
มากันที่ค่ายมือถือแบรนด์จีนอย่าง Oppo กับ Vivo ได้ออกสมาร์ทโฟน Oppo F9 และ Vivo V11i เป็นมือถือที่โดดเด่นเรื่องการมือถือเซลฟี่ ที่ห้ำหั่นแข่งขันกันมาตลอด ที่มองเผินๆ มันเหมือนกันมาก แต่ในความเหมือนก็มีความต่างอยู่นะ แต่จะต่างตรงไหน สเปค ฟีเจอร์ ราคาเป็นอย่างไร ตามมาดูกันได้เลย
บทความที่คุณอาจพลาดไป
มีงบ 3,000 เลือกซื้อมือถือ OPPO รุ่นไหนดี ?
รูปร่างหน้าตาและติ่งจอแบบหยดน้ำ
ถ้ามองตัวเครื่องจากด้านหน้าจะเห็นว่าทั้ง Oppo F9 และ Vivo V11i มีความคล้ายคลึงกันมาก ทั้งเรื่องหน้าจอ IPS Full HD+ ขนาด 6.3 นิ้วครอบทับด้วยกระจก 2.5D และมีติ่ง (รอยบาก) รูปหยดน้ำเล็กๆ บนหน้าจอที่ทำให้พื้นที่การแสดงผลมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า (Oppo F7 / Vivo V9) อยู่พอสมควร แต่เมื่อพลิกไปยังด้านหลังจุดนี้แหละที่จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน กล่าวคือ
Oppo F9 จะมาพร้อมกับตัวเครื่อง 3 สี ได้แก่ สีใหม่ล่าสุดม่วง Strarry Purple ไล่เฉดเงางาม และ สีน้ำเงิน Twilight Blue สีแดง Sunrise Red ที่มีการไล่สีดีไซน์เลียนกลีบดอกไม้สวยแปลกตาดี ส่วนตำแหน่งกล้องจะเป็นเลนส์คู่แนวนอน
Vivo V11i จะมาพร้อมกับตัวเครื่อง 2 สีที่ไล่สีสวยงามไม่แพ้กัน ได้แก่ สีม่วง-น้ำเงิน Nebula และสีดำ-น้ำเงิน (Starry Night) ได้กล้องคู่เลนส์แนวตั้ง
กล้องหน้า กล้องหลังพลัง AI ใน Oppo F9 และ Vivo V11i
สำหรับกล้องซึ่งเป็นหัวใจหลักของทั้งสองรุ่นก็จัดเต็มตามเคย มือถือเซลฟี่ โดยเฉพาะกล้องหน้า
Oppo F9 ให้ความละเอียดกล้องหน้ามาถึง 25 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ที่มีฟีเจอร์ AI Beauty 2.0 หน้าเนียนสวยเป็นธรรมชาติในช็อตเดียว ฟีเจอร์ถ่าย HDR ช่วยให้ภาพชัดกว่าเดิมในที่แสงน้อย ฟีเจอร์หน้าชัดหลังเบลอในกล้องหน้า ส่วนกล้องหลังมาพร้อมความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ที่ใช้ฟีเจอร์ AI Reconization ปรับภาพตามซีนที่กล้องเห็นอัตโนมัติได้อีกด้วย
Vivo V11i มอบความละเอียดมาให้ที่ 25 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 มีโหมดเอไอบิวตี้ เนียนกริ๊บในแชะเดียว เหมือนกันกับ F9 แต่กล้องหลังความละเอียดสูงกว่า 16+5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ผสานพลัง AI ด้วยโหมด AI Blacklight HDR และ AI Low Light ที่ถึงแม้ค่ารูรับแสงจะแคบกว่า F9 แต่ก็สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี
การประมวลผลและการเล่นเกม
ด้วยการที่ทั้งสองรุ่นใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกัน คือ Mediatek MT6771 Helio P60 Octa Core 2.0 GHz ทำให้ความเร็วในการใช้งาน หรือการเล่นเกมแทบไม่ต่างกัน ซึ่งจากผลการทดสอบเกมจากช่อง 3PAT Review ชิปตัวนี้สามารถใช้เล่นเกมที่กราฟิกไม่สูงมากได้อย่างลื่นไหล เช่น ROV เปิดโหมด HD เฟรมเรทจะอยู่ราวๆ 28 – 30 fps (ไม่สามารถเปิดโหมดเฟรมเรทสูงได้) ส่วน PUBG สามารถปรับโหมดความละเอียดสูงได้แต่แนะนำให้ปรับกลางๆ ดีกว่าเพื่อความสมูธตอนเล่น
Oppo F9 จะได้ RAM มาถึง 6GB แต่ได้ความจุ 64 GB รันบนระบบปฏิบัติการ ColorOS บนพื้นฐาน Android 8.1
Vivo V11i จะได้ RAM มาถึง 4 GB แต่ได้ความจุมาถึง 128GB รันบนระบบปฏิบัติการ FunTouchOS บนพื้นฐาน Android 8.1
ทั้งนี้ถ้าความจุเดิมๆ ไม่พอทั้งสองตัวยังสามารถเพิ่มการ์ดความจำได้อีกนะ
VOOC Flash Charge Vs Dual-Engine
เรื่องแบตเตอรี่ไม่มีใครน้อยหน้าใคร ใน Oppo F9 มีความจุแบตเตอรี่ 3,500 mAh และ 3,315 ใน Vivo V11i เนื่องจากทั้งสองรุ่นใส่เทคโนโลยีชาร์จไวมาให้อย่างเสร็จสับ ในออปโป้จะเรียกว่า VOOC Flash Charge ในวีโว่จะเรียกว่า Dual-Engine ซึ่งจะต้องใช้กับอแดปเตอร์ 9V2A ที่แถมมาให้กับกล่องจึงจะสามารถใช้ฟังก์ชั่นชาร์จไวได้ นอกจากนี้เจ้า F9 ยังเคลมเรื่องความปลอดภัยด้วยว่าสามารถเล่นไปชาร์จไปได้อย่างหายห่วง
ฟีเจอร์อื่นๆ
ทั้ง Oppo F9 และ Vivo V11i สามารถใช้งานการปลดล็อคผ่านการสแกนใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่องได้ รวมถึงมีช่องใส่ซิมการ์ดเป็นแบบทริปเปิ้ลสลอต ใส่ 2 ซิม พร้อม Micro SD Card ได้ แต่เสียดายที่ทั้งสองรุ่นยังใช้พอร์ทแบบ Micro USB ไม่ใช่ Type C
สรุปความแตกต่าง
จะเห็นว่ามือถือเซลฟี่ทั้งสองรุ่น แทบจะเป็นแฝดคนละฝาเลย เพราะมีจุดที่แตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าจะให้ฟันธงว่ารุ่นไหนดีกว่ากัน ผู้เขียนไม่สามารถบอกได้จริงๆ เนื่องจากทั้งสองรุ่นมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน และขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณใช้งานอะไรเป็นหลัก เอาเป็นว่าชอบแบรนด์ไหนก็ซื้อแบรนด์นั้นได้เลย แล้วสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจสมาร์ทโฟนราคาน่ารัก และขายถูกกว่าศูนย์ สามารถเข้าไปค้นหาและเช็คราคาก่อนช้อปได้ที่ Priceza.com ได้เลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง