หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า กล้อง Olympus จะผลิตแบบ full frame หรือไม่

กล้อง Olympus จะผลิตแบบ full frame หรือไม่

1136

เซนเซอร์รับภาพของกล้องดิจิทัลในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด มีชื่อที่พอคุ้นหูกันอยู่บ้าง เช่น Full Frame (FF) APS-C และ m4/3 ซึ่งแบบหลังนี้เป็นแบบที่พบใน กล้อง Olympus มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 จนถึงปัจจุบัน โดยระบบ m 4/3 เป็นระบบที่ บริษัท โอลิมปัส พัฒนาร่วมกับพานาโซนิคและปล่อยออกสู่ตลาดเมื่อปี 2008 ทำให้มีเลนส์และกล้องหลายชนิดที่ใช้ด้วยกันได้เพราะเป็นระบบเดียวกัน ซึ่งเซนเซอร์ที่ใช้ในระบบ m4/3 จะมีขนาดเล็กว่าเซนเซอร์แบบ APS-C และ FF โดยในอดีต FF จะใช้ในกล้องดิจิทัลแบบ DSLR เท่านั้น แต่ต่อมาก็มีบางแบรนด์นำมาใช้กับกล้อง Mirrorless มากขึ้น และเนื่องจากได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลาย ๆ แบรนด์จึงหันไปพัฒนากล้องระบบ FF ซึ่งตอนนี้เหลือแต่โอลิมปัสที่ยังคงไม่ได้ก้าวเข้าไปเล่นตลาดนี้ เลยมีคำถามตามมาเรื่อย ๆ ว่าแล้วโอลิมปัสจะผลิตกล้อง FF บ้างหรือไม่ มาหาคำตอบนี้ไปพร้อมกัน

 

Olympus

กล้อง Olympus จะผลิตกล้อง FF บ้างหรือไม่

เซนเซอร์รับภาพเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญที่จะส่งผลต่อคุณภาพของภาพ โดยเซนเซอร์ที่ใช้มีหลายแบบ แต่ก่อนอื่น เราควรทำความรู้จักกับแต่ละชนิดของเซนเซอร์ แบบเบื้องต้นกันก่อนเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น โดยชนิดแรกที่ใช้เป็นตัวอ้างอิงกันบ่อย ๆ คือ Full Frame (FF) ที่เรียกตามยุคของกล้องฟิล์ม ซึ่งขนาดของเซนเซอร์ FF จะเท่ากับแผ่นฟิล์ม 35 มม. 1 แผ่น โดยมีขนาด 36×24 มม. เซนเซอร์ชนิดอื่น ๆ ก็จะมีขนาดเล็กลงไป โดย APS-C จะเล็กกว่า FF 1.5-1.6 เท่าแล้วแต่แบรนด์ และ m4/3 จะมีขนาดเล็กกว่า FF อยู่ 2 เท่า ซึ่งกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดเล็กกว่า FF นี้เรียกกันว่ากล้องตัวคูณ โดยระยะภาพที่ได้จากกล้องที่มีเซนเซอร์เล็กกว่า FF ต้องนำค่าทางยาวโฟกัสของเลนส์มาคูณกับขนาดเท่าที่เซนเซอร์นั้นเล็กกว่า FF จึงเรียกกันว่ากล้องตัวคูณ ภาพที่ได้จากกล้อง FF จะได้มุมมองที่กว้างที่สุดในบรรดาเซนเซอร์ที่นิยมใช้กันในท้องตลาด เซนเซอร์ชนิดอื่นที่มีขนาดเล็กลงก็จะมีมุมมองภาพแคบลงตามไปด้วย

 

กล้อง-Olympus-พร้อมเลนส์

 

ทั้งกล้องแบบ FF และกล้องตัวคูณก็มีคุณสมบัติเด่นแตกต่างกันไป โดยกรณีที่ใช้เลนส์แบบเดียวกันกล้อง FF จะให้มุมมองภาพที่กว้างกว่า มีความละเอียดมากกว่า การเกิดจุดรบกวนน้อยกว่า จุดพิกเซลรับแสงได้มากขึ้นจึงถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ทำให้เกิดภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอหรือที่เรียกว่าชัดตื้นได้มากกว่า ส่วนกล้องตัวคูณจะมีจุดเด่นที่กล้องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่า ภาพได้ที่มีความชัดลึกมากกว่า รวมถึงมีราคาถูกกว่ากล้อง FF ด้วย

 

จนถึงปัจจุบันนี้ทางผู้ผลิต กล้อง Olympus ยังไม่มีแนวคิดที่จะผลิตกล้อง FF เพราะด้วยเซนเซอร์ FF ที่มีขนาดใหญ่ เมื่อใส่มาในกล้อง mirrorless ก็ไม่ได้ทำให้ขนาดกล้องเล็กกว่า DSLR มากนัก ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นความเป็นเอกลักษณ์ของโอลิมปัสที่เป็นกล้องคุณภาพสูงแต่มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ก็จะหายไปด้วย และถ้าผลิตกล้อง FF เลนส์ที่ใช้ในระบบ m4/3 ก็จะใช้ไม่ได้ ทำให้ใครที่เปลี่ยนระบบมาใช้ FF ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนเพื่อซื้อกล้องและเลนส์อีกรอบ และเนื่องจากการที่กลุ่มผู้ใช้กล้องระบบ m4/3 เดิม เปลี่ยนไปใช้ กล้องระบบ FF มากขึ้น หลาย ๆ แบรนด์ก็เห็นความสำคัญจึงมาทำตลาดในส่วนของกล้อง FF นี้ ทำให้โอลิมปัสที่ยังคงยึดแนวคิดเดิมที่ต้องการอยู่ในระบบ m4/3 จึงต้องหาจุดขายเพื่อดึงกลุ่มผู้ใช้กลับมา โดยได้ออกกล้องตัวท็อปรุ่นล่าสุดอย่าง OM-D E-M1X มาและได้สร้างแรงดึงดูดให้กับเหล่าช่างภาพได้อย่างมากมาย

 

กล้อง-Olympus

 

โดยกล้อง OM-D E-M1X เป็นกล้องสำหรับช่างภาพสายแนวผจญภัยถ่ายสัตว์ป่า หรือช่างภาพสายกีฬาที่ต้องถ่ายวัตถุที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว พัฒนามาจาก E-M1 Mark II แต่ไม่ได้ถือว่าเป็นรุ่นต่อจากกัน เพราะมีจุดเด่นคนละแนวกัน โดยมีความละเอียดสูงสุด 20.4 ล้านพิกเซล ระบบปฏิบัติการ TruePic VIII image สองตัวที่จะช่วยให้ประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น สามารถถ่ายภาพติดต่อกันได้สูงสุด 18 ภาพ/วินาที ในแบบติดตามวัตถุต่อเนื่อง และ 60 ภาพ/วินาที เมื่อล็อกออโต้โฟกัส (AF) มี Gyro sensor แบบใหม่ ที่จะทำให้ระบบกันสั่นนิ่งมากขึ้น มี AI Focus ที่เป็นระบบโฟกัสอัจฉริยะ โดยสามารถล็อกวัตถุที่ต้องการโฟกัสได้และติดตามวัตถุได้อย่างแม่นยำ เหมาะกับการถ่ายภาพที่วัตถุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถปรับจุดโฟกัสให้ใหม่ไม่ว่าจะเลือกถ่ายแนวตั้งหรือแนวนอนได้อีกด้วย และยังมีจุดเด่นด้านอื่น ๆ อีกมากที่สายลุยห้ามพลาด

 

ถึงแม้กล้องระบบ m4/3 อย่าง กล้องโอลิมปัสจะมีความแตกต่างจากกล้องระบบ FF แต่หากใครยังชอบในจุดเด่นของ m4/3 อยู่ก็ไม่ต้องกลัวว่าโอลิมปัสจะหยุดพัฒนาในระบบนี้ เชื่อได้ว่าในอนาคตต้องได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมาดึงดูดความสนใจของผู้ใช้อีกแน่นอน