เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม แอปเปิลเปิดตัว Macbook Air 2019 ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งการเลิกขาย Macbook Air 2018 และการปรับดีไซน์อัปสเปกด้วยราคาที่ถูกกว่าเดิม เข้าถึงง่ายขึ้นอีกนิด เริ่มต้น 35,900 บาท และ 42,900 บาท(รุ่นความจุ 256GB) ซึ่งถ้าใครอยากทราบว่าแม็คแอร์ใหม่นี้ สามารถอัปเกรดอะไรได้บ้าง และแพงสุดนั้นต้องจ่ายกี่บาท เราลองกดมาดูแล้ว
Macbook Air 2019 อัปเกรดสเปกใหม่ในราคาเบาใจกว่าเดิม
MacBook Air 13 นิ้ว ปี 2019 ยังมาในดีไซน์ตัวเครื่องบางโดนใจ ขนาด 1.56 x 30.41 x 21.24 เซนติเมตร หนักเพียง 1.25 กิโลกรัม เหมาะกับการพกพาเป็นอย่างยิ่ง ประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Intel Core i5 รุ่นที่ 8 แบบ Dual-core มีความเร็วอยู่ที่ 1.6GHz มาพร้อม Turbo Boost สูงสุด 3.6GHz หน้าจอ Retina LED IPS ขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 16:10 หน่วยความจำ LPDDR3 ความเร็ว 2133MHz อัปแรมได้สูงสุด 16 GB ใช้การ์ดจอ Intel UHD Graphics 617 รองรับกราฟิกต่อจอนอกโปรเซสเซอร์ภายนอกที่รองรับการเชื่อมต่อพอร์ต Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต
นอกจากนี้ยังได้เพิ่มฟีเจอร์น่าสนใจอย่าง Touch ID เป็นระบบสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเหมือนกับหน้าจอ iPhone ที่ให้ประโยชน์ด้านการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ฝังไว้ในปุ่ม Power นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีแทร็คแพด Force Touch รองรับแรงกดหลายระดับที่ทำให้ใช้งานเป็นแก็ดเจอร์ทางลัดต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น เช่น ทั้งการกดค้างเพื่อค้นหาข้อความในเว็บเพจและในอีเมล หรือคลิกกดค้างที่ลิงก์และไอคอนไฟล์ต่าง ๆ เพื่อดูการแสดงตัวอย่างเนื้อหา เป็นต้น
Macbook Air 2019 กดสเปกแพงสุดราคากี่บาท??
เริ่มคันไม้คันมือและ มาลองกดกันดูเลยดีกว่า ว่าเจ้า MacBook Air แพงสุดจะมีราคากี่บาทกัน โดยในรุ่นปี 2019 นี้ ผู้ใช้เราสามารถอัปเกรดตัวเครื่องได้ทั้งหมดเพียงแค่ 2 อย่าง ได้แก่ ปริมาณ RAM และ ความจุ Storage
เริ่มจาก RAM ที่มีให้เลือกอัปเกรดสูงสุดที่ 16 GB ในราคาจ่ายเพิ่ม 7200 บาท
ต่อมาเป็น Storage ความจุ ซึ่งที่ใช้ในรุ่นนี้เป็นชนิด SSD อ่าน-เขียน ปรี๊ดปร๊าด รองรับการอัปเกรดสูงสุดที่ 1 TB ในราคาที่ต้องจ่ายเพิ่ม 21,000 บาท
พอรวมเบ็ดเสร็จอัปเกรดทุกสิ่งอย่าง Macbook Air 2019 ของเราก็จะมีค่าตัวรวมแพงที่สุดเป็น… 60,100 บาท นั่นเอง!!
ความเหมือนและแตกต่าง Macbook Air 2018 vs 2019
ทั้งสองรุ่นใช้จอภาพ Retina LED IPS ขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียดปกติ 2560 x 1600 ที่ 227 พิกเซลต่อนิ้ว (PPI) อัตราส่วนภาพ 16:10 พร้อมกับเพิ่มเทคโนโลยี True Tone ใช้เซ็นเซอร์ปรับสีและความเข้มของจอแสดงผลให้เหมาะสมกับแสงสว่างภายนอก ทำให้ภาพบนหน้าจอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ปรับสีให้สอดคล้องกับแสงรอบข้างตลอดเวลา อาจมีผลเสียต่อสายตาหากต้องจ้องมองหน้าจอตลอดทั้งวัน สำหรับความสว่างของหน้าจอในรุ่น 2018 อาจจะน้อยไปนิดเมื่อเปรียบเทียบกับ MacBook Pro ขนาด 13 นิ้ว แต่ Macbook Air รุ่น 2019 อัปเดตเพิ่มความสว่างเป็น 400 nits ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้งานแล้ว
- ทั้งสองรุ่นใช้ CPU Intel Core i5 Gen 8 แบบ Dual Core ความเร็ว 1.6GHz มี Turbo Boost สูงสุด 3.6GHz พร้อมแคช L3 ขนาด 4MB สามารถปรับแต่งหน่วยความจำสูงสุดได้ 16GB
- ตัวจัดเก็บข้อมูลสูงสุดแตกต่างกัน MacBook Air ปี 2018 รองรับความจุสูงสุด 1.5 TB ส่วนรุ่น ปี 2019 รองรับสูงสุด 1TB ได้
- ทั้งสองรุ่นมีขนาดเดียวกันคือ 1.56 x 30.41 x 21.24 เซนติเมตร น้ำหนัก 1.25 กิโลกรัม เทคโนโลยีกราฟิกใหม่ Intel UHD Graphics 617 รองรับกราฟิกโปรเซสเซอร์ภายนอก (eGPU) ที่ใช้ Thunderbolt 3 มี 2 พอร์ต
- ทั้งคู่ใช้โครงสร้างชิ้นเดียวเป็นอะลูมิเนียมที่แข็งแรงเหมือนกับรุ่นก่อน มีสีเงิน สีทอง และสีเทาสเปซเกรย์ ดูหรูหราเหนือชั้นจากคู่แข่งคลาสเดียวกัน ด้วยตัวเครื่องที่บางและน้ำหนักเบา ค่ายแอปเปิลจึงปรับแต่งภายนอกให้ตัวโลหะมีความหนาแน่นและทนทานมาก
- Macbook Air ทั้งสองรุ่นยังคงใช้คีย์บอร์ดแบบ Butterfly รุ่นที่สาม แม้ว่าจะมีเสียงร้องเรียนจากลูกค้ามาตั้งแต่เวอร์ชั่นปี 2018 ว่าปุ่มคีย์บอร์ดตื้นมาก เมื่อมีฝุ่นเข้าไปทำให้คีย์บอร์ดค้าง ไม่ตอบสนอง คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงกลับไปใช้ของเดิมตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ซื้อ Macbook Air 2019 ได้ถูกกว่าในโครงการราคาเพื่อการศึกษา
นอกจากรุ่นราคาแพงที่สุดและสินค้าราคาปกติแล้ว ทางแอปเปิลยังเสนอราคาสบายกระเป๋าสำหรับนักศึกษาที่มีงบประมาณน้อยแต่มีความจำเป็นต้องใช้งานโน้ตบุ๊กที่ไม่ได้ลดสเปกลงจากปกติเลย ขุมพลังของ MacBook Air 13 นิ้วฉบับนักศึกษา ยังคงเป็น Intel Core i5 Gen 8 โปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ความเร็ว 1.6GHz มาพร้อม Turbo Boost สูงสุด 3.6GHz ความจุอยู่ที่ 128GB จำหน่ายราคาเริ่มต้น 31,900 บาทเท่านั้น ส่วนเวอร์ชั่น ความจุ 256GB กำหนดราคาไว้ 38,900 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นปี 2018 แล้วเป็นราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายกว่าจริง ๆ
ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
หากเพื่อน ๆ มีงบประมาณเพียงพอในการอัปเกรดสเปกสูงสุดของ Macbook Air ที่ราคาดังกล่าว ผู้เขียนมองว่าเงินจำนวนนั้นสามารถนำไปซื้อ Macbook Pro 2019 ในสเปกที่สูงระดับมืออาชีพได้เลย ซึ่งเป็นอะไรที่คุ้มกว่ามาก อีกทั้งใครที่กังวลเรื่องน้ำหนัก Macbook Air เบากว่า Pro เพียง 200 กรัมเท่านั้น ทั้งนี้การเลือกซื้อก็ควรดูเรื่องการใช้งานเป็นหลักมากกว่า ถ้าแค่ใช้งานเอกสาร ผ่านบราวเซอร์ หรือทำกราฟิก แต่งรูปนิดหน่อย Macbook Air 2019 สามารถตอบโจทย์คุณได้แน่นอน แต่ถ้าแต่งภาพจริงจัง รันงานสามมิติ หรือตัดต่อวิดีโอ 4K แนะนำว่า Macbook Pro จะเหมาะสมมากว่า
โน้ตบุ๊ก Macbook Air เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ถือเป็นสินค้ายอดนิยมในตลาดโน้ตบุ๊กมานานนับ 10 ปี จุดกระแสความนิยมตั้งแต่รุ่นแรกถึงรุ่นล่าสุดที่มีการดีไซน์โฉมใหม่ เพิ่มฟีเจอร์มากมายเพื่อให้ลูกค้าพอใจมากขึ้น ที่สำคัญคือการปรับลดราคาแรงมาก ทั้งที่สเปกไม่ได้ลดลงเลย สะดวกสำหรับคนใช้งานจริงที่ทำงานเขียนเขียนเอกสาร อีเมล ท่องเว็บ ดูหนังฟังเพลงเชื่อมต่อกับ iPhone ได้ง่าย
