หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า ช่องฟรีซตู้เย็น 2 ประตู มีขนาดเยอะกว่าประตูเดียวมั้ย

ช่องฟรีซตู้เย็น 2 ประตู มีขนาดเยอะกว่าประตูเดียวมั้ย

ขนาดช่องฟรีซ ในตู้เย็น 2 ประตู ขึ้นอยู่กับการดีไซน์ของแต่ละยี่ห้อ ไม่มีการกำหนดตายตัว ผู้ใช้ควรเลือกซื้อตามลักษณะการใช้งาน

3990

ตู้เย็น 2 ประตู กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น จากหลายครอบครัว เนื่องจากขนาดที่กำลังพอดีและตอบโจทย์กับจำนวนสมาชิกในบ้าน และมีจุดสำคัญหนึ่งอย่างที่โดดเด่นกว่า ตู้เย็น 1 ประตู นั่นก็คือ ส่วนของ ช่องฟรีซ หรือ ช่องแช่แข็ง ที่มีการแบ่งแยกออกมาจากช่องแช่เย็นอย่างเป็นสัดเป็นส่วน ทำให้ง่ายและสะดวกในการใช้งาน รวมไปถึงการควบคุมความเย็นให้คงที่ แต่ก็มีหลายคนที่ยังคงเกิดคำถามสงสัย ว่าการเลือกตู้เย็นแต่ละแบบนั้น หากจะโฟกัสเฉพาะในเรื่องของช่องแช่แข็งควรจะเลือกตู้เย็นที่มีขนาดและพื้นที่ในช่องแช่แข็งอย่างไร มีขนาดเท่าไหร่ถึงจะดี เรามีคำตอบในเรื่องนี้มาให้

ช่องฟรีซจะกว้างหรือแคบก็อยู่ที่ขนาดของตู้เย็น 2 ประตู

หลายคนจะซื้อตู้เย็น 2 ประตูโดยจะเน้นการแช่น้ำแข็งหรือไอศกรีม ก็มักจะมีความต้องการตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งขนาดใหญ่ เพื่อที่จะได้แช่ของได้มากขึ้นตามต้องการ ซึ่งขนาดพื้นที่ในช่องแช่แข็ง ก็จะขึ้นอยู่กับความจุและขนาดของตู้เย็นนั่นเอง แน่นอนเลยว่า ช่องแช่แข็งของตู้เย็นแบบ 2 ประตูนั้นจะต้องใหญ่กว่าและกว้างกว่าแบบ 1 ประตู เพราะโดยมากตู้เย็นแบบ 2 ประตูนั้นจะมีขนาดและความจุที่มากกว่าตู้เย็นแบบ 1 ประตูอยู่แล้ว แต่ช่องแช่แข็งของตู้เย็นแบบ 2 ประตูก็จะเล็กและมีพื้นที่น้อยกว่า ถ้านำไปเทียบกับตู้เย็นหลายประตูที่มักเป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ตั้งแต่ 9 คิวขึ้นไป

freezer ช่องฟรีซ ตู้เย็น 2 ประตูอย่างถ้าเป็นตู้เย็นแบบ 2 ประตูขนาด 6.5 คิว กับตู้เย็นประตูเดียว 5.9 คิว แบบนี้แบบ 2 ประตูก็มักจะมีช่องแช่แข็งที่กว้างกว่า แต่จะกว้างกว่ามากหรือไม่ก็อยู่ที่ดีไซน์ออกแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์ บางรุ่นอาจจะเน้นพื้นที่ในส่วนของการแช่เย็นมากกว่าแช่แข็งก็จะดีไซน์ให้ขยายพื้นที่ออกไปทางส่วนของการแช่เย็นเพิ่มขึ้น ช่องแช่แข็งก็ใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อย นั่นหมายความว่าขนาดความกว้างและพื้นที่ของช่องแช่แข็งนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดของตู้เย็นนั่นเอง

ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ขนาด แต่อยู่ที่ฟังก์ชันการใช้งาน

เรื่องของการเลือกช่องแช่แข็งนั้น อันที่จริงแล้วความสำคัญเรื่องพื้นที่ใน ช่องฟรีซ อาจเป็นปัจจัยรองเท่านั้น แต่ปัจจัยหลักที่ควรให้ความสำคัญจริง ๆ นั่นก็คือ เรื่องฟังก์ชันการใช้งานของช่องแช่แข็งต่างหาก เช่น เรื่องของการทำละลายน้ำแข็ง และเรื่องตำแหน่งของช่องแช่แข็ง เป็นต้น

ในส่วนของการทำละลายนั้นโดยปกติแล้ว ตู้เย็นแบบ 2 ประตูจะมีระบบ NO FORST หรือทำละลายน้ำแข็งอัตโนมัติกันอยู่แล้ว ข้อดีของฟังก์ชันนี้ในตู้เย็นสองประตู คือช่องแช่แข็งจะไม่มีน้ำแข็งมาเกาะเลย หรือเกาะน้อยมาก สร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน แต่ก็ต้องแลกมากับการกินไฟเพิ่มขึ้นด้วยเล็กน้อย หลายบ้านที่สมาชิกในบ้านไม่เยอะและอาจไม่ค่อยอยู่บ้านจึงตัดสินใจซื้อเป็นตู้เย็น 1 ประตูก็ด้วยเหตุผลนี้ด้วย ดังนั้นจุดนี้จึงเป็นจุดที่ต้องพิจารณาด้วย

freezer-ช่องฟรีซ-ตู้เย็น-2-ประตู-No-frost-ทำละลายน้ำแข็งอีกหนึ่งเรื่องก็คือ ตำแหน่งของช่องแช่แข็ง ตู้เย็นในปัจจุบันจะมีการออกแบบมาให้มีช่องแช่แข็งที่อยู่ทั้งด้านบนและด้านล่าง ซึ่งก็จะมีความแตกต่างในด้านการใช้งานอยู่บ้าง บางคนอาจจะรู้สึกว่าการที่มีช่องแช่แข็งอยู่ด้านล่างก็สะดวกกว่า เพราะโดยปกติไม่ค่อยเน้นการใช้ช่องแช่แข็งเน้นไปที่ช่องแช่เย็น การที่ช่องแช่แข็งไปอยู่ด้านล่างจึงทำให้เวลาเปิดตู้เย็นแล้วหยิบจับค้นหาสิ่งของในตู้เย็นได้สะดวกกว่า ตรงนี้จึงเป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาด้วยเวลาจะเลือกซื้อ

freezer-ช่องฟรีซ-ตู้เย็น-2-ประตู-ด้านบน-ด้านล่างแนะนำ 5 รุ่น ตู้เย็นแบบ 2 ประตูที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ No Frost จากยี่ห้อดังที่ดีที่สุด ขนาดความจุ 7 – 13 คิว

Sharp SJ-X230T-SL ขนาด 7.9 คิว
✔ เช็คราคาดีที่สุด 7,490 บาท
Samsung RT20HAR1DSA ขนาด 7.4 คิว ✔ เช็คราคาดีที่สุด 7,490 บาท
Mitsubishi MR-FV29M ขนาด 9.7 คิว ✔ เช็คราคาดีที่สุด 7,990 บาท
Panasonic NR-BT268S ขนาด 8.3 คิว ✔ เช็คราคาดีที่สุด 8,000 บาท
Hitachi R-V350PD ขนาด 12.4 คิว ✔ เช็คราคาดีที่สุด 11,490 บาท

 

ตู้เย็น 2 ประตู จะมีช่องแช่แข็งกว้างหรือแคบแค่ไหน จะมีพื้นที่มากขึ้นสำหรับการที่คุณจะแช่สิ่งของหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าคุณเลือก ขนาดตู้เย็น ความจุเท่าไหร่ ถ้าเลือกขนาดที่ใหญ่ขึ้นคุณก็จะมีพื้นที่ในการแช่สิ่งของที่มากขึ้น แต่ความสำคัญไม่ได้มีอยู่แค่เรื่องพื้นที่อย่างเดียว ยังมีเรื่องของการใช้พลังงาน และตำแหน่งเปิด-ปิดใช้งานก็มีความสำคัญเช่นกัน ถ้าคุณนำองค์ประกอบเหล่านี้ไปพิจารณาร่วมกัน เชื่อสิคุณก็จะได้ตู้เย็นที่มีช่องฟรีซที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณที่สุดและไม่สิ้นเปลืองพลังงานมากจนเกินไปด้วย