หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า Power Bank ขนาดความจุเท่าไหร่ดี ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

Power Bank ขนาดความจุเท่าไหร่ดี ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

3231
เลือกความจุ ขนาด Power bank

Power Bank หรือแบตสำรอง เป็นแบตเตอรี่ชนิดพกพาที่มีไว้เพื่อสำรองจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ MP3 iPad แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ของเราที่รองรับการชาร์จไฟด้วย USB เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่เชื่อว่าคนในยุคเทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วนี้ จะต้องมีพกพาติดตัวกัน บางคนเลือกใช้ที่มีความจุหลักหมื่น บางคนเลือกใช้แค่หลักพัน แล้วถามว่าจริง ๆ แล้วควรเลือกใช้ความจุเท่าไหร่กันแน่ วันนี้เรามีคำตอบ

ในเรื่องแตกต่างระหว่างแบตเตอรี่สำรองแต่ละตัว ถ้าไม่นับเรื่องดีไซน์ที่แตกต่าง ก็คงเป็นเรื่องปริมาณความจุแบตเตอรี่ที่อยู่ภายใน และฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่สร้างความสงสัยให้กับคนที่กำลังตัดสินใจซื้อ แต่ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้เรื่องพวกนั้น เราไปรู้จักชนิดของแบตเตอรี่ที่นำมาทำเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้กันก่อนดีกว่า

ชนิดแบตเตอรี่ที่นิยมนำมาใช้ใน Power Bank

เป็นแบตเตอรี่ ที่ส่วนประกอบด้านในก็จะประกอบไปด้วยสิ่งที่เรียกว่า “เซลล์ไฟฟ้าเคมี” โดยจะมีทั้งแบบที่เป็นขั้วบวกและขั้วลบวางอยู่ด้วยกันเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางจ่ายพลังงานกระแสไฟฟ้า โดยมีสารละลายอิเล็กโทรไลต์ทำหน้าที่สำคัญที่จะช่วยทำให้กระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ววัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ทำแบตเตอรี่สำรองมีด้วยกันอยู่ 2 ชนิด ที่มักได้รับความนิยมให้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลัก นั่นคือ ลิเทียม ไอออน (Lithium Ion) และ ลิเทียม พอลิเมอร์ (Lithium Polymmer)

ซึ่งวัสดุทั้งสองชนิดนี้ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยลิเทียม ไอออน มีข้อเสียตรงที่ส่วนใหญ่แล้วมักมีน้ำหนักที่ค่อนข้างหนัก เพราะเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่มีความหนาแน่นที่ค่อนข้างสูง แถมยังเสื่อมง่ายเสื่อมเร็วกว่าลิเทียม พอลิเมอร์ อีกด้วย แต่สิ่งที่พอจะสามารถนำมาลบล้างข้อเสียดังกล่าวข้างต้น ก็คือ เป็นวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และที่สำคัญ คือ มีราคาที่ถูกกว่าวัสดุประเภทลิเทียม พอลิเมอร์ นั่นเอง

เลือกความจุ-ขนาด Power bankส่วนลิเทียม พอลิเมอร์นั้น มีข้อดีคือเป็นวัสดุที่สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน และมีความปลอดภัยสูง มีน้ำหนักที่เบากว่า ส่วนข้อเสียก็อย่างที่ทราบกัน คือ มีราคาที่แพงกว่านั่นเอง เมื่อรู้จักกับวัสดุภายในที่นิยมนำมาใช้ในแบตเตอรี่สำรองทั่ว ๆ ไป ส่วนใหญ่แล้ว ก็ไปดูวิธีการเลือกความจุของเพาเวอร์แบงค์ให้เหมาะสมต่อการใช้งานกันต่อเลยดีกว่า

เลือกความจุของเพาเวอร์แบงค์อย่างไรให้เหมาะสม

การที่จะเลือกซื้อซักตัวหนึ่งมาใช้งาน สิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจก็คือ ปริมาณความจุของตัวเครื่องนั่นเอง เพราะหากเมื่อเราต้องการแบตเตอรี่สำรองสำหรับการใช้งาน ความจุจึงเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยวิธีการเลือกความจุของเพาเวอร์แบงค์ให้เหมาะสมกับการใช้งานสามารถได้ ดังนี้

1. ตรวจดูความจุของอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งานกับแบตเตอรี่สำรอง เช่น หากเป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ ก็อาจจะมีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 3,000 – 4,000 mAh หรือหาเป็นสมาร์ทโฟนค่าย Apple ก็อาจจะอยู่ที่ประมาณ 1,800 – 3,000 mAh เป็นต้น

2. เลือกความจุ เมื่อรู้ความจุของอุปกรณ์ไฟฟ้าของตนเองแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องเลือกความจุของแบตเตอรี่สำรองที่ต้องการ โดยอันดับหนึ่งความจุจะต้องมีมากเพียงพอสำหรับการชาร์จกับอุปกรณ์ได้หนึ่งครั้ง ตั้งแต่ปริมาณแบตเตอรี่ 0 – 100 เปอร์เซ็นต์

รู้หรือไม่ : ความจุของแบตสำรองที่ระบุไว้ในตัวเครื่อง ไม่ใช่ความจุที่แท้จริง แต่เป็นความจุเชิงทฤษฎี ซึ่งความจุที่สามารถใช้ได้จริงจะมีปริมาณน้อยกว่าที่ระบุไว้ 30 – 40% โดยค่าเปอร์เซ็นต์ดังกล่าว คือค่าพลังงานที่แบตเตอรี่ต้องสูญเสียไปตอนแปลงและดันไฟออกมา หรือที่เรียกกันว่า ค่า Loss นั่นเอง

3. ไลฟ์สไตล์การใช้งาน ต้องการนำเพาเวอร์แบงค์ไปใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง เช่น ไปท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นความจุที่ต้องการก็อาจจะไม่จำเป็นต้องมากมายอะไร ความจุแค่ประมาณ 5,000 mAh ก็น่าจะเพียงพอ แต่ถ้าหากต้องการเดินทางท่องเที่ยวหลาย ๆ วัน ก็อาจจะต้องมีปริมาณความจุที่เพิ่มมากขึ้น โดยความจุที่ปริมาณ 20,000 mAh ขึ้นไปก็น่าจะกำลังดี เป็นต้น

4. ดูออปชั่นเสริม รุ่นใหม่ ๆ จะมีฟีเจอร์เสริมที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้มากกว่าเก่า เช่น การรองรับชาร์จแบบไร้สาย การที่มีพอร์ตจ่ายไฟหลาย ๆ รู การรองรับประเภทหลายพอร์ต เป็นต้น ในจุดนี้อยู่ที่ว่าจะต้องการฟังก์ชั่นไหนเพิ่มเติม

5. เช็คของแท้และรายละเอียดการรับประกัน บอกเลยว่าแบตสำรองเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีของลอกเลียนแบบ (ของปลอม) ออกมาขายเยอะมาก ดังนั้นก่อนจะซื้อต้องตรวจสอบดี ๆ และต้องดูเรื่องการรับประกันประกอบด้วย ซึ่งการซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้เป็นวิธีที่ดีที่สุด

แนะนำ เพาเวอร์แบงค์ น้ำหนักเบา 5,000 – 10,000 mAh

  • Eloop E30 5,000 mAh ลายเคฟล่า ราคาไม่เกิน 200 ที่มาพร้อมความเบาเพียง 116 กรัม มีสองพอร์ต ประกัน 1 ปี
  • Aukey Ultra Slim 5000 mAh ดีไซน์เบาบาง หนักเพียง 130 กรัม เหมาะแก่การพกพาแบบไม่ซีเรียส รองรับการจ่ายไฟสูงสุด 5V/2.4A ประกัน 1 ปี
  • Xiaomi Mi2 5,000 mAh ตัวเครื่องอลูมิเนียมอัลลอยด์ เปื้อนยาก เป็นรอยยาก มีระบบความปลอดภัย 9 ชั้น ประกัน 6 เดือน

แนะนำความจุ 10,000 – 20,000 mAh

  • Eloop Ew31 10000 mAh รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ด้านหนึ่งบุด้วยหนังให้ความรู้สึกหรูหรา หนักเพียง 200 กรัม
  • Eloop E36 12000 mAh เป็นแบตสำรอง ที่รองรับ Quick Charge 2.0/3.0, Apple PD ที่ราคาถูกที่สุดในตลาดตอนนี้
  • Yoobao P2W 20,000 mAh หน้าจอแสดงเปอร์เซ็นต์แบตแบบ LED มีรูชาร์จ 3 ประเภท Lighting USB-C Micro USB ค่า Loss* น้อยชาร์จได้จำนวนรอบมากกว่าปกติ

แนะนำ 20,000 mAh ขึ้นไป

  • AUKEY PD-XD 26,800 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว PD ใน iPhone, iPad, Macbook (แต่ต้องซื้อสาย Type-C to Lighting หรือ Type-C to type-C) และเทคโนโลยี ชาร์จไว QC3.0 + Huawei FCP มาพร้อมประกัน 18 เดือน

มีให้เลือกมากมายในท้องตลาด ดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงที่สุด จึงไม่ใช่ว่าจะซื้อยี่ห้อไหน แบรนด์ไหนดี จริงอยู่ที่เรื่องดังกล่าวก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณา แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือการรู้ถึงวัตถุประสงค์การใช้งานจริงของตัวเองอย่างถ่องแท้ เพราะเราก็จะสามารถตอบสนองความต้องการใช้งานนั้น ๆ ได้อย่างเหมาะสม ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปนั่นเอง และที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่อง คือ ต้องเลือกสินค้าจากแบรนด์ที่มีมาตราฐาน เชื่อถือเรื่องคุณภาพได้