
เตารีด นับเป็นอุปกรณ์รีดผ้าที่มีประจำทุกบ้านรวมถึงบ้านของเราเองด้วย ซึ่งรูปแบบ สไตล์ และวิธีการใช้งานของพ่อบ้านแม่บ้านแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันไป ทั้งแบบคนที่เน้นรีบเรียบไร้รอยยับในทุกจุดของเนื้อผ้า หรือคนที่เน้นรีดไวเอาไว้ใส่ก็พอแล้ว ซึ่งหลายคนอาจจะเคยประสบปัญหาเกี่ยวกับรอยไหม้สีน้ำตาลที่ปรากฎขึ้นบนหน้าเตา ที่เป็นวัสดุโลหะ โดยทั่วไปเราจะสังเกตเห็นก็ต่อเมื่อถึงวันที่จะทำความสะอาดอุปกรณ์เพราะเริ่มรู้สึกว่าการรีดผ้าไม่ลื่นง่ายเหมือนเมื่อก่อน หรือรีดแล้วเกิดรอยสีเหลืองน้ำตาลบนผ้า แล้วรอยเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ส่งผลกระทบต่อการรีดของเรามากแค่ไหน และมีวิธีแก้ในการกำจัดรอยที่ถูกต้องอย่างไร อยากรู้ต้องอ่านต่อเลย
รอยสีน้ำตาลนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และวิธีแก้รอยไหม้บนผ้าจากเตารีด
โดยปกติแล้วเตารีดของเราจะมีสารเคลือบมาในส่วนที่เป็นพื้นโลหะเพื่อช่วยให้การรีดผ้าทำได้ง่ายและลื่นขึ้น ซึ่งก็จะมีทั้งเตาที่เป็นแบบธรรมดาและไอน้ำ สารเคลือบนี้ส่วนหนึ่งจะมีหน้าที่ในการป้องกันการเกิดคราบสีน้ำตาลหรือคราบไหม้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าเราเกิดใจร้อนใช้ไฟแรงไปในการรีด หรือลืมวางเตาทิ้งเอาไว้จนทำให้เกิดความร้อนสะสมและไหม้ผ้าสุดหวงของเราขึ้นมา ก็จะทำให้เกิดรอยสีน้ำตาลที่บนทั้งอุปกรณ์รีดผ้าและตัวเสื้อผ้าได้ โดยคราบนั้นจะติดและสะสมมากขึ้นจนอาจทำให้ทุกครั้งที่เรานำเตามาใช้ คราบจะติดไปกับผ้าทุกชุดเลย
ทางที่ดีก่อนจะไปเคลียร์คราบไหม้บนเตารีด เราควรจัดการกับคราบสีน้ำตาลเหนียว ๆ ที่อยู่บนผ้านี้ก่อนจะดีที่สุด โดยถ้าพบว่าเกิดรอยที่ผ้าแล้ว ให้เรายกเตาขึ้นทันที ถอดปลั๊ก ปิดไฟ วางไว้ที่ไหนก็ได้ก่อน จากนั้นรีบโรยน้ำตาลทรายลงบนผ้า ฉีดพรมน้ำให้ทั่วบาง ๆ แล้วใช้ผ้าอื่นขัดอย่างเบามือ หรือจะเลือกใช้ผ้ามาปิดทับรอยสีน้ำตาลแล้วรีดด้วยไฟอ่อนก่อนลบรอยออกก็ได้ หลังจากนั้นแล้วให้นำมะนาวครึ่งลูกที่ผ่าแล้วมาถูลงบนรอยให้ชุ่มน้ำ นำผ้าไปตาก และซักออกด้วยน้ำ เท่านี้รอยสีน้ำตาลก็จะจางลงแล้ว
จัดการรอยสีน้ำตาลบนหน้าเตามีวิธีทำอย่างไร
สำหรับวิธีการกำจัดรอยสีน้ำตาลที่เกิดสะสมขึ้นบน เตารีด เราสามารถใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีอยู่ทั่วไป หาได้ไม่ยาก วิธีแรกนั่นก็คือการใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เท่า ๆ กัน นำไปเช็ดลงบนคราบที่เกิดขึ้นที่หน้าแผ่นโลหะให้ทั่วแล้วค่อย ๆ เก็บรายละเอียดให้หมด สำหรับในรุ่นที่เป็นไอน้ำ ก็ให้นำน้ำที่ผสมแล้วนี้ใส่ลงไปในหม้อต้ม เปิดไปทิ้งไว้ให้เกิดไอประมาณ 5 นาทีด้วย เพื่อจัดการคราบส่วนที่เราเข้าไปดูแลไม่ถึง
สำหรับใครจะเลือกใช้เกลือที่หาได้ง่ายในการกำจัดคราบก็ย่อมได้ โดยการโรยเกลือลงไปบนผ้าหรือโต๊ะสำหรับรองรีดของเรา จากนั้นก็เปิดสวิตช์และปรับความร้อนระดับสูงสุด ถ้าของใครเป็นแบบไอน้ำให้ปิดไอน้ำก่อน แล้วรีดลงไปบนเกลือที่โรยไว้เรื่อย ๆ จนคราบหลุดออกหมดแล้วก็ให้วางอุปกรณ์ทิ้งเอาไว้จนเย็น จากนั้นค่อยมาเก็บรายละเอียดต่อด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด หรือว่าบ้านใครที่ไม่มีเกลือเพราะไม่ค่อยได้ทำอาหารทานเอง ก็ให้เปิดประตูห้องน้ำแล้วหยิบยาสีฟันขึ้นมา ทำได้โดยบีบยาสีฟังลงไปที่หน้าเตา ถูวนเบา ๆ ให้ทั่ว แต่อย่าลืมให้เตาเย็นลงก่อน ทำไปเรื่อย ๆ จนคราบสีน้ำตาลหลุดจนหมด อาจใช้เวลาสักพักแต่ก็ไม่เปลืองแรงมาก เมื่อคราบหลุดหมดแล้วก็ให้ใช้ผ้าชุบน้ำมาเช็ดออกให้หมดจด
เตารีดที่ผ่านการทำความสะอาดคราบสีน้ำตาลเรียบร้อยแล้ว ก่อนการนำไปใช้ให้เราตรวจเช็คอย่างละเอียดดูอีกครั้งว่ายังคงมีจุดเล็กจุดน้อยตรงไหนบ้างที่ยังมีคราบไหม้ติดอยู่ ถ้าเจอก็ให้ทำการกำจัดออกตามวิธีที่ได้บอกไปแล้ว เพราะถ้าไม่เคลียร์ให้หมดจริง ๆ เวลานำอุปกรณ์ไปรีดบนผ้าอีกครั้งก็อาจทำให้เกิดรอยไปติดลงบนผ้าอีกซึ่งเราก็จะต้องมานั่งแก้ด้วยวิธีเดิม รวมไปถึงเพื่อเป็นการป้องกันปัญหา ซึ่ง การรีดผ้าทุกครั้งก็ควรที่จะใช้ระดับไฟและความร้อนที่เหมาะสม ก็จะช่วยไม่ให้เกิดปัญหารอยสีน้ำตาลขึ้นได้