรู้จักดูแลป้องกันโรคเบื้องต้นด้วยตัวเอง และหมั่นติดตามข่าวและสถานการณ์ข่าวอย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ ซึ่งไพรซ์ซ่าจะคอยอัปเดตอย่างเร็วที่สุดค่ะ
1 https://www.nytimes.com/2020/01/20/world/asia/coronavirus-china-symptoms.html
2 https://www.tnnthailand.com/content/27151