หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า 6 เทคนิค เปรียบเทียบประกันสุขภาพ ที่คุณต้องรู้! จาก rabbit finance

6 เทคนิค เปรียบเทียบประกันสุขภาพ ที่คุณต้องรู้! จาก rabbit finance

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ ใครว่าเป็นเรื่องยาก วันนี้ แรบบิท ไฟแนนซ์ มี 6 เทคนิคเลือกซื้อประกันสุขภาพมาฝาก บอกเลยว่าจะทำให้การซื้อประกันสุขภาพของคุณง่ายไปเลยค่ะ

10221

ใครบอกว่าซื้อประกันสุขภาพเป็นเรื่องง่าย บอกเลยว่าไม่ง่ายอย่างที่คิด ก็แหมซื้อประกันสุขภาพทีก็อยากซื้อที่กรมธรรม์คุ้มครองแบบจัดเต็ม คุ้มค่า แถมเบี้ยประกันก็ต้องราคาเป็นมิตร เพราะเราต้องจ่ายเบี้ยไปอีกหลายปี งานนี้ใครที่ยังเลือกประกันสุขภาพไม่ได้ ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะคะ เพราะ rabbit finance มีวิธีซื้อประกันแบบเปรียบเทียบมาให้ทุกคนแล้ว จะมีปัจจัยไหนบ้างที่เราต้องคิดก่อนซื้อประกันสุขภาพ ไปดูพร้อมกันเลย

ซื้อประกันสุขภาพต้องเปรียบเทียบให้เป็น เริ่มจาก 6 ปัจจัยนี้เท่านั้น!

ประกันสุขภาพ
เช็คเบี้ยประกันสุขภาพ ให้ได้ประกันสุขภาพที่ตรงใจ

6 เทคนิค เปรียบเทียบอย่างไร ให้ได้ประกันสุขภาพคู่ใจ

1. เบี้ยประกันสุขภาพที่เราต้องจ่าย

เราต้องทำความเข้าใจก่อน ว่าเบี้ยประกันสุขภาพจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามอายุของผู้ทำประกันสุขภาพ เพราะความเสี่ยงของสุขภาพของแต่ละช่วงอายุมีไม่เหมือนกัน อย่างเช่น วัยเด็กจะต้องเสียเบี้ยประกันแพง เพราะภูมิต้านทานในร่างกายยังไม่แข็งแรง เสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย

นอกจากเรื่องอายุของผู้ทำประกันแล้ว ปัจจัยเรื่องเพศ สุขภาพ อาชีพ ไลฟ์สไตล์ ก็ส่งผลให้เบี้ยประกันสุขภาพของเราเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน โดยปกติแล้วเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะสมควรจ่ายไม่เกิน 10-15% ของรายได้รวมทั้งปีของเรา

2. ความเสี่ยงเรื่องสุขภาพ

ทุกคนมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหมดค่ะ แต่จะเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย เสี่ยงเป็นโรคร้ายหรือไม่ งานนี้เราต้องมาสำรวจสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ โรคประจำตัว รวมถึงดูประวัติโรคภัยของคนในครอบครัวเราด้วย เพราะถ้าคุณประเมินความเสี่ยงว่าสามารถเกิดโรคอะไรขึ้นกับเราได้ ก็ยิ่งทำให้เราเลือกซื้อประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับเราได้นั่นเอง
อย่างเช่น หนึ่งในสมาชิกครอบครัวของคุณ มีกรรมพันธุ์โรคหัวใจ ซึ่งตัวคุณเองก็มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจเช่นกัน ฉะนั้นถ้าคุณจะซื้อประกันสุขภาพก็ควรเลือกประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองโรคหัวใจด้วย

3. ความคุ้มครองของประกันสุขภาพ

ส่วนใหญ่ที่ทุกคนเลือกซื้อประกันสุขภาพก็เพื่อลดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น ค่าห้องรักษา ค่าผ่าตัด ค่ายา และค่าอื่นๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเลือกประกันสุขภาพที่สามารถใช้ได้ทั้งโรงพยาบาล (ผู้ป่วยนอก,ผู้ป่วยใน) รวมถึงสามารถใช้สิทธิที่คลินิกได้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเวลาเราจะเลือกซื้อประกันสุขภาพ ก็อย่าลืมดูขอบเขตการคุ้มครองว่าตรงกับความต้องการของเราหรือไม่

เช็กวงเงินคุ้มครองของประกันให้ดี

4. วงเงินความคุ้มครอง

นอกจากความคุ้มครองแล้วอีกอย่างที่คุณต้องดูควบคู่ไปด้วยก็คือ วงเงินความคุ้มครองเท่าไหร่ หรือในกรณีที่ร้ายแรงมากๆ คุณจะได้วงเงินความคุ้มครองเท่าไหร่ ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น คุณเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของคุณ 150,000 บาท แต่ประกันคุ้มครองแค่ 50,000 ดังนั้นคุณต้องจ่ายเพิ่มอีกหนึ่งแสน ซึ่งปัญหานี้อาจทำให้การเงินของคุณสะดุดได้

5. โรงพยาบาลในเครือประกันสุขภาพ

อีกสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ ก็คือโรงพยาบาลในเครือของประกันสุขภาพ ลองนึกภาพดูนะคะ ถ้าเราเจ็บป่วยระหว่างไปเที่ยวต่างจังหวัด ตัวเลือกโรงพยาบาลน้อย ถ้าคุณทำประกันสุขภาพที่มีโรงพยาบาลในเครือน้อย เราก็แทบจะไม่มีตัวเลือกเลย เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะเลือกซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทไหน อย่าลืมดูจำนวนโรงพยาบาลในเครือด้วยนะคะ ว่ามีจำนวนมากและครอบคลุมทั่วประเทศหรือไม่

6. ดูงบในกระเป๋าของตัวเอง

และสิ่งสุดท้ายก็คือ เงินสำหรับซื้อประกันสุขภาพของเรา เราตั้งงบสำหรับซื้อประกันไว้เท่าไหร่ รายได้ของเราพอกับเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายหรือไม่ จะต้องจ่ายเบี้ยรายเดือน หรือรายปี แล้วให้เราคิดไว้เสมอว่า อย่าทำให้การซื้อประกันสุขภาพมากระทบกับเงินในกระเป๋าเรานะคะ ไม่อย่างงั้นจากที่จะทำประกันให้สุขภาพของเรา อาจต้องมาทำประกันให้เงินเราแทน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 6 เทคนิคการเลือกซื้อประกันสุขภาพ อย่าลืมเปรียบเทียบประกันสุขภาพตามที่เราบอกไปด้วยนะคะ หรือถ้าใครไม่อยากเปรียบเทียบประกันเอง หรืออยากหาตัวช่วยแนะนำการเลือกซื้อประกันสุขภาพละก็ เข้ามาที่ rabbit finance เลยค่ะ สะดวก และเชื่อถือได้