
ตู้เย็น 1 ประตู เป็นตู้เย็นที่มีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับตู้เย็นแบบอื่น ๆ นิยมใช้งานตามบ้าน หอพัก หรือโรงแรมต่าง ๆ เช่น การซื้อไว้ใช้งานที่อะพาร์ตเมนต์หรือหอพักสำหรับแช่เครื่องดื่มหรืออาหาร เพราะส่วนมากแล้วที่พักเหล่านี้จะไม่อนุญาตให้ทำอาหาร จึงไม่ค่อยได้ใช้แช่ของสดสักเท่าไหร่ จะแต่เป็นเครื่องดื่มและอาหารแช่แข็งสำหรับอุ่นทานมากกว่า หรือบางคนก็มีไว้เพื่อแช่น้ำดื่มเพียงไม่กี่ขวดเท่านั้นเอง ทำให้ตู้เย็นโล่งเกินไปจนกลายเป็นคำถามว่า หากการแช่ของลักษณะนี้จะทำให้กินไฟได้จริงหรือไม่?
ทำไมการปล่อยให้ตู้เย็น 1 ประตูโล่งจนเกินไปถึงทำให้กินไฟ
ตู้เย็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชอบความพอดี ไม่เพียงแต่การแช่ของน้อยเกินไปแต่การแช่ของมากเกินไปก็ย่อมทำให้กินไฟได้เหมือนกัน เพราะตู้เย็นมีหน้าที่รักษาความสมดุลของความเย็น หากของในตู้เย็นน้อยเกินไป คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานต่อเนื่องไม่ตัด (หรือลดกำลังลง) เนื่องจากในตู้เย็นมีของน้อยและทำความเย็นได้เร็ว ส่งผลให้เปลืองไฟ ตรงกันข้ามกับการแช่ของเยอะเกินไปที่ทำให้ความเย็นกระจายได้ไม่ทั่วถึงและต้องเร่งรอบความเร็วคอมเพรสเซอร์ขึ้น เพื่อให้ถึงความเย็นที่ตั้งไว้ ส่งผลให้กินไฟได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทางที่ดีแช่ของแต่พอดีจะเหมาะสมที่สุด ไม่น้อยหรืออัดแน่นจนเกินไป และควรมีช่องว่างให้ความเย็นระบายได้อย่างทั่วถึงทั้งช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งด้วย เพียงเท่านี้ตู้เย็นก็จะทำงานได้ปกติ ตัดไฟตามรอบและช่วยประหยัดไฟได้แล้ว
นอกจากนี้การแช่ของในปริมาณที่เหมาะสมยังช่วยรักษาความสดให้นานขึ้นได้ ช่วยให้อาหารไม่เสียเร็ว และช่วยให้ผักหรือผลไม้ไม่เหี่ยวหรือเย็นเกินไปจนกลายเป็นน้ำแข็งได้อีกด้วย หากใครที่เคยแช่ของน้อย ๆ เช่น แช่น้ำดื่ม 4 – 5 ขวด แนะนำว่าให้หาซื้อเครื่องดื่มหรือผักผลไม้มาแช่เพิ่ม เพราะจะช่วยให้กินไฟน้อยกว่า อีกทั้งยังไม่เสียหายอะไรแถมยังมีเครื่องดื่มเย็น ๆ หรือผักผลไม้สด ๆ ไว้ทานด้วย ส่วนใครที่ไม่ได้ใช้งานหลายวัน เช่น การไปต่างจังหวัด 3 – 4 วันขึ้นไป แนะนำว่าให้ถอดปลั๊กออกจะดีกว่า เมื่อต้องการใช้จึงค่อยเสียบใช้งานใหม่
นอกจากนี้ปริมาณของที่แช่และการกินไฟยังมีความเกี่ยวข้องระบบของตู้เย็นยังส่งผลต่อการกินไฟด้วยเหมือนกัน กล่าวคือตู้เย็นที่ใช้ระบบปกติไม่ใช่อินเวอร์เตอร์ เมื่ออุณหภูมิถึงเป้าแล้วจะทำการตัดไฟที่คอมเพรสเซอร์ และจะเริ่มเดินเครื่องใหม่เมื่ออุณหภูมิลดลงซึ่งจะกินไฟมากกว่า ต่างจากตู้เย็นระบบอินเวอร์เตอร์ที่จะลดจำนวนรอบการหมุนแทนซึ่งใช้ไฟน้อยกว่า
รวมเทคนิคแช่ของในตู้เย็นอย่างไรให้สด สะอาด และถูกสุขลักษณะ
- แช่ตามช่องใส่อาหารแต่ละประเภท ทั่วไปตู้เย็นที่เราใช้กันนั้นจะมีช่องใส่อาหารและเครื่องดื่มแต่ละประเภทแยกไว้ให้อยู่แล้ว ในการใช้งานจึงควรแช่ตามช่องที่มีให้ เช่น ช่องแช่แข็ง แผงข้างใส่เครื่องดื่ม ชั้นวางของ ช่องใส่ไข่ไก่ ช่องเก็บเนย และอื่น ๆ เพราะแต่ละช่องจะมีอุณหภูมิที่ไม่เหมือนกัน เช่น ช่องแช่ผักหรือผลไม้ที่ต้องรักษาความเย็นเอาไว้ให้คงที่เพื่อรักษาความสดของอาหาร
- นำอาหารใส่กล่องก่อนแช่เสมอ อาหารที่นำแช่เย็นควรนำใส่กล่องก่อนแช่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแกง หรืออาหารต้ม ผัด ทอดต่าง ๆ อย่างเช่น ลูกชิ้น ไส้กรอก ขนมหวาน หรืออื่น ๆ ที่ควรนำเข้ากล่องใส่อาหารแล้วปิดฝาก่อนแช่เพื่อรักษาคุณภาพอาหารเอาไว้ และช่วยไม่ให้กลิ่นเหม็นติดตู้เย็นอีกด้วย
- ปิดฝาเครื่องดื่มที่ดื่มไม่หมดก่อนแช่เย็น หากมีเครื่องดื่มที่ดื่มไม่หมดควรปิดฝาก่อนนำมาแช่เย็น เพราะหากแช่โดยเปิดฝาทิ้งไว้อาจทำให้หกเลอะเทอะได้
- ปิดภาชนะให้แน่นเมื่อนำของมีกลิ่นแช่เย็น สำหรับอาหารที่มีกลิ่นควรนำใส่กล่องและปิดฝาให้แน่น เช่น ทุเรียน เพื่อป้องกันกลิ่นกระจายไปทั่วตู้เย็น
- ไม่ควรแช่อาหารที่ทานเหลือไว้หลายวัน สำหรับอาหารที่ทานเหลือเรามักจะเก็บแช่เย็นไว้อุ่นทานกันในวันต่อไป แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือ ไม่ควรแช่ไว้นานหลายวันเพราะอาจทำให้อาหารเสียคาตู้เย็นได้ อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย
- เคลียร์อาหารที่ไม่ทานออกนอกตู้เย็น หลายคนมีนิสัยชอบเก็บของเข้าตู้เย็น ซึ่งบางทีอาจเก็บไว้นานจนลืมว่ามีอาหารหรือขนมชนิดนี้ไปแล้ว จึงควรถามตัวเองก่อนแช่ว่าอาหารที่นำเข้าตู้เย็นนั้นจะทานต่อหรือไม่ หากเป็นอาหารที่คิดว่าจะไม่ทานแล้วไม่ควรนำมาแช่ทิ้งไว้ เพราะจะทำให้ตู้เย็นแน่นและกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ทางที่ดีเลือกแช่เฉพาะอาหารที่ต้องการทานจะดีกว่า
สรุปแล้วการแช่ของในตู้เย็นน้อยเกินไป กินไฟแน่นอน!!
ทั้งตู้เย็น 1 ประตูและตู้เย็นทุกชนิดจะใช้งานได้ดีและถูกสุขอนามัย การแช่ของด้านในตู้เย็นต้องมีปริมาณที่เหมาะสม ไม่โล่งน้อยเกินไป และต้องไม่แน่นจนแทบไม่มีพื้นที่ว่าง ซึ่งถ้าทำได้ตู้เย็นก็จะกินไฟน้อยลง ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกใช้ตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจเรื่องการกินไฟได้ด้วยนะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
>> ตู้เย็น 1 ประตูเสียงดัง แก้ไขได้ง่าย ๆ ใครก็ทำได้
>> ช่องฟรีซตู้เย็น 2 ประตู มีขนาดเยอะกว่าประตูเดียวมั้ย