ยุคนี้ไปเที่ยวไหนก็ต้องไม่ลืมที่จะถ่ายรูปสวย ๆ มาแชร์ให้กับเพื่อน ๆ ได้เห็นกัน ซึ่งแม้ว่ากล้องในสมาร์ทโฟนสมัยนี้มันจะล้ำเวอร์มาก ๆ แต่ในบางก็กรณีมันก็ยังมีข้อจำกัดที่ทำไม่ได้อยู่ เลยทำให้ กล้องดิจิตอล ยังเป็นสิ่งจำเป็นในการไปออกทริปต่าง ๆ จะเรียกว่า ของมันต้องมีก็ไปผิด แต่เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า คืออะไร และมันทำงานอย่างไร สำคัญแค่ไหน แล้วจะเลือกซื้ออย่างไร อย่ารอช้าอยู่ใย ไปดูคำตอบกันเลย
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับเจ้ากล้องแบบดิจิตอลกันก่อนเลยดีกว่าครับ ว่าความหมายจริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่ แล้วแตกต่างจากกล้องฟิล์มในอดีตอย่างไรบ้าง
กล้องดิจิตอล คืออะไร
กล้องถ่ายรูปที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้บนระบบไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบนั่นเอง ซึ่งในอดีตกล้องฟิล์มนั้นแทบจะไม่ใช่ระบบไฟฟ้าใด ๆ เลย ยกเว้นกล้องฟิล์มในยุคหลัง ที่เริ่มจะต้องใช้ถ่าน หรือแบตเตอรี่ ในการทำให้ระบบกลไก หรือการวัดแสงทำงานได้ แต่สำหรับกล้องแบบดิจิตอลนั้น แค่ใส่แบตเตอรี่ก็เป็นอันใช้งานได้ทุกระบบ
ความแตกต่างระหว่างกล้องแบบดิจิตอลกับกล้องฟิล์ม
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างกล้องแบบดิจิตอลกับกล้องฟิล์มก็คือ ระบบการบันทึกภาพ ที่กล้องฟิล์มนั้นจะใช้การบันทึกภาพลงบนม้วนฟิล์ม และฟิล์มแต่ละยี่ห้อ และแต่ละรุ่นก็ให้โทนสีที่แตกต่างกัน แต่ในส่วนของกล้องดิจิตอลนั้น เพื่อน ๆ สามารถที่จะเลือกใช้ฟิลเตอร์ที่มีมาให้กับกล้อง เพื่อปรับสีของภาพได้ในตัว แต่หากไม่ต้องการใช้ไฟล์ภาพที่ได้ก็จะแตกต่างกันตามคุณภาพของเลนส์ และกล้องแต่ละรุ่นด้วย ทั้งนี้การบันทึกภาพบนระบบดิจิตอลนั้น จะบันทึกลงบน SD card ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถนำไปเปิดดูบนคอมพิวเตอร์ได้และปรับแต่งผ่านโปรแกรมต่าง ๆ ได้
ตั้งค่า ISO ในกล้องถ่ายรูปอย่างไรให้ภาพออกมาสวย
- การปรับตั้งค่า ISO นั้น มาพร้อมกับการใช้งานที่เต็มระบบ ไม่ว่าจะต้องการปรับค่า ISO ในสถานการณ์ที่ต้องการความสว่างก็ทำได้ทันที ซึ่งปัจจุบันก็สามารถที่จะดัน ISO ไปได้ถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว แต่ในกล้องฟิล์มนั้น จะต้องเปลี่ยนฟิล์มไปตามค่า ISO เพื่อใช้ในช่วงเวลาที่ต้องถ่ายในที่มืดนั่นเอง
- สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ชัดเจนระหว่างกล้องแบบดิจิตอลกับกล้องฟิล์มก็คือ จอ LCD ที่อยู่ด้านหลังของกล้อง ซึ่งความสำคัญของจอนี้ก็คือ คอยช่วยแสดงค่าต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ รวมทั้งยังใช้เปิดดูรูปภาพที่ถ่ายอีกด้วยครับ
เมื่อทราบถึงความแตกต่างของกล้องแบบดิจิตอลกับกล้องฟิล์มแล้ว คราวนี้ลองมาทำความรู้จักกับชนิดต่างๆ ของกล้องกันบ้างครับ
ประเภทของกล้อง Digital มีอะไรบ้าง มาดูกัน
กล้อง DSLR
กล้อง DSLR นั้นย่อมาจาก Digital Single-lens reflex ซึ่งถูกพัฒนาต่อยอดมาจากกล้องฟิล์ม SLR โดยกล้อง DSLR ก็ยังคงใช้ระบบของกระจกสะท้อนแสงจากเลนส์สืปริซึมกระโหลกอยู่นั่นเอง และเพื่อน ๆ สามารถมองเห็นตัวอย่างของภาพได้จากช่องมองภาพ ซึ่งภาพจะถูกบันทึกเมื่อมีการกดชัตเตอร์ลงเรียบร้อยแล้ว สำหรับกล้อง DSLR นั้นส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมากเมื่อประกอบเข้ากับเลนส์แล้ว กล้อง DSLR นั้นจะค่อนข้างเหมาะสำหรับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ในการถ่ายภาพมาบ้างแล้ว รวมทั้งช่างภาพระดับมืออาชีพ ซึ่งกล้อง DSLR นั้นจะมีขอบเขตของสี และไฟล์ภาพที่มีขนาดใหญ่ เหมาะต่อการนำไปผ่านกระบวนการปรับแต่งเป็นอย่างยิ่ง
กล้อง Mirrorless
เป็นกล้องที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากมีการทำดีไซน์ที่ออกมาดูสวยงาม ขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวกสบาย อีกทั้ง ยังสามารถมองเห็นผลลัพธ์ของภาพได้ทั้งจากช่องมองภาพ และจอ LCD ที่ด้านหลังเลยทีเดียว ซึ่งข้อแตกต่างของกล้องมิลเลอร์เลสกับ DSLR ก็คือการมองเห็นภาพจริง ๆ ได้ก่อนกดชัตเตอร์ เพราะเพื่อน ๆ สามารถมองเห็นได้เลยว่า ค่าแสงและค่าสปีดชัตเตอร์ที่ตั้งค่าไว้ จะให้ผลลัพธ์อย่างไรบ้าง ทำให้กล้องชนิดนี้ได้รับความนิยมมากสำหรับมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพเลยทีเดียว
กล้อง Compact
กล้องอีกหนึ่งชนิด คือเจ้ากล้องคอมแพคนั้น จะเน้นความสะดวกในการพกพา ด้วยขนาดที่เล็กกว่าทั้ง DSLR และ Mirrorless แถมน้ำหนักก็เบากว่ามาก ที่สำคัญคือระบบการทำงาน ทุกการตั้งค่าสามารถปรับได้ไม่ต่างจากกล้องทั้งสองชนิดแรกเลยละครับ แต่กล้องคอมแพคนั้นก็ยังมีข้อเสียเปรียบอยู่บ้างในเรื่องของระยะในการถ่ายภาพ เพราะถึงแม้ว่าจะมาพร้อมเลนส์ที่ครอบคลุมในทุกระยะ แต่ในการถ่ายภาพที่ต้องใช้การซูมมาก ๆ อาจส่งผลให้ความละเอียดของภาพลดลงได้ และค่า F ที่แปรเปลี่ยนไปก็ยังเป็นข้อจำกัดในเรื่องนี้ด้วย โดยทั่วไปแล้วมักจะพกพาเป็นกล้องสำรอง เน้นถ่ายเร็ว และหยิบออกมาเล็งได้ง่าย หรือที่เรียกกันว่า Point and Shoot นั่นเองครับ
มาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ คงจะเริ่มเข้าใจถึงประเภท และตัดสินใจในการเลือกซื้อกันได้ง่ายขึ้นแล้ว โดยสิ่งที่สำคัญในการพิจารณาซื้อกล้องก็คือ “งบประมาณ” นั่นเองครับ ลองมาดูกันดีกว่า งบประมาณเท่าไรเหมาะกับการซื้อกล้องแบบไหนบ้าง
เปรียบเทียบราคากล้องในช่วงต่างๆ
งบ 5,000 – 10,000 บาท
สำหรับงบประมาณในช่วงราคานี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกล้องประเภทคอมแพค และมิลเลอร์เลสบางรุ่น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่อยากลองสร้างความคุ้นเคยกับการปรับตั้งค่าของกล้องให้มากยิ่งขึ้น โดยกล้องมิลเลอร์เลสที่น่าสนใจก็มีอย่าง Canon EOS M10 และ Nikon Coolpix A900 ที่ให้ภาพที่มีความคมชัด และการใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากเกินไป
งบ 10,000 – 20,000 บาท
ขยับขึ้นมาอีกช่วงราคาหนึ่ง สำหรับคนที่เริ่มเข้าใจในการใช้งานกล้องกันแล้ว โดยช่วงราคานี้ เพื่อน ๆ สามารถซื้อกล้องได้ระดับกล้องจนถึงกึ่งโปรเลยทีเดียว โดยเราก็ได้คัดมาให้เพือน ๆ ถึงสามรุ่นด้วยกัน คือ Fujifilm X-T20 กล้องมิลเลอร์เลสดีไซน์สวย และได้ภาพที่คมชัดสวยงาม, Nikon D5300 กล้อง DSLR ที่เหมาะสำหรับการใช้ถ่ายภาพท่องเที่ยว หรือใช้เรียนก็ได้งานคุณภาพที่ยอดเยี่ยม กล้อง Canon PowerShot G9X กล้องคอมแพคคุณภาพสูง ที่จะใช้ถ่ายให้ภาพสวยจริงจังก็เยี่ยม หรือจะใช้เป็นกล้องสำรองในวันที่อยากแบกกล้องหนัก ๆ ก็ได้อีกเหมือนกัน
งบตั้งแต่ 20,000 บาท ขึ้นไป
สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีงบตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไป แนะนำว่าต้องมีความเข้าใจในการใช้งานกล้องในระดับหนึ่งแล้ว เพราะกล้องที่มีราคาสูง และอยู่ในเกรดโปรนั้น ฟังก์ชั่นในการใช้งานจะค่อนข้างยากกว่ากล้องในเกรดของมือสมัครเล่น ซึ่งหากเพื่อน ๆ ต้องการใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้น แนะนำว่าต้องทำความเข้าใจในการใช้งานกันสักหน่อยก็จะได้กล้องที่ตอบโจทย์ และคุ้มค่าแน่นอน
สรุปเลือกซื้ออย่างไรสำหรับมือใหม่
ก่อนจะจบบทความนี้เราก็มีคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการซื้อ กล้องดิจิตอล ให้ถูกใจ นั้นก็คือ การได้ไปลองจับ ลองสัมผัสกล้องจริง ๆ รวมทั้งการลองเทสระบบการถ่าย การตั้งค่า และฟิลเตอร์สีต่าง ๆ ที่มีอยู่ในกล้อง เพื่อจะได้เลือกกล้องที่ถูกใจมากที่สุด และตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุดนั่นเอง ที่สำคัญคือการพกพา และการหยิบออกมาใช้งานต้องสบายไม่เป็นอุปสรรคด้วยนะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
