เครื่องปั่นอาหาร กับเครื่องปั่นน้ำผลไม้นั้น แท้ที่จริงแล้วต่างก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถช่วยลดระยะเวลาในการเตรียมหรือทำอาหารของพ่อครัวแม่ครัวยุคใหม่ไปได้มาก ซึ่งดูเผิน ๆ แล้วนั้นหลักการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งสองชนิดนี้นั้นอาจจะดูไม่แตกต่างกันมากนัก กล่าวคือ ต่างก็ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก ๆ ของเครื่องปั่น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นโถสำหรับใส่วัตถุดิบที่ใช้ในการปั่น และอีกส่วนประกอบหนึ่งก็คือ ส่วนที่เป็นฐานรอง ซึ่งเป็นที่เก็บมอเตอร์ที่ใช้สำหรับขับเคลื่อนตัวใบมีดให้หมุนเร็วมากน้อยได้ตามต้องการ เพื่อใช้ในการปั่นอาหารให้ละเอียดได้อย่างที่ใจปรารถนา แต่ถ้าหากจะพิจารณากันให้ลึกลงไปแล้ว จะพบว่าวัตถุประสงค์ของการใช้งานเจ้าอุปกรณ์ทั้งสองตัวนี้แตกต่างกันพอสมควร ดังจะได้อธิบายต่อไปในบทความนี้
เครื่องปั่นอาหารเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะสมกับเมนูอาหารของเรา
1.ซุป
สำหรับเมนูประเภทซุปนั้นสามารถเลือกใช้ได้ทั้งเครื่องใช้ปั่นอาหารและเครื่องปั่นน้ำผลไม้
2.เครื่องดื่มสมูทตี้
คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องปั่นน้ำผลไม้เหมาะที่สุดสำหรับเมนูเครื่องดื่มประเภทนี้มากกว่าเครื่องปั่นชนิดอื่น ๆ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องปั่นชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองการใช้งานประเภทการปั่นน้ำผลไม้เป็นหลักอยู่แล้ว
3.ซอสชนิดเข้มข้น
เครื่องปั่นสำหรับอาหารเหมาะกับการทำซอสชนิดเข้มข้นชนิดต่าง ๆ นี้มากที่สุด เพราะส่วนใหญ่แล้วซอสต่าง ๆ จะทำมาจากผักหรือผลไม้ ยกตัวอย่างเช่น เมนูซอสสำหรับเป็นเครื่องเคียงจิ้มรับประทานร่วมกับเมนูอาหารอื่น ๆ อย่าง ครีมอโวคาโด ฮัมมัส และครีมถั่ว เป็นต้น
4.หั่นและซอยผัก
เครื่องบดสับอาหารเหมาะที่สุดสำหรับการหั่นและการซอยผักในปริมาณมาก ๆ ในคราวเดียวกัน เนื่องจากเครื่องปั่นประเภทนี้บางยี่ห้อจะมีใบมีดหลายแบบที่เครื่องปั่นน้ำผลไม้ไม่มี ยกตัวอย่างเช่น ใบมีดสำหรับหั่น ซอย และสไลด์ เป็นต้น
5.ปั่นเนย
ทำชีสฝอย หรือผสมแป้งทำเบเกอรี่และเค้ก ต่างก็เป็นเมนูที่เหมาะจะใช้เครื่องสำหรับปั่นอาหารมากกว่าปั่นน้ำผลไม้ เนื่องจากมีลักษณะเหนียวหนืดเข้มข้นค่อนข้างมากนั่นเอง
ข้อดีข้อเสียของเครื่องปั่นทั้งสองรูปแบบ
เครื่องใช้ปั่นอาหาร มีข้อดีหลายอย่าง เช่น เหมาะสำหรับเป็นเครื่องช่วยเตรียมวัตถุดิบในการทำทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เช่น บดเนื้อสัตว์ หั่นและซอยผัก ปั่นธัญพืชที่มีลักษณะเป็นเมล็ดที่ค่อนข้างแข็งได้ดี ปั่นส่วนผสมแป้งที่ใช้ทำเบเกอรี่และเค้ก และช่วยผสมอาหารคลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นอย่างดี จัดเป็นเครื่องปั่นอเนกประสงค์ที่ทำได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการบด การหั่น การตัด การซอย หรือการผสมแป้ง ดังที่ได้ยกตัวอย่างไปแล้วข้างต้น และส่วนมากโถของเครื่องปั่นประเภทนี้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าโถของเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ถึงแม้ว่าจะมีข้อเสียในเรื่องของความยุ่งยากในการทำความสะอาดมากกว่าการใช้มีดหั่นผักธรรมดาอยู่สักหน่อย แต่ก็สามารถทดแทนได้ด้วยความเร็วของเครื่อง ทำให้ช่วยประหยัดระยะเวลาในการเตรียมอาหารไปได้มากเลยทีเดียว
เครื่องปั่นน้ำผลไม้ มีข้อดีที่สามารถใช้ปั่นวัตถุดิบที่มีลักษณะเป็นของเหลวได้ดี เช่น น้ำปั่นผักผลไม้ โดยเฉพาะเครื่องดื่มประเภท “สมูทตี้” แต่เครื่องปั่นโดยทั่วไปที่ไม่ได้มีกำลังในการหมุนใบมีดจำนวนรอบต่อนาทีที่สูงมากนัก จะมีข้อจำกัดอยู่บ้างคือ อาจจะไม่ค่อยเหมาะต่อการนำมาใช้ในการปั่นอาหารที่มีลักษณะเป็นของแข็งมากเกินไปนัก แต่อย่างไรก็ดีสำหรับเครื่องปั่นน้ำผลไม้ที่มีประสิทธิภาพสูง ๆ จำนวนรอบต่อการปั่นในหนึ่งนาทีค่อนข้างเร็ว ก็อาจจะพอใช้ปั่นวัตถุดิบประเภทอื่น ๆ ได้บ้าง เพียงแต่จะต้องทำความสะอาดโถปั่นให้สะอาดมากเพียงพอ เพราะไม่เช่นนั้นกลิ่นคาวของอาหารหรือวัตถุดิบบางชนิดอาจจะติดมากับโถปั่น และอาจส่งผลเสียต่อรสชาติของน้ำสมูทตี้ให้มีรสชาติแตกต่างไปจากที่ควรจะเป็นได้
เครื่องใช้ปั่นอาหารก็เหมาะที่จะใช้กับวัตถุดิบที่แตกต่างกันไปกับเครื่องปั่นน้ำผลไม้ แต่อย่างไรก็ดีหากผู้อ่านเลือกไม่ได้ว่าควรจะซื้อเครื่องปั่นแบบไหนดี ก็ลองจดรายละเอียดความต้องการในการใช้งานออกมาในกระดาษดู เผื่อว่าจะได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่าที่จริงแล้วตัวท่านต้องการใช้เครื่องปั่นแบบใดมากที่สุด หรือถ้าหากไม่สามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ก็อาจจะซื้อเครื่องปั่นทั้งสองชนิดไว้ติดครัวเพื่อการใช้งานได้อย่างครบถ้วนมากขึ้น เพราะราคาอุปกรณ์ทั้งสองประเภทนี้ก็ไม่ได้แพงมากจนเกินไปนัก มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นซึ่งแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติในการใช้งานนั่นเอง หรือบางแบรนด์ก็ออกแบบให้มีโถปั่นแยกทั้งอาหารและน้ำได้ในรุ่นเดียว
