เปรียบเทียบชัดๆ!!! Adidas NMD ของแท้ ของปลอม เช็คอย่างไรไม่ให้โดนหลอก

รองเท้า Adidas NMD จัดเป็นสนีกเกอร์ที่ฮอตฮิตตลอดกาลจริงๆ ไม่ว่าออกรองเท้าโมเดลไหนมา ก็สร้างปรากฏการณ์ให้ช็อป Adidas แทบถล่ม เพราะมีสาวก รองเท้า adidas บางคนถึงกับไปนอนรอซื้อล่วงหน้าข้ามวันเลยก็มี แล้วแต่ละรุ่นลิมิเต็ดที่มีนั้น ก็ขายน้อยซะเหลือเดิน ต้องขอซูฮกคนที่คว้ารองเท้ามาได้จริงๆ

แต่!!!… สมัยนี้ก็มักจะมีคนหัวหมอบางคน ฉวยโอกาสนี้ ซื้อแล้วมาขายต่อ บางคนอัพขึ้นจากราคาเดิม หลักพัน บางคนอัพราคาเป็น 2 หมื่นก็มี แหม่! มันช่างน่าเอาอะไรตีเสียจริงๆ แต่อันนี้ยังดีที่เป็นของแท้ เพราะก็มีคนบางกลุ่มหัวหมอกว่านี้อีกเช่นกัน ผลิตของปลอม ก๊อปปี้กันแบบเห็นๆ ออกมาคล้ายมาก แล้วก็ออกมาไวมาก คนเลยหลงเชื่อกันเยอะ

ดังนั้นวันนี้ ทีมงาน Priceza เลยทำการถ่ายรูป Adidas NMD ของแท้ เทียบมาให้ดูกัน ให้ชาว Priceza ได้ระมัดระวังกันไว้ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้

รู้จัก Adidas NMD

Adidas รุ่น NMD จัดเป็นสนีกเกอร์เกอร์ เหมาะกับใส่เดินประจำวัน แนวไลฟ์สไตล์ ที่นำเอาวัสดุขั้นเทพจาก รองเท้า adidas ยุคใหม่อย่างพื้นรองเท้า Boost และวัสดุตัวรองเท้าผ้าทอ Primeknit มาผสมผสานกับกลิ่นอายความคลาสสิกของรองเท้าวิ่ง adidas ยุค 80’s ออกมา ซึ่ง รองเท้า adidas ร่น nmd นี้มาจากตัวต้นแบบ 3รุ่นนั้นคือ Micro Pacer(1984), Rising Star (1985) และ The Boston Super (1986) จึงทำให้ดีไซน์ที่ออกมาเป็นรูปแบบโค้งๆ ดูเคิฟ เข้ากับการแต่งตัวในยุคสมัยใหม่

โดยชื่อรุ่น NMD นั้นมีความหมายมาจาก “NO MAD” ที่หมายถึง นักท่องเที่ยว หรือคนที่ใช้ชีวิตแบบไร้กรอบ และด้วยดีไซน์บวกกับเทคโนโลยีการผลิตของ NMD จึงส่งผลให้ขายหมดอย่างรวดเร็ว ทั้ง shop ต่างประเทศ และ shop ในไทย ภายในไม่ถึง 5 ชั่วโมง

6 วิธีเช็ค รองเท้า Adidas NMD ของแท้ ของปลอม ดูอย่างไร?

สำหรับ Adidas รุ่น NMD มีการออกแบบทรง และรายละเอียดต่างๆ ที่ค่อนข้างเฉพาะ ถ้าไม่สังเกตุ จะไม่รู้เลยว่า เป็นแบบนี้.. แล้วแต่ละรุ่นที่ทำออกมา ก็มีรูปลักษณ์ และรายละเอียดบางส่วนที่ไม่เหมือนกัน เบื้องต้นคือให้เช็คภาพจากเว็บไซต์ adidas ประกอบไปด้วยครับ เพราะของปลอมสมัยนี้ทำออกมาเช็คได้ยากมาก แต่มันก็ยังพอมีวิธีเช็คว่าอันไหนของจริง อันไหนของปลอม ไปดูวิธีเช็คกันดีกว่า

1. เช็คลาย EVA Plugs

รองเท้า Adidas รุ่น NMD นั้น มีจุดเด่นที่โฟมสี่เหลี่ยม EVA Plugs ที่ติดไว้สำหรับช่วยรองรับแรงกระแทก เพิ่มความทนทานให้กับพื้นรองเท้า และช่วยในเรื่องการทรงตัว เวลาใส่จึงไม่ยวบยาบจนเกินไป เป็นแนวทางการออกแบบที่มีมาตั้งแต่รองเท้าอาดิดาสยุค 80’s

โดย EVA Plugs ใน รองเท้า NMD ของแท้ จะมี 3 ชิ้น ด้านนอก2 ด้านใน1 ซึ่งของปลอมนั้นก็จะมีจำนวนเท่ากัน มีงานประกอบเนียนเท่าของแท้ แต่จะมีรูปทรงบูดเบี้ยวต่างไปนิดหน่อย และ ตามขอบมีสีไม่เรียบ รูปทรงของ Plugs ก็ทำเบี้ยว

และนอกจากนี้ใน EVA Plugs ตัวสีเทาด้านหน้าจะมีการสกรีนโลโก้ adidas สีดำ จุดนี้ในของปลอมก็มี แต่วิธีเช็คคือ ของปลอมนั้น จะปั๊มไม่เรียบร้อย ไม่เอียงไปตามความโค้งของ EVA Plugs แต่ถ้าเป็น EVA Plugs ของแท้ จะปั๊มเอียงตามความโค้ง

ส่วน EVA Plug ตัวด้านหลังจะมีร่องลึกเป็นขีดๆ วิธีเช็คก็คือ ของปลอมจะมีร่องที่ตื้นกว่า และการเก็บสีบริเวณรอยต่อก็ไม่เรียบร้อย

2. เช็คผิว และสีของฐานพื้นรองเท้าของ NMD ที่เป็นวัสดุ boost

พื้นรองเท้าด้านนอกของ NMD นั้นจะเป็นวัสดุ Boost ทั้งชิ้น ผิวสัมผัสของ Boost จะเป็นเม็ดกลมขนาดต่างๆ อัดกันเป็นชิ้นคล้านกัยแผ่นโฟม เวลากดลงไปตัว Boost จะมีความเด้ง กดลงไปแล้วคืนแรงกลับต่างจากโฟมทั่วไป

แต่ซึ่งของปลอมนั้นลอกได้แค่ลายของโฟม  ถ้ากดจะไม่เด้ง แถมให้ความรู้สึกตอนสัมผัสเป็นแบบพื้นโฟมทั่วไป ลองจับดูก็จะรู้

และมีอีกจุดหนึ่งก็คือ สีของวัสดุ Boost นั้นจะมีสีขาวออกครีมนิดๆ แต่ของในของปลอมนั้นจะเป็นสีขาวสว่างมาเลย ใส่เดินยังไงก็มองออก จำให้แม่นนะ!!

ส่วนพื้นรองเท้าด้านล่าง จะมีการปั๊มร่องลึกแบบนี้ และพื้นรองเท้าด้านหน้าจะมีรหัสของรองเท้าอยู่ที่พื้นสีดำทั้งสองข้าง

3. สังเกตุรูปทรงรองเท้า

อันนี้ถ้าไม่มีวิธีสังเกตุจะไม่รู้เลย ซึ่งหลายคนแยกของทรง รองเท้า adidas จะมีสัดส่วนปลายเท้าที่เรียวยางเล็กน้อย ปลายเท้าจะเชิดขึ้นมากำลังดี…

แต่ในของปลอมนั้น ทรงรองเท้าจะทำออกมามีสัดส่วนที่ต่างไป หน้าเท้าจะสั้นกว่า และมีการเชิดที่เตี้ย อาจจะด้วยเพราะพื้นโฟมเป็นวัสดุที่ไม่ยืดหยุ่นพอ

ดังนั้นวิธีสังเกตุคือให้หันดูด้านข้าง วางกับพื้นหรือกล่องก็ได้ ดูบริเวณพื้นโฟมช่วงปลายเท้า ของปลอมพื้นจะถูกดึงจนหักเป็นมุม ต่างกับของแท้ที่จะค่อยๆ โค้งไปตามรูปทรง และเชิดสวยกว่า

4. สัมผัสตัวผิวผ้าของตัวรองเท้า

อย่างที่บอกไปตอนต้นคือ ตัวรองเท้าของ Adidas NMD จะทำจากผ้ายืด Primeknit ที่มีความบาง และยืดหยุ่นสูงมาก เวลาจะดูว่าของจริง หรือของปลอม ให้จับที่ตัวเนื้อผ้า

เพราะถ้าเป็นของแท้ตัวเนื้อผ้าจะมีสัมผัสที่ค่อนข้างนุ่มออกไปทางลื่นมือนิดๆ ในขณะที่ของของปลอมนั้นก็ทำออกมาใกล้เคียงมาก มองเผินๆ จะแยกไม่ออก เนื่องจากทำจากผ้ายืดเช่นกัน แต่เนื้อผ้าในของปลอมจะหยาบกว่า เวลาสัมผัสจะรู้สึกถึงความเป็นผ้าสังเคราะห์ชัดเจน

และอีกจุดนึงที่สำคัญคือ ขอบรองเท้า ตรงข้อเท้า บางรุ่นจะเป็นยางยืด บางรุ่นจะไม่เป็นยางยืด เช่นรุ่น R1 เย็บเก็บขอบเรียบร้อย ถ้าชาว Priceza จะซื้อรุ่นไหนลองเช็ครูปสินค้าจริงจากเว็บไซต์ของ Adidas ก่อนนะ จะได้ไม่พลาด

5. พื้นรองเท้า และการเย็บด้านใน

อันนี้ไม่มีภาพเปรียบเทียบของแท้กับของปลอม แต่ว่าภาพของแท้มาให้ดูว่า พื้นด้านในรองเท้านั้น มีลักษณะแบบนี้ และเย็บ พื้นรองเท้า ติดกับตัวรองเท้าเลยแกะออกไม่ได้ ลายบนพื้นรองเท้า เป็นลาย 6 เหลี่ยมสีขาว สีอักษร boost สีดำ

6. ป้ายบอกไซส์ที่รองเท้า

ถ้าเป็นรองเท้ารุ่นอื่น อาจจะมีป้ายบอกไซส์รองเท้า ไว้ส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่ว่า Adidas รุ่น NMD จะมีป้ายบอกไซส์ที่ข้างในรองเท้า ด้านข้างๆ แต่บางรุ่นก็จะไม่มี

วิธีเช็คกล่องรองเท้าของแท้

แม้กระทั่งกล่องก็ปลอม!!.. ประมาทไม่ได้นะชาว Priceza เราต้องเช็คให้รอบคอบ

NMD จะมาในกล่อง Adidas Originals สีน้ำเงินคาดโลโก้สามแถบสีขาวแบบปกติ แต่จะมีความพิเศษที่บริเวณด้านข้างของกล่อง

• ตรงที่แปะฉลากบอกไซส์ จะมีการทำ UV Spot คำว่า Boost บางๆ เอาไว้ ต้องดูใกล้ๆ หรือสัมผัสถึงจะเห็น
• ของแท้จะใช้ฉลากแบบมีภาพรองเท้าอยู่บนกล่องเหมือนกล่องรองเท้ากีฬายุคใหม่ของอาดิดาส ฉลากปลอมค่อนข้างดูง่ายเพราะพิมพ์ที่ค่อนข้างไม่ละเอียด ภาพรองเท้าจะไม่ชัดนัก
• บนฉลากก็มีบอกขนนาดลองเท้าปกติแต่กล่อง NMD นั้นจะมีฉลากอยู่ 2 แบบคือแบบเลขไซส์ UK ตัวใหญ่ กับแบบไซส์ UK/US คู่กัน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะในโซนสหรัฐฯ กับเอเชียใช้ไซส์ US เป็นหลัก ของปลอมส่วนใหญ่จะปลอมฉลากตัวที่เป็น UK/US คู่กันออกมา