
หากพูดถึง ราคามือถือของพวกรุ่นเรือธงในปีนี้ บอกเลยว่าราคาของหลาย ๆ แบรนด์ทะยานไปใกล้จะแตะ 40,000 บาทเข้าทุกที และบางแบรนด์ก็ทะลุไปแล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นการจะควักกระเป๋าซื้อทั้งทีก็จะต้องพิจารณาเลือกกันให้ถี่ถ้วนสักหน่อย ซึ่งวันนี้เราได้นำสมาร์ทโฟน 2 รุ่นท็อปที่มีราคาใกล้เคียงกัน และถูกถามเข้ามาเป็นอย่างมาก จากหลายคนอย่าง note 10 ราคา ของ Samsung Galaxy Note 10 Plus และ iPhone XS Max มาเปรียบเทียบให้ดูว่า มีจุดไหนที่ควรใช้พิจารณาว่าควรจะซื้อรุ่นไหนดี เพื่อช่วยเพื่อน ๆ ตัดสินใจง่ายขึ้น (หวังว่านะ 🤗)
หมายเหตุ เนื้อหาบางส่วนผู้เขียนเรียบเรียงมาจาก วิดีโอเปรียบเทียบของช่อง ZONEofTECH บน Youtube
ตารางเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy Note 10 Plus vs iPhone XS Max
Samsung
|
Apple |
|
ราคา | 37,900 บาท / 40,500 บาท | 43,900 บาท |
บอดี้เครื่อง กว้าวxยาวxหนา | 162.3 x 77.2 x 7.9 มม. | 157.5 x 77.4 x 7.7 มม. |
การโทร | 2 ซิม Hybrid Slot (nano + microSD) | 2 ซิม (nano + eSim) |
น้ำหนัก | 196 กรัม | 208 กรัม |
หน้าจอ | เจาะรูตรงกลาง กว้าง 6.8 นิ้ว 1440 x 3040px 498 ppi อัตราส่วนพื้นที่หน้าจอ 91% รองรับ HDR10+ | รอยบากตรงหน้าจอ กว้าง 6.5 นิ้ว 1242 x 2688px 458 ppi พื้นที่หน้าจอ 84% รองรับ HDR10 , Dolby Vision |
ชิปประมวลผล | Exynos 9825 7nm | Apple Bionic A12 7nm |
Ram | 12 GB | 4 GB |
ความจุเริ่มต้น | 256 GB / 512 GB | 64GB / 256GB / 512GB |
กล้องหลัง | 4 ตัว
|
2 ตัว
|
กล้องหน้า | เลนส์มุมกว้าง 10 MP, f/2.2, 26mm (wide), 1.22µm, Dual Pixel PDAF + โหมดกลางคืน | เลนส์ 7 MP, f/2.2, 32mm |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (2.4/5GHz) Bluetooth 5.0 | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz) Bluetooth 5.0 |
ความปลอดภัย | สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ + สแกนใบหน้า | สแกนใบหน้า FaceID |
แบตเตอรี่+การชาร์จ | 4,300 mAh ชาร์จไว 25W 30 นาที 64% (รองรับสูงสุด 45W แต่ต้องอแดปเตอร์ซื้อเพิ่ม) |
3,174 mAh ชาร์จ 5W 30 นาที 18% (รองรับ PD Charge 18W 50% ใน 30 นาที) |
กันน้ำกันฝุ่น | IP68 | |
คะแนน Geekbench |
รูปลักษณ์ภายนอก ดีไซน์ การจับวาง
iPhone XS Max
เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูพรีเมียมแบบบอกไม่ถูก ตัวเครื่องด้านหลังมีให้เลือก 3 สีคือ สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ และสีทองที่ผู้เขียนชอบเป็นการส่วนตัว (สวยมาก) ใช้วัสดุเป็นกระจก ขอบจอของไอโฟนรุ่นนี้ทำมาจากสแตนเลสสุดทนทานที่วาววับให้อารมณ์ความหรูหราสมราคาเครื่อง ในส่วนของการหยิบจับหากใช้งานนาน ๆ ด้วยมือเดียวอาจจะเป็นปัญหานิดนึง เนื่องจากตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนัก และการจะลากนิ้วไปให้ทั่วจออาจจะทำได้ไม่สะดวกเท่าไหร่
Galaxy Note 10 Plus
ใครไม่ชอบความเหลี่ยม อาจจะแวะไปที่หัวข้ออื่นก่อนแล้วค่อยแว้บกลับมา เพราะว่าบอดี้ของโน้ต 10 มีความเหลี่ยมหนักมาก แต่ถ้าใครไม่วอรี่ Note 10 Plus เรื่องดีไซน์เค้าก็มีจุดเด่นอยู่เหมือนกัน ทั้งเรื่องตัวเครื่องที่บางดูบางกว่า Xs Max เพราะความโค้งด้านข้างของทั้งจอและฝาหลัง (แต่จริง ๆ หนากว่า 0.2 มิลลิเมตรนะ) โดยบอดี้จะมีทั้งหมด 3 สีคือ สีขาว สีดำ และสี Aura Glow ที่ใช้ลูกเล่นไล่สีตามแสงตกกระทบคล้ายด้านหลังของแผ่นซีดี ส่วนเรื่องการจับวาง ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ค่อนข้างยาวถึง 16 ซม. และหนัก 196 กรัม หากใช้งานนาน ๆ อาจจะเจอปัญหาเดียวกับ Xs Max คือมือล้า หรือแทบจะกวาดนิ้วได้ไม่ทั่วจอ ถ้าไม่เปิดโหมด One-Handed เช่นเดียวกัน
พาร์ทนี้การตัดสินใจอยู่ที่ความชอบส่วนตัวล้วน ๆ ว่าตัวคุณเองชอบดีไซน์เครื่องแบบไหน สีอะไร ส่วนตัวมองว่าสุดท้ายแล้วเราก็ซื่อเคสมาใส่อยู่ดี แต่สิ่งที่ต้องเอามาพิจารณาหนัก ๆ คือการถือใช้งานซึ่งทั้งสองรุ่นมีปัญหาเดียวกันในเรื่องขนาดตัวเครื่องที่ค่อนข้างใหญ่และมีน้ำหนัก ซึ่งสิ่งที่ช่วยฟันธงในแมทช์นี้ได้คือการไปลองถือใช้งานที่ช้อปหรือศูนย์บริการเพื่อเปรียบเทียบกันจ้า

หน้าจอ
iPhone XS Max
หน้าจอไซส์บิ๊กขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1242 x 2688 พิกเซล เรียกว่าใหญ่สุดที่ Apple เคยทำมา ใช้หน้าจอแบบ OLED Super Retina HD แสดงผลคมชัดสีตรงแบบ Wide color gamut อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ True-Tone เข้ามาช่วยในเรื่องการปรับไวบาลานซ์บนหน้าจอให้ตรงกับสภาพแสง ณ ตอนนั้นด้วย รองรับการแสดงผล HDR และ Dolby Vision
Galaxy Note 10 Plus
Xs Max ก็ว่าใหญ่แล้ว Note 10+ ล่อไปถึง 6.8 นิ้วกันเลย มาพร้อมดีไซน์หน้าจอแบบ Cinematic Infinity-O-Display หรือเรียกง่าย ๆ ว่ามีรูกล้องหน้าที่บริเวณบนหน้าจอ สีตรงคมชัดยืนยันด้วยคะแนนระดับ A+ ที่ความละเอียด 1440 x 3040 พิกเซล และจะครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 6 ที่ทนทานที่สุดบนสมาร์ทโฟนตอนนี้ อย่างไรก็ตามถึงจะทนทานขนาดไหนแต่ถ้าตกก็มีโอกาสแตกได้เหมือนมือถือรุ่นอื่น ๆ นะ
ที่ถ้าชอบจอใหญ่ ๆ แนะนำให้ไป Note 10 เลยจ้า เพราะว่าแม้ตัวเครื่องจะใหญ่กว่ากันไม่มาก แต่พื้นที่แสดงผลระหว่าง 6.5 นิ้วและ 6.8 นิ้วต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลย ส่วนใครที่ซีเรียสเรื่องสี เรื่องความคมชัด
สเปคกล้อง
iPhone XS Max
กล้องหน้าแบบ True Depth กับความละเอียด 7 ล้านพิกเซลถือว่าไม่ธรรมดากับรูรับแสง F/2.2 และฟีเจอร์ Dot Projector ซึ่งรองรับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) เรียกว่าทำได้ดีทีเดียว สำหรับกล้องตัวหลักด้านหลัง เป็นแบบกล้องคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง F/1.8 และ F/2.4 ถ่ายภาพแบบ Live Photos ได้อย่างดี มีโหมด Portrait ที่สามารถช่วยปรับระดับความเบลอและการจัดแสงแบบต่าง ๆ ในภายหลังได้ อีกทั้งยังระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ Dual-OIS ด้วย
Galaxy Note 10 Plus
ถ้าเป็นเรื่องกล้องนาทีนี้ Galaxy Note 10 Plus กินขาดแน่นอน ด้วยคะแนน DxoMarks ครองแชมป์อันดับ 1 กล้องถ่ายรูปบนมือถือที่ดีที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ แต่ถ้าไม่แคร์เรื่องคะแนนเหล่านั้น การที่ Note 10+ มีลูกเล่นของกล้องที่ทำอะไรได้เยอะกว่ามาก ทั้งเลนส์มุมกว้าง 120 องศา การถ่ายวิดีโอแบบเบลอหลังได้ การถ่ายภาพแสงน้อยด้วยโหมดกลางคืน หรือการใช้ S-pen เป็นรีโมทชัตเตอร์ เป็นต้น ก็เป็นตัวการันตีถึงความได้เปรียบแล้วล่ะ ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่า iPhone จะทำได้แย่นะ ถ้าเป็นการถ่ายภาพทั่วไปที่ตัดลูกเล่นเหล่านี้ออก บอกเลยว่า XS Max ก็ไม่ได้มีอะไรด้อยไปกว่ากันเลย
ชิปประมวลผล
iPhone XS Max
ใช้ชิปประมวลผลเป็น Apple A12 Bionic เป็นชิปรุ่นล่าสุด แบบ 6 แกนประมวลผล (Hexa-Core) แบบ 7nm ซึ่งแรงแซงทางโค้งไปถึงอนาคตเลย เพราะว่าจะผลทดสอบการประมวลผลปรากฎว่าทำได้อย่างโดดเด่นเหนือมือถือกว่า Note 10 อ้างอิงจากคะแนน Benchmark และได้รับการตอบรับจากบรรดาเกมเมอร์หลายคนว่าเป็นมือถือเล่นเกมที่ดีที่สุด
Galaxy Note 10 Plus
จะใช้ชิปประมวลผลเป็น Exynos 9825 ที่เป็นชิปขนาด 7nm และ RAM ถึง 12 GB เรื่องความเร็วความแรงไม่ต้องพูดถึง จะใช้งานหนักแบบไหนก็ลื่นไหลแบบไม่ต้องสืบ อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อน ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานโดยที่เครื่องไม่ร้อนมาก อย่างไรก็ตามจากการทดสอบของผู้ใช้จำนวนหนึ่ง ดูเหมือนว่า iPhone XS Max จะรีดเร้นพลังการประมวลผลภาพออกมาได้ดีกว่า ดังนั้นหากคุณเป็นสายเกมจ๋า ต้องการทัชแม่น ทัชไว เฟรมเรทนิ่ง ๆ iPhone จะตอบโจทย์กว่าจ้า (ผลทดสอบเกม PUBG ณ ปัจจุบัน สิงหาคม 2562)
ระบบปฏิบัติการ
iPhone XS Max
มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 12 ซึ่งสามารถไปต่ออัพเดต iOS 13 ที่จะปล่อยในช่วงเดือนกันยายน 2562 นี้ได้อย่างแน่นอน และอย่างที่รู้กันว่า iOS เป็นระบบที่มีความสเถียรสูง การออกแบบ UX/UI (หน้าตาด้าน) เรียบง่าย มีความปลอดภัยสูง เกิดปัญหาน้อย และมีความลื่นไหลมาก ด้วยเหตุนี้มันเลยหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายคนซื้อ iPhone มากกว่า Android
Galaxy Note 10 Plus
มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9.0 ที่ได้ไปต่อใน Android Q (10.0) แน่นอน ครอบด้วย Samsung One UI ที่มีการปรับแต่งหน้าตาให้ใช้ง่ายขึ้น และมีเอฟเฟกต์การสลับแอปพลิเคชันที่คล่องตัว โดยรวมการใช้งานไม่แพ้ iOS 12 เลยล่ะ
ความจุ + หน่วยความจำ
iPhone XS Max
มีให้เลือกความจุ 3 รุ่นแบบจัดเต็มตั้งแต่ 64GB, 256GB, 512GB ส่วน RAM 4GB
Galaxy Note 10 Plus
ด้วยความจุเริ่มต้นที่มีมาให้เยอะกว่า Xs Max ถึง 4 เท่ากันไปเลยที่ 256GB แบบ UFS 3.0 (เป็นชนิดของความจุตัวเครื่องที่เร็วสุดและใหม่ล่าสุดบนมือถือแอนดรอยด์) เลยทำให้สิ่งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ใช้ตัดสินใจในการซื้อมาใช้งานได้เหมือนกันนะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ แอปพลิเคชั่น การถ่ายวิดีโอ หรือการถ่ายรูป มันมีไฟล์ขนาดที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้นโน้ตสิบพลัสยังสามารถเพิ่มการ์ดความจำได้สูงสุดถึง 1 TB
ข้อสังเกต หากเทียบในราคาที่เท่ากัน iPhone XS Max 64 GB ราคา 43,900 บาท เพื่อน ๆ สามารถซื้อ Note 10+ รุ่นความจุสูงสุด 512GB (ราคา 40,500 บาท) และซื้อการ์ด microSD แบบเร็วที่สุดในตอนนี้เพิ่มอีก 256 GB (2,580 บาท) เอามาใส่ได้อีก 1 ชิ้นเลยด้วย!!

แบตเตอรี่
iPhone XS Max
ให้มาน้อยแต่ร้อยคุณภาพจริง ๆ กับปริมาณแบตเตอรี่มาขนาด 3,179 mAh ที่ดูเหมือนจะน้อยมาก ๆ แต่ด้วยการจัดการพลังงานของระบบ iOS ผสานกับชิปประมวลผล A12 ทำให้มันอึดทนทายาดชนิดที่สมาร์ทโฟนแบต 4,000 mAh มีอาย รองรับการชาร์จแบบไร้สายมาตรฐาน Qi Wireless Charging อีกทั้งไอโฟนรุ่นนี้ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว Power Delivery (PD Charge) ที่สามารถชาร์จไฟ 50% ภายใน 30 นาทีได้ด้วย แต่!! ต้องซื้ออุปกรณ์แยก ทั้งสาย Lighting to Type C และ อแดปเตอร์ 18W ซึ่งรวม ๆ ค่าอุปกรณ์เสริมก็จะต้องเจ็บตัวอีกประมาณ 1,880 บาท กันเลยทีเดียวแหละ
samsung galaxy note 10 Plus
ปริมาณแบตเตอรี่ที่ให้มาจะอยู่ที่ 4,300 mAh เรียกได้ว่าเหลือกินเหลือใช้ตลอดทั้งวัน และเป็นปริมาณที่สูงกว่าความจุเยอะกว่าไอโฟนพอสมควรเลย โดยจากการทดสอบของช่องยูทูป Gadgets Portal พบว่ามันอึดมาก เล่น PUBG 3 ชั่วโมง ลดไป 30% เท่านั้นเอง ในขณะที่ Xs Max ลดไปถึง 40% นอกจากนี้ตัวเครื่องรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Super Fast Charge 45W! การชาร์จไร้สายความเร็วสูง Reverse Charge ชาร์จไวให้คนอื่น แต่สิ่งที่อยากกดโกรธให้คือ ภายในกล่องไม่แถมอแดปเตอร์ชาร์จไฟ 45W มาให้จ้า! อยากได้ต้องซื้อแยก ซึ่งในกล่องจะแถมมาให้เฉพาะอแดปเตอร์ชาร์จไฟแบบ 25W เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นในเวลา 30 นาทีก็ชาร์จไฟได้ 0 – 64%
ราคามือถือ
iPhone XS Max
ตอนเปิดราคามาก็ตะลึงอยู่พักนึงเหมือนกันโดยจะมีทั้งหมด 3 รุ่นความจุได้แก่ 64GB 256GB และสูงสุด 512 GB
- รุ่นความจุ 64 GB ราคา 43,900 บาท
- รุ่นความจุ 256 GB ราคา 49,900 บาท
- รุ่นความจุ 512 GB ราคา 57,900 บาท
โดยหากซื้อติดโปรกับ Dtac จะได้ราคาดีที่สุดอยู่ที่ 29,600 ติดสัญญา 1 ปี กับแพ็คเกจ 1,499 บาท จ่ายล่วงหน้า 3,500 บาท จ้า
Galaxy Note 10 Plus
สำหรับ Note 10+ จะมาในความจุ 2 ขนาด คือ 256GB และ 512 GB และมีราคาอย่างเป็นทางการในไทยดังนี้
- สำหรับรุ่นความจุ 256 GB ราคาจะอยู่ที่ 32,900 บาท
- สำหรับรุ่นความจุ 512 GB ราคาจะอยู่ที่ 40,500 บาท
แต่ถ้าซื้อแบบติดโปรแพงสุดอาจจะได้ส่วนลดเพิ่มอีกถึง 16,000 บาทกันเลยทีเดียวโดยราคาถูกสุดจะอยู่ที่ 20,900 เมื่อซื้อกับ AIS ติดโปร 1,549 บาท จ่ายล่วงหน้า 5,500 บาท พร้อมย้ายค่ายเบอร์เดิม
ราคามือถือ เรือธงทั้งสองค่ายระหว่าง Galaxy Note 10 Plus กับ iPhone XS Max ถือว่าแรงไม่เบาทั้งคู่ แต่เมื่อดูจากสเปคที่เรานำมาเทียบให้ดูแล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะตัดสินใจเลือกเก็บไว้ในใจได้แล้วแน่ ๆ แต่ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้จริง ๆ แนะนำให้ลองไปเล่น ลองใช้งานในศูนย์ดูก่อน เพราะบางครั้งต่อให้อ่านรีวิวเยอะขนาดไหน ความคิดของคุณอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็เป็นได้เมื่อลองใช้จากตัวเครื่องจริง แต่ถ้าใครที่มีงบจำกัดตอนนี้ราคา iPhone ปรับลงค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น iPhone 8, iPhone X, iPhone 7 ลองดูราคาโปรของรุ่นเก่า ก่อนตัดสินใจื้อกันได้เน้อ