คำนวณค่าไฟแอร์ได้อย่างไร

หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า คำนวณค่าไฟแอร์ ตาม BTU ด้วยสูตรง่ายๆ พร้อมวิธีเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟ!

คำนวณค่าไฟแอร์ ตาม BTU ด้วยสูตรง่ายๆ พร้อมวิธีเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟ!

วิธีการคำนวณค่าไฟแอร์ตามขนาด BTU แต่ล่ะขนาดมีวิธีการคำนวณอย่างไรนั้น ลองมาดูกันเลย

โดย

กองบรรณาธิการ

18 กรกฎาคม 2023

181276

คำนวณค่าไฟแอร์ ตาม BTU ด้วยสูตรง่ายๆ

เชื่อว่าหนึ่งปัจจัยที่ทำให้หลายคนลังเลไม่กล้าติดเครื่องปรับอากาศเพื่อใช้งานภายในบ้านนั้นก็หนีไม่พ้นเรื่องค่าใช้ไฟฟ้า ที่ถึงแม้ว่าหลายคนจะยืนยันว่าการติดเครื่องปรับอากาศทำให้เสียไฟฟ้าเพิ่มมากกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากความก้าวหน้าของนวัตกรรมทำให้ระบบการทำงานมีความทันสมัยและประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้น นอกจากนั้นสมัยนี้คนส่วนใหญ่ยังเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีเครื่องหมายไฟเบอร์ 5 ที่ออกโดยกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นการยืนยันการันตีว่าแอร์เครื่องนี้ประหยัดพลังงานแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นหากสามารถคำนวณว่า แอร์ 9000 BTU แอร์ 12000 BTU แอร์ 18000 BTU กินไฟกี่บาท ก็จะช่วยให้ประเมินค่าไฟฟ้าต่อเดือนคร่าวๆ ได้ ดังนั้น วันนี้เราจึงมีวิธีการคำนวณค่าไฟแอร์ตามขนาด BTU มาฝาก แต่จะคำนวณได้อย่างไรนั้น มาดูกันเลย

การคำนวณค่าไฟแอร์

สำหรับการคำนวณอย่างแรกต้องรู้ก่อนว่าเป็นแอร์ประเภทไหน ระบบแอร์อินเวอร์เตอร์ (Inverter) หรือระบบแอร์รุ่นธรรมดา (Non-Inverter) หากเป็นระบบอินเวอร์เตอร์จะประหยัดกว่า โดยสูตรการคำนวณค่าไฟฟ้าของแอร์ต่อปี

แอร์อินเวอร์เตอร์

ค่าไฟต่อปีจะเท่ากับจำนวนชั่วโมงที่ใช้งานตลอดทั้งปี คูณ Cooling Capacity (btu/hr) หารด้วย ค่า SEER (btu/hr/w) คูณกับค่าไฟต่อหน่วย จากนั้นนำผลรวมทั้งหมดหารด้วย 1000 ก็จะได้ค่าไฟฟ้าต่อปีของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์

ซึ่งค่า Cooling Capacity และค่า SEER หรือค่าประสิทธิภาพพลังงานตามฤดูกาลนั้น สามารถดูจากข้อมูลจำเพาะของสินค้าหรือสอบถามจากพนักงานผู้ขาย

ระบบแอร์รุ่นธรรมดา

ค่าไฟฟ้าจากการใช้งานแอร์ต่อปีจะคำนวณได้จากสูตร ค่าไฟต่อปีเท่ากับ จำนวนชั่วโมงการใช้งานตลอดทั้งปีคูณด้วย ค่ากำลังไฟฟ้า (วัตต์) คูณด้วยค่าไฟต่อหน่วย จากนั้นนำค่าทั้งหมดมาหารด้วย 1000 เท่านี้ก็จะได้ค่าไฟทั้งหมดตลอดทั้งปีของการใช้แอร์รุ่นธรรมดา

ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ต้องรู้คือ กำลังไฟฟ้าที่ใช้ เพราะฉะนั้นต้องมีข้อมูลว่า

แอร์ 9000 BTU กินไฟกี่วัตต์
แอร์ 12000 BTU กินไฟกี่วัตต์
แอร์ 18000 BTU กี่วัตต์

ขึ้นอยู่กับขนาดของแอร์ที่จะเลือกใช้ด้วย

เมื่อเห็นสูตรค่าไฟต่อปีที่ใช้คำนวณแล้ว หลายคนอาจถอดใจและงงว่าทำไมการคำนวณสำหรับค่าไฟแอร์ถึงได้ดูยากขนาดนี้ แถมในกรณีระบบแอร์อินเวอร์เตอร์ต้องรู้ข้อมูลหรือสอบถามข้อมูลจำเพาะของแอร์จากผู้ขายอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนไม่นำเรื่องนี้คำนวณไฟฟ้าก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องปรับอากาศ สุดท้ายก็ต้องมานั่งสงสัยอยู่ดีว่าทำไมค่าไฟที่บ้านถึงได้สูงจังทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ค่อยได้เปิดใช้งาน

แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อให้หลายคนนำข้อมูลนี้ไปประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น จึงมีการคำนวณไฟฟ้าคร่าวๆ ต่อเดือนไว้ในอินเทอร์เน็ต ทำให้สะดวกในการประเมินค่าไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งในกรณีเลือกซื้อเป็นแอร์แบบติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์

แอร์ 9000 BTU เสียค่าไฟประมาณเดือนละ 433 บาท
แอร์ 12000 BTU เสียค่าไฟประมาณเดือนละ 594 บาท
แอร์ 18000 BTU เสียค่าไฟประมาณเดือนละ 733 บาท

โดยค่าไฟจะขยับสูงขั้นตามขนาด BTU ในขณะที่หากเป็นแอร์ติดผนังรุ่นธรรมดา ขนาด 9000 BTU จะเสียค่าไฟฟ้าเริ่มต้นประมาณเดือนละ 678 และขยับสูงขึ้นไปตามขนาด BTU ของแอร์เช่นเดียวกัน

แต่หากเป็นแอร์แบบแขวนใต้ฝ้า ถ้าเป็นแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์

12000 BTU มีการคำนวณไว้คร่าวๆ ว่าต้องเสียค่าไฟต่อเดือนประมาณ 650 บาท
แอร์ 18000 BTU ประมาณ 940 บาท และจะขยับขึ้นหลักพันเมื่อใช้
แอร์ 24000 BTU ค่า ไฟ จะอยู่ที่ราวๆ 1,360 บาท
และถ้าใช้แอร์ 40000 BTU จะต้องเสียค่าไฟฟ้าอยู่ที่ราวๆ 2,260 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว

ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นแอร์รุ่นธรรมดาต้องเสียค่าไฟฟ้ามากกว่า เพราะแอร์รุ่นธรรมดา

ขนาด 12000 BTU เสียค่าไฟฟ้าต่อเดือนอยู่ที่ 950 บาท
และสูงสุดที่ 3,100 บาท สำหรับแอร์รุ่นธรรมดาขนาด 40000 BTU

อย่างไรก็ตามการคำนวณค่าไฟแอร์จากการใช้งานเครื่องปรับอากาศ ไม่ว่าจะใช้สูตรคำนวณหรือเทียบเคียงจากข้อมูลในอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นเพียงค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ที่ใช้หลักการคำนวณประเมินเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ค่าไฟแอร์ที่แท้จริงมาจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็น ขนาดห้อง เวลาในการใช้งาน การตั้งอุณหภูมิ โหมดการทำงานที่เลือกใช้ การดูแลรักษา ที่สำคัญต้องรู้ว่า แอร์ใช้กระแสไฟกี่แอมป์ โดยเฉพาะที่ขนาด BTU สูง เพราะหากไม่รู้ว่า

แอร์ 24000 BTU กินไฟกี่แอมป์
แอร์ 30000 BTU กิน ไฟ กี่ แอมป์
แอร์ 36000 BTU กินไฟกี่แอมป์

อาจทำให้กระแสไฟฟ้าภายในบ้านไม่เพียงพอต่อการใช้งานได้

สูตรคำนวณค่าไฟแอร์

วันนี้เราจะมาสอนวิธีคำนวณค่าไฟแอร์ง่ายๆ กัน เป็นวิธีที่คำนวณไม่ยากเลยไปดูวิธีคำนวณกันเลยดีกว่า! ซึ่งการใช้สูตรคำนวณนี้ก็จะได้รู้ค่าไฟแอร์แบบคร่าวๆ โดยหน่วยค่าไฟนั้นสามารถเปลี่ยนไปตามอัตราค่าไฟของการไฟฟ้าด้วย การคำนวณค่าไฟของแอร์แต่ละเครื่องนั้น จะถูกทำการคำนวณจากการเปิดแอร์ 8 ชม.ต่อวัน แต่สูตรนี้ยังไม่คำนวณรวมกับสภาพของแอร์ หากเป็นแอร์ที่ใช้งานมานานมากแล้ว อัตราการกินไฟอาจจะสูงกว่านี้เล็กน้อย ดังนั้นอย่าลืมหมั่นตรวจดูสภาพแอร์อยู่เสมอ แอร์จะได้มีอายุการใช้งานและได้ประสิทธิภาพที่ดีอีกด้วย

ค่าBTU / ค่า SEER / 1000 x ชั่วโมงการใช้งาน x จำนวนวันใช้งาน x ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย

ตัวอย่าง X-Inverter : 42TVAA013 / 38TVAA013

ขนาดแอร์ 12,200 BUT /ค่า SEER 22.50 / 1000 x 8 ชั่วโมงต่อวัน x 365 วัน x ค่าไฟฟ้า 3.96 บาท/หน่วย

ค่าไฟฟ้าต่อปี = 6,270 บาท

เทคนิคเปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟ เย็นสบาย ไม่เปลืองไฟ

แม้จะรู้วิธีคำนวณค่าไฟแอร์กันไปแล้ว แต่หลายคนก็อาจจะยังมีความกังวล เกี่ยวกับค่าไฟกันอยู่ ดังนั้นเราจึงมีเคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยประหยัดค่าไฟจากการเปิดแอร์ให้รู้กัน มาดูกันว่าหน้าร้อนนี้เปิดแอร์ยังไงให้ไม่เปลืองไฟกันบ้าง

หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ให้ความร้อนในขณะที่เปิดแอร์ : การเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆ อย่างพร้อมกันย่อมกินไฟมากกว่าเดิมเป็นธรรมดา ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ควรเปิดพร้อมกันกับการเปิดแอร์มากที่สุดก็คือเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่ปล่อยความร้อนต่างๆ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น หม้อ กระทะ เตาอบ เพราะหน้าที่ของแอร์คือการทำให้อุณหภูมิในห้องนั้นลดลง และเย็นขึ้น ดังนั้นการมีความร้อนเกิดขึ้นภายในห้อง ก็จะยิ่งทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและเปลืองไฟมากขึ้นนั่นเอง
ตั้งอุณหภูมิสที่ 25 องศาหรือสูงกว่า 25 องศาเล็กน้อย : จริงอยู่ที่ว่าอุณหภูมิที่ 25 องศาเป็นอุณหภูมิที่ช่วยประหยัดไฟได้มาก แต่ในความจริงแล้วเราสามารถลดการทำงานของแอร์ด้วยการเพิ่มอุณหภูมิให้อยู่ที่ 26-27 องศา ก็ยังสามารถทำให้อากาศภายในห้องเย็นสบายได้ไม่น้อยกว่าตอนเปิด 25 องศาเลย แถมยังประหยัดไฟกว่าด้วย
หลีกเลี่ยงใช้แอร์ในห้องพื้นที่เปิด หรือพื้นที่ที่มีขนาดกว้าง : สำหรับคนที่มีแอร์หลายห้อง อยู่บ้านขนาดกลางขึ้นไป ย่อมรู้กันดีว่าการเปิดแอร์ในห้องโถงหรือห้องนั่งเล่นนั้นเป็นอะไรที่กินไฟมากๆ ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรที่จะติดแอร์บริเวณห้องโถงเลย แต่หากจำเป็นจริงๆ ควรติดตั้งฉากกั้นระหว่างทางขึ้นบันได หรือทางเดินไปห้องต่างๆ ภายใรบ้าน รวมถึงปิดหน้าต่างและผ้าม่านให้สนิท ก็จะช่วยประหยัดไฟไปได้มากเลยทีเดียว
ใช้พัดลมช่วยไล่ความร้อนภายในห้องก่อนเปิดแอร์ : หากห้องนั้นไม่ได้เปิดแอร์หรือเปิดพัดลมมาทั้งวัน และมีอากาศอบอ้าวอยู่การเปิดแอร์ทันทีอาจทำให้แอร์กินไฟเพราะต้องทำงานหนักเพื่อปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นขึ้น ดังนั้นก่อนเปิดแอร์การเปิดพัดลมไล่และระบายอากาศออกก่อนจะช่วยทำให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นขึ้น และยังช่วยทำให้คุณไม่ต้องเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศาเลย

แนะนำ 10 แอร์น่าใช้งาน คุ้มค่า เย็นสบายแบบไม่กินไฟ!

แอร์ SAMSUNG รุ่น AR10TYHZCWKN

แอร์ติดผนังจาก Samsung เครื่อง 9000BTU ตัวแอร์ออกแบบมาเพื่อให้ทำความเย็นมากขึ้น มีบริเวณกว้างขึ้น และไกลขึ้นกว่าเดิม ทำความเย็นทุกซอกทุกมุมได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้คุณรู้สึกสบายได้อยู่เสมอ เทคโนโลยี Digital Inverter Boost ที่สามารถทำความเย็นได้รอบห้อง

ยี่ห้อ / รุ่น	SAMSUNG รุ่น AR10TYHZCWKN
ขนาด BTU	9,000 BTU
กำลังไฟ	700 วัตต์
คุณสมบัติพิเศษ	ระบบ INVERTER และมีแผ่นกรอง Easy Filter Plus กรองฝุ่นความละเอียดสูง
ราคา	ประมาณ 11,490 บาท

*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และเงื่อนไขการจำหน่ายของร้านค้า

แอร์ CARRIER รุ่น INVERTER GEN-Z R32

CARRIER แอร์ติดผนัง INVERTER , GEN-Z ตัวแอร์ดีไซน์สำหรับคนรุ่นใหม่ การออกแบบสุดพิถีพิถัน พร้อม BTU ที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการ เย็นสบาย ใช้งานง่ายใหม่ สัมผัสความเย็นอย่างทั่วถึง พร้อมฟังก์ชั่นที่ครบครันทุกการใช้งาน แผงระบายความร้อนเคลือบสารพิเศษ ช่วยปกป้องจากสภาพอากาศ(กัดกร่อน) ได้ดีกว่า 3 เท่า

ยี่ห้อ / รุ่น	CARRIER รุ่น INVERTER GEN-Z R32
ขนาด BTU	9,800 BTU
กำลังไฟ	940 วัตต์
คุณสมบัติพิเศษ	แผงระบายความร้อนเคลือบสารพิเศษ ช่วยปกป้องจากสภาพอากาศ(กัดกร่อน) ได้ดีกว่า 3 เท่า
ราคา	ประมาณ 11,490 บาท

แอร์ CARRIER รุ่น EVEREST R32

แอร์ติดผนังรุ่น Everest ที่ให้ความเย็นนดุจความเย็นจากธรรมชาติไว้ห่มกอดคุณให้แสนสบายมีความสุขและรอยยิ้ม เทคโนโลยีแบบใหม่สามารถถอดล้างทำความสะอาดคอยล์เย็นง่าย และสะดวก มีระบบทำความสะอาดแผงคอยล์เย็นโดยอัตโนมติ และมีสารทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ยี่ห้อ / รุ่น	CARRIER รุ่น EVEREST R32
ขนาด BTU	9,200 BTU
กำลังไฟ	740 วัตต์
คุณสมบัติพิเศษ	ระบบทำความสะอาดตัวเองแบบละลายน้ำแข็ง
ราคา	ประมาณ 9,599 บาท

แอร์ Haier รุ่น Fixed Speed

Haier เครื่องปรับอากาศ Fixed Speed ขนาด 9000 BTU รุ่น HSU-09CQEA03T ตัวเครื่องมีระบบเร่งความเย็นให้เร็วทันใจมากขึ้น 47% เย็นเร็วเพียงนิ้วสัมผัส ,ระบบส่งมอบความเย็นสบายอย่างทั่วถึงทั้งห้อง, ระบบป้องกันการกัดกร่อน เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และ แผงคอยล์ ประกอบด้วยสารเคลือบผิวสีฟ้า เพื่อยืดอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ยี่ห้อ / รุ่น	Haier รุ่น Fixed Speed
ขนาด BTU	9,000 BTU
กำลังไฟ	760 วัตต์
คุณสมบัติพิเศษ	เร่งความเย็นให้เร็วทันใจมากขึ้น 47% พร้อมระบบป้องกันการกัดกร่อน เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน
ราคา	ประมาณ 8,990 บาท

แอร์ SHARP รุ่น AH-PR10

แอร์ติดผนัง ขนาด 9000 BTU ที่มาพร้อมเทคโนโลยีจัดเต็มกับระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ ที่ช่วยจัดการเรื่องคุณภาพของอากาศให้สะอาดมากขึ้นทั้ง จัดการไรฝุ่น ฆ่าแบคทีเรียยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรีย รวมไปถึงการลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ มีฟังก์ชันกระจายความเย็นที่ทันสมัยอย่าง Gentle Cool Air เป็นการดีไซน์การกระจายความเย็นให้เลียดไปตามเพดานห้องช่วยให้ลมเย็นไม่กระทบผู้ใช้งานโดยตรงจึงดีต่อสุขภาพผู้ใช้งาน ส่วนบานสวิงก็ออกแบบให้กระจายลมเย็นขึ้นด้านบนเพื่อให้ลมเย็นไหลจากบนสู่ล่างตามหลักการไหลของอากาศ ทำให้ทุกมุมห้องได้ความเย็นแบบสม่ำเสมอและยังมี Comfort Eco ระบบควบคุมอุณหภูมิภายในห้องให้เกิดความสม่ำเสมอ การทำความเย็นนั้นเป็นแบบ Powerful Jet ห้องจึงเย็นเร็วทันใจ ตัวอุปกรณ์คอยล์ร้อนด้านในทำจากอลูมิเนียมล้วนทำให้ทนทานใช้งานได้นานขึ้น ประสิทธิภาพและเทคโนโลยีเพียบแบบนี้ ราคาของแอร์บ้านรุ่นนี้ประมาณ 1หมื่นต้น ๆ เท่านั้น ใครที่มองราคาแอร์ 9000 BTU แบบไม่ถึง 2 หมื่นไว้ลิสต์รุ่นนี้ไว้ในใจได้เลย

ยี่ห้อ / รุ่น	SHARP รุ่น AH-PR10
ขนาด BTU	9,000 BTU
กำลังไฟ	780 วัตต์
คุณสมบัติพิเศษ	มีระบบช่วยยับยั้งสารก่อภูมิแพ้ แบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส กลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ รวมถึงฝุ่น PM 2.5
ราคา	ประมาณ 11,890 บาท

แอร์ YORK รุ่น IONIC Inverter

แอร์ ยอร์ค YORK IONIC Inverter มีระบบฟอกอากาศ แบบ PM2.5 Ionizer น้ำยา R-32 มีระบบ PM2.5 Ionizer ระบบฟอกอากาศแบบกำจัดเชื้อโรค โดยใช้ประจุลบเข้าไปทำลายเชื้อโรคและแบคทรีเรียต่างๆในอากาศ ทำให้อากาศและบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น และHigh Efficiency & Energy Saving เลือกใช้เทคโนโลยีแบบ DC Inverter Compressor ช่วยทำให้เครื่องปรับอากาศมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้น ลดการสั่นสะเทือนจากการทำงาน ของคอมเพรสเซฮร์และให้เสียงการทำงานเงียบขึ้นกว่าเดิม

ยี่ห้อ / รุ่น	YORK รุ่น IONIC Inverter
ขนาด BTU	9,600 BTU
กำลังไฟ	ไม่ระบุ
คุณสมบัติพิเศษ	ระบบฟอกอากาศแบบกำจัดเชื้อโรค
ราคา	ประมาณ 10,200 บาท

แอร์ Mitsubishi รุ่น Heavy Duty

แอร์ติดผนัง ขนาด 9000 BTU จาก Mitsubishi รุ่น SRK10CRS-S1 ที่หลายคนยอมรับว่าเป็นสุดยอดของเครื่องปรับอากาศที่ดีมีความทนทาน รุ่นนี้แม้จะออกสู่ตลาดมานานแล้วแต่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่เสมอ เพราะเป็นแอร์ที่เย็นเร็วเทคโนโลยี Jet Flow สามารถส่งลมแรงได้ไกลสูงสุดถึง 15เมตร มาพร้อมฟังก์ชั่น3D Auto ที่สามารถกระจายลมได้พร้อมกัน 8 ทิศทาง เย็นได้ทั่วถึงทุกมุม แผ่นกรอง Anti Allergy และ Activated Carbon ลดและกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ทำให้รุ่นนี้จัดว่าเป็นรุ่นที่ช่วยให้อากาศสะอาดสดชื่นจริง ๆ และยังมีโหมดระบบ Self Clean Operation ระบบเป่าลมไล่ความชื้นจากคอยล์เย็นหลังปิดเครื่อง ช่วยยับยั้งเชื้อรา เหมาะสำหรับห้องขนาด 9 – 12 ตร.ม. ใครที่มองราคาแอร์ 9000 BTU แบบไม่เกิน 2 หมื่นไว้ รุ่นนี้เลย กับราคา 2 หมื่นพอดี ๆ ถือว่าคุ้มไม่เบา

ยี่ห้อ / รุ่น	Mitsubishi รุ่น Heavy Duty SRK10CRS-S1
ขนาด BTU	9,459 BTU
กำลังไฟ	730 วัตต์
คุณสมบัติพิเศษ	ฟังก์ชั่นทำให้คอยล์เย็นแห้งเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา
ราคา	ประมาณ 13,999 บาท

แอร์ TOSHIBA รุ่น CLICK R32 NEW2022

TOSHIBA แอร์ติดผนังรุ่น CLICK R32 มี Copper Coil คอยล์เย็นและคอยล์ร้อนใช้วัสดุคอยล์ทองแดงที่ทนทานต่อการกัดกร่อนในทุกสภาวะอากาศ และ Automatic Self-Cleaning ทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติด้วยพัดลม ที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง 30 นาที หลังปิดเครื่อง เพื่อไล่ความขึ้นและลดกลิ่นอับ

ยี่ห้อ / รุ่น	TOSHIBA รุ่น CLICK R32 NEW2022
ขนาด BTU	9,200 BTU
กำลังไฟ	ไม่ระบุ
คุณสมบัติพิเศษ	ทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติด้วยพัดลม และมีแผ่นฟอกอากาศกรองฝุ่น ขนาดเล็กได้ถึง 2.5 ไมครอน
ราคา	ประมาณ 9,599 บาท

แอร์ Mitsubishi รุ่น Heavy Duty

แอร์ติดผนังอีกหนึ่งรุ่นจาก Mitsubishi ที่มาแบบเล็กแต่สเปคประสิทธิภาพการให้ความเย็นไม่ธรรมดา รุ่นนี้ขนาด 8,610 BTU โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการกระจายอากาศแบบ Jet Flow ที่ช่วยให้เย็นเร็ว เหนือใครกับระบบกระจายลมที่ใช้ระบบเดียวกับใบพัดในเครื่องยนต์เจ็ท ซึ่งช่วยให้การกระจายลมทำได้ไกลได้ถึง 12 เมตร ตัวระดับความเร็วและแรงของพัดลมสามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ การทำงานของเครื่องทำได้อย่างอัตโนมัติและต่อเนื่อง เป็นระบบ Hi Power จะเปิดการทำงานของเครื่องแบบเต็มที่เป็นเวลา 15 นาที เพื่อช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้นก่อนจะปรับระบบลงมาทำงานในระดับปกติ มีแผ่นกรองอากาศแบบ Vitamin C Filter โดยตัวแผ่นกรองได้มีการเพิ่ม Vitamin C อันจะช่วยให้อากาศที่ผ่านเข้ามามีความสดชื่นขึ้นและช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง และไม่ได้มีเพียงแค่เสริมวิตามินเท่านั้น แต่ยังจัดเต็มกับการกำจัดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศและพร้อมดูดซับฝุ่นละอองและสารพิษในอากาศด้วย ในขณะเดียวกันก็จะมีการปรับสภาพอากาศด้วยประจุลบ ION ที่สามารถคงสภาพไว้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงช่วยให้อากาศในห้องสดชื่นบริสุทธิ์อยู่เสมอ อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Self-Cleaning Operation ที่เป็นระบบเป่าลมไล่ความชื้นออกจากตัวคอยล์เย็นเพื่อยับยั้งการเติบโตของเชื้อราอีกด้วย ราคาแอร์บ้านรุ่นนี้ประมาณ 2 หมื่นรุ่นเล็กแต่สเปคจัดเต็มขนาดนี้ถือว่าไม่แพงจริง ๆ

ยี่ห้อ / รุ่น	Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK10YVS-W1/SRC10YVS-W1
ขนาด BTU	8,610 BTU
กำลังไฟ	ไม่ระบุ
คุณสมบัติพิเศษ	อินเวอร์เตอร์แท้ทั้งระบบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดไฟ และมีแผ่นกรองที่มีคุณสมบัติกำจัดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ
ราคา	ประมาณ 16,220 บาท

แอร์ Panasonic รุ่น CS-XU9VKT

แอร์ติดผนังจาก Panasonic รุ่น CS-XU9VKT/CU-XU9VKT ขนาด 9000 BTU มาพร้อมเทคโนโลยี Premium Inverter คอมเพรสเซอร์มีความเร็วในการหมุนรอบหลายระดับ จึงสามารถคงอุณหภูมิไว้ในระดับที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ และช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยม จัดเต็มกับกับระบบกำจัดฝุ่นเหมาะสมกับบ้านที่กังวลในเรื่องฝุ่น PM 2.5 เพราะรุ่นนี้มีระบบ nanoe-G ที่ช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็ก และช่วยขจัดสิ่งเจือปนในอากาศ สามารถลดกลิ่นอับและยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียและไวรัสได้เป็นอย่างดี ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถกรองฝุ่นและยับยั้งแบคทีเรียได้ถึง 99% ความน่าสนใจระดับนี้กับราคาของแอร์บ้านรุ่นนี้ที่มาประมาณ 16,400 บาทเรียกว่าไม่แพงเลย ใครกำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดี ลองเก็บรุ่นนี้ไว้เป็นตัวเลือกก็ดีเหมือนกันนะ

ยี่ห้อ / รุ่น	Panasonic รุ่น CS-XU9VKT
ขนาด BTU	9,000 BTU
กำลังไฟ	ไม่ระบุ
คุณสมบัติพิเศษ	ระบบฟอกอากาศ nanoe-G ยับยั้งแบคทีเรียและลดกลิ่นต่างๆ
ราคา	ประมาณ 14,990 บาท

สินค้าที่เราแนะนำ เราคัดเลือกจากอะไร?

การจัดอันดับสินค้าที่ถูกแนะนำผ่าน Priceza นั้นมีข้อมูลมาจากการรวบรวมสินค้าที่มียอดคำค้นหาสูงสุด การแนะนำและการการันตีจากทางแบรนด์ รวมไปถึงการประเมินจากผู้ใช้ และยอดรวมคำสั่งซื้อที่ได้รับจากอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มต่างๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเรา อาทิ Shopee, Lazada, HomePro, JDCentral และอื่นๆ โดยข้อมูลของสินค้าที่ได้รับจะถูกเปรียบเทียบผ่านระบบประมวลผล (Dashboard) ร่วมการวิเคราะห์ของนักรีวิวของเรา โดยอิงจากปัจจัยเหล่านี้

เทรนด์สินค้าที่ผู้คนให้ความสนใจในช่วงเวลานั้นๆ
สินค้าแนะนำจากแบรนด์ดัง
ภาพรวมการประเมินสินค้าของลูกค้าผู้ใช้จริง

นอกจากนี้เรายังรวบรวมช่องทางการสั่งซื้อ และร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือเป็นหลัก ทั้งยังมีการรับประกันสินค้า และการรับรองผ่านเงื่อนไขของอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม

บทส่งท้าย

ยิ่งอากาศร้อนเท่าไร แอร์ก็ยิ่งทำงานหนักและใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลทำให้ค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ดังนั้นเพื่อให้สามารถวางแผนเวลาปิดและเปิดแอร์เพื่อช่วยประหยัดไฟ เราจำเป็นจะต้องรู้ค่าไฟแอร์แบบคร่าวๆ กันก่อน จะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้ว่าเดือนนี้จะต้องเสียเงินค่าไฟไปกับการเปิดแอร์ประมาณเท่าไร ทั้งนี้เราสามารภประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นจากการเลือกซื้อแอร์แบบประหยัดพลังงานหรือแอร์อินเวอร์เตอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และใช้พัดลมสลับกับการเปิดแอร์ ก็สามารถช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ

บทความน่าสนใจ เกี่ยวกับแอร์

Post Views: 0