
น้ำหอมโดยทั่วไปแล้วจะใช้งานได้ 3-5 ปีก่อนที่จะเสื่อมสภาพ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถช่วยเพิ่มเสน่ห์และความมั่นใจด้วยกลิ่นหอมที่มีหลายกลิ่นให้เลือกสรรค์ สามารถช่วยบอกอารมณ์ของผู้ใช้ในแต่ละวัน ทำให้สนุกกับการแต่งตัวและส่วนมากมีการออกแบบขวดออกมาสวยมาก ๆ น่าสะสมไว้วางโชว์ในบ้าน จึงไม่แปลกใจหลายที่หลาย ๆ ท่านมีสะสมกันไว้ที่บ้านหลายขวดเลยทีเดียว ซึ่งเวลานำมาใช้แต่ละครั้งก็ฉีดแค่นิดเดียว โดยเฉพาะแบบ Perfume ที่มีความเข้มข้นสูง ฉีดเยอะก็จะฉุน ดังนั้นฉีดแค่ 1 – 2 ครั้งก็หอมติดทนทั้งวันแล้ว ทำให้กว่าจะใช้หมดแต่ละขวดก็เป็นเวลานานเกิน 3-5 ปีแน่ ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วเรายังมีอีกหลายวิธีการจัดเก็บและการใช้งาน ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยยืดอายุให้ใช้ได้นานขึ้น
หลีกเลี่ยงแสงแดด สามารถช่วยยืดอายุกลิ่นโปรดของคุณได้
หากคุณวางขวดเอาไว้ในที่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง ก็จะทำให้ยิ่งเก็บไว้นานเช่นเดียวกับการเก็บไวน์ ดังนั้นหลังจาก 5 ปี ควรจะเปิดขวดออกมาลองดมก่อนเพื่อตรวจสอบว่ากลิ่นหอมยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ เพี้ยนไปมากน้อยเพียงใด ซึ่งแสงแดดจะเป็นศัตรูตัวร้ายที่สามารถทำลายคุณภาพของกลิ่นหอมได้อย่างร้ายกาจ จึงควรจะเก็บเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าหรือลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อนและรังสีจากภายนอก หรือบางคนอาจจะเลือกเก็บเอาไว้ในตู้เย็นที่เป็นอีกที่เก็บหนึ่งที่เหมาะสม สามารถหลีกเลี่ยงทั้งความร้อนและแสงแดดได้อย่างดี และมีอุณหภูมิที่เย็นซึ่งช่วยรักษากลิ่นหอมภายในขวดได้ดี
ถึงแม้ว่าควรจะหลีกเลี่ยงสถานที่จัดเก็บที่ร้อนและมีแสงแดด แต่ห้องน้ำก็เป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะที่จะจัดเก็บ เพราะถึงแม้จะเย็น แต่ก็มีความชื้นที่สูงมากทำให้กลิ่นหอมเสื่อมสภาพลงได้
ตรวจสอบกลิ่นและขวดที่มีอายุเกิน 5 ปี ว่าหมดอายุจริงหรือไม่
บางครั้งหากจัดเก็บไม่ถูกต้องหรือมีปัจจัยอื่น ๆ ทำให้กลิ่นหอมเสื่อมสภาพลงไป ก็อาจจะทำให้กลิ่นเพี้ยนหรือจางลงได้ภายในระยะเวลาที่ได้กล่าวไปข้างต้น สามารถสังเกตได้จากน้ำในขวดที่เหนียวขึ้น สีของขวดที่เปลี่ยนไปจากเดิม (อย่างเช่นหากเป็นสีเหลือง ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองโทนที่เข้มขึ้น) หากพบว่าที่ขวดมีลักษณะดังกล่าว ให้ลองเปิดขวดออกมาดมดูก่อนเพื่อตรวจสอบกลิ่น
หรือพูดอีกอย่างก็คือหากคุณซื้อมาเกิน 5 ปีแล้ว ก็ยังไม่ควรโยนขวดทิ้งไป แต่ให้ตรวจสอบสภาพของขวดและกลิ่นดูก่อนนั่นเอง หากไม่มีอะไรผิดปกติ ก็สามารถใช้งานต่อได้ยาว ๆ
นอกจากนั้น แนะนำให้ลองอ่านส่วนผสมที่ข้างขวดดู หากมีส่วนผสมเป็นพวกผลไม้ตระกูลส้มหรือตระกูลซิตรัสก็มีแนวโน้มว่าจะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าส่วนผสมชนิดอื่น เพราะว่าสามารถระเหยได้ไว แตกต่างจากส่วนผสมอย่างกลิ่นชีเพรอหรือเปลือกไม้ และหากผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ ไม่มีการผสมวัตถุกันเสียก็สามารถเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กลิ่นหอมภายในขวดเสื่อมสภาพลงหลังจากที่เปิดใช้ภายในไม่กี่ปี
ชนิดที่มีความเข้มข้นสูงก็จะยิ่งมีอายุยาวนาน
บางท่านอาจจะสงสัยว่าความเข้มข้นของกลิ่นส่งผลกับระยะเวลาในการใช้งานหรือไม่ฦ คำตอบก็คือใช่ ยิ่งเป็นกลิ่นที่มีความเข้มข้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถใช้งานได้ยาวนานเท่านั้น เพราะเมื่อเราเปิดขวดเพื่อใช้งาน กลิ่นหอมก็จะค่อย ๆ ระเหยออกมาเรื่อย ๆ หากความเข้มข้นของกลิ่นหอมมีความเบาบาง ก็จะระเหยจนหมดในเวลาไม่นาน โดยขนาดความเข้มข้นที่แนะนำให้ซื้อมาใช้ อีกทั้งยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าก็คือ Parfume และ Eau de Parfum ซึ่งมีความเข้มข้นสูง สามารถใช้งานได้นานสะใจอย่างแน่นอน
การเลือกซื้อขวดน้ำหอมที่มีคุณภาพดีและใช้งานได้ยาว ๆ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างนึ่ง เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแต่ละขวดก็มีราคาสูงอยู่พอสมควร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มาจากแบรนด์ชั้นนำ ดังนั้นผู้ที่ชอบสะสมกลิ่นหอมหลาย ๆ แบบ ก็ควรจะซื้อแบบที่มีความเข้มข้นสูง ไม่สามารถระหายไปได้ง่ายและทำให้กลิ่นจางหายไปเร็วนัก พร้อมทั้งควรจัดเก็บในสถานที่ที่เหมาะสม ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน กลิ่นไม่เพี้ยนเมื่อหยิบออกมาใช้สลับกับกลิ่นโปรดอื่น ๆ ของคุณ