หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า ครีมกันแดดทาหน้า SPF 50 ดีต่อผิวหรือไม่

ครีมกันแดดทาหน้า SPF 50 ดีต่อผิวหรือไม่

ครีมกันแดดยิ่งมีค่า SPF ยิ่งสูงอาจจะยิ่งดี และสามารถช่วยปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า SPF ต่ำ ๆ แต่ความเข้าใจนี้ ก็อาจจะไม่ใช่เสมอไปก็ได้

4841

ครีมกันแดดทาหน้า ที่ดีก็คือผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูง ดังที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป และปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตอนที่คุณจำเป็นที่จะต้องเดินทางออกไปผจญกับสภาพอากาศและแสงแดดนอกบ้าน ซึ่งจริง ๆ แล้ว ค่า SPF 50 ที่นิยมกันนั้นสามารถป้องกันรังสี UVB ได้สูงสุดถึง 98% หรือการปกป้องที่สูงถึง 50 เท่า โดยหลาย ๆ คนเชื่อว่า SPF 50 หรือสูงขึ้นไปก็จะยิ่งปกป้องผิวได้ดีเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไปก็ได้ เพราะเราควรจะต้องคำนึงจากการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของตนเอง ที่อาจจะไม่ต้องการการปกป้องจากแสงแดดที่สูงขนาดนั้นเสมอไปทุกวัน ซึ่งวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจที่ว่าค่า SPF 50 ในผลิตภัณฑ์กันแดด หรือยิ่งสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีจริงหรือไม่

ครีมกันแดดทาหน้า SPF สูง ๆ ช่วยปกป้องผิวได้ดีขนาดนั้นไหน?

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่ารังสีจากแสงแดดที่สามารถทำร้ายผิวของเราได้แท้จริงแล้วก็คือรังสี 2 ชนิดที่มีชื่อว่า UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวไหม้และแห้งกร้านได้ ในขณะที่ UVA จะส่งผลถึงเม็ดสีผิวโดยตรง ทำให้ผิวเข้มขึ้นและมีริ้วรอย แต่ตามที่ Skin Cancer Foundation หรือมูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนังได้เผยข้อมูลว่า รังสี UV ทั้ง 2 ชนิดนั้น เป็นสาเหตุที่สามารถทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ทั้งคู่

ครีมกันแดดทาหน้า

ค่า SPF ในครีมกันแดดหน้าจะวัดได้ว่าครีมนั้นมีความสามารถในการกันรังสี UVB ได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้น ข้อมูลอ้างอิงจากมูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนังได้กล่าวว่า SPF ที่มากกว่า 50 สามารถป้องกันผิวได้มากกว่า SPF 50 และ SPF 30 โดยระหว่าง SPF 50 และ SPF 30 ก็ไม่ได้มีความแตกต่างที่มากมายอะไรนัก แต่ก็อาจจะส่งผลแตกต่างพอสมควรกับผู้ที่ผิวมีความวัยต่อแสงแดดหรือมีประวัติเคยเป็นมะเร็งผิวหนังมาก่อน

ข้อเสียหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ เมื่อผู้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เพื่อที่จะออกไปใช้ชีวิตในแสงแดดที่รุนแรงเสมอ แน่นอนว่า SPF ที่มีค่าสูงสามารถกันแดดได้เป็นอย่างดี แต่ก็จะอยู่ในระยะเวลาที่กำหนดไว้ หากคุณใช้ SPF ที่มีค่าสูงแต่ลืมทาครีมซ้ำ ก็เป็นไปได้ว่าแสงแดดที่รุนแรงจะทำร้ายผิวของคุณได้ ดังนั้นคุณจึงควรจะต้องทาครีมซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมงหรือหลังจากที่ซับเหงื่อและในขณะว่ายน้ำ เพื่อให้ประสิทธิภาพของ SPF ยังคงปกป้องผิวของคุณได้เต็มประสิทธิภาพนั่นเอง

ด้วยเหตุนี้เอง จึงสามารถบอกได้ว่าบางครั้งผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF ที่ค่อนขางสูง จึงไม่สามารถที่จะปกป้องผิวได้ดีกว่าครีมที่มี SPF ต่ำ ๆ เสมอไป แต่อยู่ที่คุณทาครีมซ้ำเพื่อคงประสิทธิภาพการกันแดดหรือไม่

SPF สามารถบอกอะไรได้มากกว่าการป้องกันแสงแดด

นอกจากนั้น ค่า SPF ยังสามารถบอกอะไรได้มากกว่าจำนวน % ของแสงแดด ที่สามารถกรองไม่ให้เข้ามาสัมผัสกับผิวได้ หากเป็นครีมกันแดดหน้าที่มีค่า SPF 50 ก็จะมีความหมายว่าสามารถป้องกันแดดได้มากถึง 50 เท่า หรือ 50 x 50 เท่ากับ 2,500 นาที หรือราว ๆ 42 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นคนละเรื่องกับความสามารถในการกรองแสงแดดได้ประมาณ 98% ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าจะมี SPF เท่าไหร่ ก็จำเป็นที่จะต้องทาซ้ำภายใน 2 ชั่วโมง เพื่อทดแทนครีมที่อาจจะหลุดลอกและจางไประหว่างวัน นอกจาก UVB แล้ว อย่าลืมเลือกครีมที่สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ด้วย

>>วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด เลือกอย่างไรให้เหมาะ ใช้ถูกกับทุกสภาพผิว

>>ครีมกันแดด สามารถทาทับครีมทาผิวได้เลยไหม มีผลอะไรหรือเปล่า

เลือกครีมกันแดดหน้าแบบป้องกันรังสี UVA

อย่างที่บอกไปว่า SPF เป็นสารที่สามารถป้องกันได้เพียงแค่ UVB เท่านั้น ส่วน UVA ที่สามารถทำร้ายผิวได้เช่นกันนั้น สามารถป้องกันได้โดยใช้สารอีกชนิดที่ป้องกัน UVA ได้ ยกตัวอย่างเช่น Oxybenzone Parsol 1789 ZnO หรืออื่น ๆ ซึ่งจะถูกเรียกรวมว่าเป็น UPF (Ultraviolet Protection Factor) ในฐานะผู้บริโภคควรจะต้องอ่านฉลากบรรจุภัณฑ์ด้วยว่ามีระบุความสามารถในการป้องกันรังสี UVA และ UVB หรือไม่ ก่อนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดทุกครั้ง

ครีมกันแดดหน้าที่มีค่า SPF สูงๆ อย่างเช่น SPF 75 หรือ SPF 100 ความสามารถที่จะป้องกันการป้องกันรังสี UVB ได้ทั้งหมด 98% เท่านั้นเอง

ครีมกันแดดทาหน้า สิ่งที่จำเป็นในการป้องกันแสงแดดที่ควรทาก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง แต่ก็อย่าลืมใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ที่สามารถช่วยกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ไม่ว่าจะเป็นร่ม หมวกหรือแว่นตากันแดด ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถกันแดดได้อย่างดีและมีความคงที่มากกว่าครีมบาง ๆ แน่นอนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นนอกจากจะใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดแล้ว เพื่อความมั่นใจอย่าลืมสวมใส่อุปกรณ์ดังกล่าวและหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน