หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า เครื่องซักผ้าฝาหน้า ใช้เวลาเท่าไหร่

เครื่องซักผ้าฝาหน้า ใช้เวลาเท่าไหร่

เครื่องซักผ้าฝาหน้า ใช้เวลาซักกี่นาที มีโปรแกรมซักไหน จากยี่ห้ออะไร ที่ทำให้ซักเร็วที่สุด

12172
เครื่องซักผ้าฝาหน้าใช้เวลาซักนานเท่าไหร่

เครื่องซักผ้าฝาหน้าใช้เวลาการซักกี่นาที? ทำงานได้เร็วหรือช้ากว่าเครื่องซักผ้าฝาบน? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเพราะระยะเวลาการซักมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อเพื่อลดเวลาการทำงานของเครื่องซักผ้าลง โดยเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าจะใช้เวลาการซักอยู่ที่ประมาณ 30 – 140 นาที ซึ่งมากว่าฝาบน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ฟังก์ชันและระบบการซักรุ่นใหม่ ๆ ของแต่ละรุ่นด้วย

อัพเดตโปรแกรมซักเจ๋ง ๆ ของเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่ช่วยประหยัดเวลาการซักลงได้

เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า รุ่นใหม่ ๆ ผลิตออกมาอย่างทันสมัยและมาพร้อมกับฟังก์ชันเจ๋ง ๆ ในการทำงาน อย่างในเรื่องของเวลาการซักเองก็อัพเกรดให้ดีขึ้น ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และประหยัดเวลายได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

  • ระบบการซัก Turbo Wash ของ LG ที่ช่วยประหยัดเวลาการซักลงได้มาก สามารถซักและปั่นแห้งได้ในเวลาเพียง 59 นาที จากที่ระบบการซักทั่วไปใช้เวลาการทำงานอยู่ที่ 95 นาที โหมด Turbo Wash สามารถซักผ้าได้อย่างสะอาดและรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีฉีดสเปรย์น้ำลงบนผ้า ช่วยให้ผ้าสะอาดได้อย่างล้ำลึก
  • เทคโนโลยี Eco Hybrid ของ LG เป็นเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่ช่วยประหยัดน้ำและลดเวลาการอบแห้งได้ โดยฟังก์ชัน Normal dry สามารถลดเวลาการอบผ้าลงได้กว่า 10 นาที

    เครื่องซักผ้าฝาหน้า
  • โปรแกรมซัก 15’Quick Wash ของ Samsung เป็นโปรแกรมสำหรับซักผ้าเปื้อน เช่น คราบกาแฟ คราบอาหาร เครื่องสำอาง หรืออื่น ๆ ที่สามารถนำมาแยกซักได้อย่างสะอาดในเวลาอันรวดเร็วและช่วยถนอมเนื้อผ้าได้ดี
  • โปรแกรม 59’ Wash + Dry ของ Samsung เป็นโปรแกรมซักและอบแห้งสนิทพร้อมใส่ในเวลาเพียง 59 นาที หลังจากเครื่องซักผ้าทำงานเสร็จแล้วสามารถนำผ้าออกมาสวมใส่ได้เลย ไม่ต้องนำไปตากต่อให้เสียเวลาเครื่องซักผ้าฝาหน้าซักผ้า 59 นาที Samsung
  • โปรแกรมซักด่วน 12 นาที ของ Electrolux ถือเป็นระบบการซักที่รวดเร็วที่สุดในตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะสามารถซักผ้าได้เร็วในเวลาเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้นเอง สำหรับผ้า 2 กิโลกรัม
  • ฟังก์ชัน Add Clothes ของ Electrolux เป็นฟังก์ชันเสริมสำหรับการเติมผ้าระหว่างซัก เช่น ซักผ้าไปแล้วแต่ต้องการเพิ่มผ้าเข้าไปก็สามารถนำผ้าใส่ลงไปใหม่ได้ใน 15 นาทีหลังเริ่มรอบการซัก ทำให้ผ้าไม่ตกค้างและซักพร้อมกันได้ทันเวลา

การใช้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าและการดูแลรักษาให้ใช้งานได้นาน

  • เลือกโปรแกรมที่เหมาะกับการซักผ้าแต่ละครั้ง เพราะแต่ละโปรแกรมออกแบบมาให้เหมาะกับการซักผ้าแต่ละชนิดอยู่แล้ว เช่น โปรแกรมซักผ้าห่ม โปรแกรมซักผ้ายีนส์ ฯลฯ การซักผ้าแต่ละครั้งจึงควรเลือกโปรแกรมให้เหมาะสมกับเนื้อผ้า เพื่อให้โปรแกรมคำนวนระดับน้ำและการซักให้เหมาะกับผ้าแต่ละชนิด ช่วยให้ซักผ้าได้อย่างสะอาด
  • ใช้โปรแกรมซักด่วนเท่าที่จำเป็น แม้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าหลายรุ่นจะมีโปรแกรมซักด่วนรองรับการทำงาน แต่ก็ควรเลือกใช้งานเท่าที่จำเป็น เพราะถึงอย่างไรการซักผ้าโหมดปกติก็ถือว่าเป็นโหมดมาตรฐานที่เหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า
  • ไม่ใส่ผ้าเยอะจนเกินไป ควรใส่ผ้าในปริมาณที่พอดีไม่ว่าจะเลือกซักในโหมดใดก็ตาม การที่เราใส่ผ้ามากจนเกินไป จะทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักและซักได้ไม่ทั่วถึง
  • ใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มให้พอดีกับผ้า เพราะหากใส่น้อยเกินไปจะทำให้ไม่เข้มข้นและทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง ไม่เพียงพอต่อการซักโปรแกรมเครื่องซักผ้าฝาหน้า-วิธีดูแลผ้า
  • เลือกระดับน้ำให้เหมาะสมกับขนาดผ้า หากตั้งค่าการซักเองและต้องเลือกระดับน้ำ ควรเลือกระดับน้ำให้เพียงพอกับปริมาณผ้า หากน้ำน้อยเกินไปจะทำให้ผ้าไม่สะอาด หรือหากน้ำมากเกินไปก็จะทำให้เปลืองน้ำ
  • ไม่ทิ้งผ้าไว้ในเครื่องซักผ้านาน เมื่อซักผ้าเสร็จแล้วควรรีบนำผ้าออกจากเครื่องไปตาก เพราะหากทิ้งผ้าไว้ในเครื่องนานเกินไปจะทำให้ผ้าเหม็นอับได้
  • ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน เมื่อเลิกใช้งานแล้วควรนำถาดใส่ผงซักฟอกออกมาล้างและเช็ดทำความสะอาดตัวถังให้เรียบร้อยเพื่อลดคราบสกปรกสะสม
  • ถอดปลั๊กหลังเลิกใช้งาน หลังเลิกใช้งานแล้วควรถอดปลั๊กออกทุกครั้ง เพราะเครื่องซักผ้าทำงานด้วยไฟฟ้า หากเด็ก ๆ มากดเล่นอาจทำให้เครื่องทำงานได้ และอาจทำให้เกิดความเสียหายได้

เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า จะใช้เวลาการซักนานเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับโปรแกรมซักที่เลือกใช้ และขึ้นอยู่กับรุ่นแต่ละแบรนด์ หากมีผ้าเยอะก็จะใช้เวลาการซักมากขึ้น แต่หากมีผ้าน้อยก็เลือกโปรแกรมซักด่วนได้ แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้โปรแกรมไหนก็อย่าลืมเลือกใช้ให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการทำงานของเครื่องซักผ้าของคุณ

บทความที่เกี่ยวข้อง