หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า เคสโทรศัพท์ สิ่งจำเป็น หรือไม่

เคสโทรศัพท์ สิ่งจำเป็น หรือไม่

3318
ทำไมต้องใส่เคสโทรศัพท์

เคสโทรศัพท์ มีด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Soft Case ที่มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง และโดยทั่วไปมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าเคสประเภทอื่น ๆ ส่วนใหญ่มักทำมาจากวัสดุประเภทซิลิโคนหรือกาวร้อน มีข้อเสียคือเสื่อมคุณภาพไวกว่าแบบอื่น ประเภทต่อมาคือ Hard Case ซึ่งเป็นเคสที่มีความแข็งที่สุด เพราะวัสดุที่นำมาใช้มีความแข็งแรงทนทานมาก แต่ข้อเสียของเคสประเภทนี้ก็คือ ถ้าหากใส่เคสไม่ระวัง ก็อาจจะทำให้โทรศัพท์เป็นรอยได้

ต่อมาเป็น Hybrid Case ซึ่งเคสประเภทนี้จะรวมเอาคุณสมบัติที่ดีของเคสทั้งสองประเภทก่อนหน้ามารวมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งทำให้มีข้อดีที่เห็นได้อย่างชัดเจน ก็คือ เคสประเภทนี้จะมีลักษณะที่ยืดหยุ่นแต่ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติที่ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี แต่ข้อเสียก็คือเคสอาจจะมีขนาดที่ใหญ่เทอะทะมากเกินไปในบางยี่ห้อ และเคสประเภทสุดท้าย ก็คือ เคสประเภทหนัง ซึ่งข้อดีของเคสประเภทนี้ก็คือดีไซน์ที่เหรียบหรูดูดี แต่ข้อเสียก็คือเคสประเภทนี้คือรองรับแรงกระแทกได้น้อยที่สุด

ซึ่งคนส่วนใหญ่โดยทั่วไปก็มักจะมีความคิดเห็นในการเลือกหรือไม่เลือกใช้เคส แบ่งออกเป็นสองแนวทางด้วยกัน คือ คนกลุ่มแรกมักนิยมใส่เคสมือถือเพื่อช่วยป้องกันอันตรายให้แก่โทรศัพท์มือถือ กับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ค่อยนิยมใช้เคสมือถือเท่าไหร่นัก ซึ่งบทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้คนในแต่ละกลุ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป ดังนี้

เคสโทรศัพท์กับไลฟ์สไตล์

เรื่องจริงจากกลุ่มคนใช้เคสมือถือ ยืนยันแล้วว่าคุ้มค่า

1. ลดรอยขีดข่วน

ช่วยป้องกันดูแลโทรศัพท์มือถือไม่ให้เป็นรอยขีดข่วน และที่สำคัญช่วยลดแรงกระแทกต่าง ๆ ที่อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจมีบ้างบางกรณี ที่การกระแทกนั้นร้ายแรงมากจนเกินการป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยก็เป็นการช่วยลดความรุนแรงของความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ในระดับหนึ่ง

2. บ่งบอกตัวตนของเจ้าของ

ในบางครั้งเคสมือถือไม่ใช่เป็นเพียงอุปกรณ์ที่มีไว้สำหรับกันกระแทกให้กับโทรศัพท์เท่านั้น แต่บางครั้งด้วยสไตล์และดีไซน์ที่มีหลายแบบหลากลวดลาย อาจจะให้เป็นเครื่องบ่งบอกถึงรสนิยมความชอบที่มีของเจ้าของโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นได้เป็นอย่างดี

3. เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

บางครั้งเคสใส่โทรศัพท์ก็สามารถใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือเป็นเครื่องรางเพิ่มความหวังได้ เนื่องจากจะด้วยการทำโฆษณาทางการตลาด หรือความเชื่อต่าง ๆ ก็ดี ทำให้ยอดขายของเคสมือถือบางรูปแบบมีเพิ่มมากขึ้นจากตลาดของคนกลุ่มหนึ่งมีความเชื่อนั่นเอง

4. ปกป้องมือถือให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโทรศัพท์นั้นมีเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มือถือตกรุ่นค่อนข้างไว สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนมือถือ แล้วต้องการขายเครื่องเก่าทิ้ง หากมีการใส่เคสมือถืออยู่เป็นประจำแล้วล่ะก็ รับรองว่าสภาพมือถือนั้นมีราคาขายต่อดีกว่าไม่ใส่เคสแน่นอน

5. เป็นแบตสำรองยามฉุกเฉิน

เคสมือถือบางยี่ห้อ สามารถใช้ต่อกับมือถือ เป็นแบตสำรองยามฉุกเฉินใช้ในตัวได้อีกด้วย

สาเหตุอะไรที่ทำให้คนบางกลุ่มไม่นิยมใส่เคสโทรศัพท์

เคสใส่โทรศัพท์ กับคนบางกลุ่มอาจจะมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องซื้อหามาไว้สำหรับการใช้งาน เนื่องจากมีความคิดเห็นดังต่อไปนี้

1.บางคนมองว่าการใส่เคสให้กับมือถือนั้น ทำให้ความสวยงามของโทรศัพท์เครื่องโปรดลดน้อยลง

2.บางคนมองว่าการใส่เคสทำให้การใช้งานไม่คล่องตัวเหมือนก่อน เนื่องจากตัวเครื่องมีความหนาเพิ่มมากขึ้น ทำให้อาจจะทำให้โทรศัพท์มือถือมีความใหญ่เทอะทะมากเกินไป

3.บางคนมั่นใจกับพฤติกรรมการใช้งานของตนเอง ว่าเป็นคนที่ค่อนข้างใช้มือถืออย่างทะนุถนอม ทำให้ไม่เห็นความจำเป็นของการใส่เคสแต่อย่างใด

4.บางคนอาจไม่ได้ใส่ใจกับโทรศัพท์มือถือมากนัก คือคิดว่ามีไว้เพื่อใช้งานอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาอะไรมากมาย เพราะเมื่อถึงเวลาหนึ่ง ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้งานเครื่องใหม่นั่นเอง

5.บางคนมองว่าการซื้อเคสเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะลองได้ซื้อสักครั้งหนึ่งแล้ว ก็อาจจะมีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ที่สี่ ตามมาอีกก็เป็นได้

แม้จะมีคนบางกลุ่มที่มองว่า เคสใส่โทรศัพท์ เป็นเรื่องไม่จำเป็นมากมายอะไรนัก แต่เชื่อเถอะว่าประโยชน์ของเคสมีมากกว่าที่คุณคิดอย่างแน่นอน การซื้อเคสอสักหนึ่งอัน หากเลือกซื้อเคสที่ทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพดีมากเพียงพอ ถึงแม้จะมีราคาที่ค่อนข้างแพง แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพและระยะเวลาในการใช้งานที่ยาวนาน โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเคสบ่อย ๆ ก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน