หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า เคสมือถือมีแบบไหนบ้าง? แบบไหนใช้ดีที่สุด?

เคสมือถือมีแบบไหนบ้าง? แบบไหนใช้ดีที่สุด?

3651

เคสมือถือ ถือเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับคนรักโทรศัพท์มือถือทุกคน เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากการตกกระแทกและรอยขีดข่วนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในการใช้งานประจำวันแล้ว เคสส่วนใหญ่ยังมักมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม ช่วยเสริมความโดดเด่นและความหรูหราให้กับมือถือสุดรักของเราได้อีกด้วย บางรุ่นยังมาพร้อมฟังก์ชันเสริม เช่น การชาร์จไร้สาย หรือลำโพงในตัว ดังนั้น เพื่อเป็นการเอาใจคนรักมือถือทุกคน วันนี้เราจึงมีสาระน่ารู้เกี่ยวกับเคสประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เคสกันกระแทก, เคสซิลิโคน รวมถึงเคสประเภทอื่น ๆ มาฝากกัน

ประเภทของเคสมือถือ

เคสโทรศัพท์ โดยทั่วไปมักแบ่งประเภทตามวัสดุที่ใช้ผลิตและลักษณะการป้องกันเป็นหลัก ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น เคสกันกระแทก ที่ป้องกันการตกกระแทกความสูง 1.5 ถึง 3 เมตร หรือเคสป้องกันน้ำและความชื้น รวมถึง เคสซิลิโคน สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะ โดยรวมแล้วแบ่งเคสโทรศัพท์ได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่

เคสซิลิโคน

เคสประเภทนี้ได้รับความนิยมอยางมาก เนื่องจากราคาค่อนข้างถูก หาซื้อง่าย แถมยังน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง แถมส่วนใหญ่ยังมีลวดลายที่สวยงามโดนใจ สามารถป้องกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นก็มีข้อเสียที่มันสามารถรองรับแรงกระแทกจากการตกได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น หากมีเหงื่อหรือน้ำจะเข้ามาในตัวเคสได้ง่ายมาก ซึ่งเป็นอันตรายต่อตัวโทรศัพท์ นอกจากนี้ เคสซิลิโคน ยังไม่ค่อยทนทานต่อความร้อนมากนัก ทำให้หากไม่ระมัดระวังอาจละลายติดฝาหลังมือถือได้นั่นเอง

 

เคสกันกระแทก

เคสประเภทนี้มักผลิตจากวัสดุตั้งแต่สองชนิดขึ้นไป ส่วนใหญ่ได้แก่ พลาสติก, โลหะ และยางชนิด TPU หรือ TPE ช่วยให้สามารถดูดซับแรงกระแทกจากการตกกระแทกในระดับความสูงต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถป้องกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ดีไซน์เคสชนิดนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบหุ้มรอบตัวเครื่อง เปิดช่องว่างเฉพาะบริเวณปุ่มกดหรือเลนส์กล้อง ทำให้สามารถปกป้องตัวเครื่องได้รอบด้าน แต่ข้อเสียก็คือ เคสกันกระแทก ส่วนใหญ่มักมีขนาดใหญ่พอสมควรและน้ำหนักมากกว่าเคสทั่วไป ทำให้คุณผู้หญิงหลายคนที่ต้องการความสวยงามพอ ๆ กับประสิทธิภาพการป้องกันอาจไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่นั่นเอง

 

 

เคสโลหะ

เป็นเคสประเภทนี้ส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุ “อลูมิเนียม” ทำให้มีความแข็งแรงทนทานสูง ป้องกันแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อายุการใช้งานยาวนาน หมดปัญหาเรื่องเคสลอกหรือละลายเหมือน เคสซิลิโคน แถมยังดูหรูหราอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของเคสชนิดนี้คือ การใส่และการถอดค่อนข้างทำได้ยาก เพราะเป็นโลหะที่มีความแข็ง หากเป็นเคสที่ผลิตจากโลหะคุณภาพต่ำยังอาจกินผิวเครื่องจนเป็นรอย แถมยังระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก ไม่เหมาะกับสายเกมมิ่งที่มือถือมักมีความร้อนสูงนั่นเอง

 

 

เคสพลาสติก

เคสประเภทนี้มักผลิตจากวัสดุพลาสติก PC ที่มีน้ำหนักเบาและมีความบาง เหมาะกับการพกพา แถมราคาค่อนข้างถูกเพราะใช้วัสดุที่ผลิตได้งาย มีทั้งแบบเป็นเคสใสโชว์หลังเครื่องและเคสปิดรอบตัวเครื่อง สามารถตกแต่งเคสได้สวยงามตามความต้องการ แต่ข้อเสียก็คือ ป้องกันแรงกระแทกได้ไม่ดีเท่า เคสกันกระแทก ส่วนใหญ่เน้นใส่เพื่อความสวยงามและไว้ป้องกันรอยขีดข่วนเท่านั้น แถมหากใช้งานไปนาน ๆ โดยไม่ระวัง พลาสติกอาจกัดตัวเครื่องได้อีกด้วย ดังนั้น ใครที่ใช้เคสชนิดนี้จึงควรแกะเคสออกมาเช็ดทำความสะอาดบ่อย ๆ

 

 

เคสแบบไหนใช้ดีที่สุด

เคสโทรศัพท์ ควรเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเราเองให้มากที่สุด โดยให้สังเกตว่าเราต้องการเคสที่สำหรับป้องกันอะไร แล้วเลือกเคสประเภทนั้น ตัวอย่างเช่น หากเราเป็นคนที่มักทำมือถือตกกระแทกบ่อย ๆ ก็อาจจะต้องเลือกเคสกันกระแทก ที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี เพื่อป้องกันความเสียหายจากการตก แต่หากเราเป็นคนระมัดระวังอยู่แล้ว ไม่ได้ทำมือถือร่วงหรือตกพื้นบ่อย ๆ การเลือกเคสซิลิโคน ที่น้ำหนักเบา สะดวกต่อการพกพาก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนใครที่ไม่เกี่ยงเรื่องราคาและต้องการเคสที่ทั้งแข็งแรงทนทานและเพิ่มความหรูหราให้กับมือถือของเรา ก็อาจเลือกใช้เคสโลหะที่แข็งแรงและดูดีมีคลาสมากกว่าเคสทั่วไปนั่นเอง

 

อย่างไรก็ตาม เคสมือถือ แต่ละประเภทแต่ละแบบล้วนมีข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกัน การเลือกใช้เคสแบบไหนจึงขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ความชอบ รวมถึงงบประมาณที่เรามี ซึ่งหวังว่าสาระน่ารู้ที่นำมาฝากกันในวันนี้จะช่วยให้ทุกคนเลือกซื้อเคสกันได้ง่ายขึ้น และได้เคสที่มีคุณภาพเหมาะสมกับมือถือของคุณ