กระเป๋าถือที่ทำจากหนังเป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้สำหรับคุณผู้หญิงทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะไปแห่งหนใดการพกพาของใช้คู่ใจนี้ไปด้วยก็ทำให้มั่นใจมากกว่าการไปไหนมาไหนตัวเปล่าเป็นแน่ นอกจากข้อดีในการส่งเสริมความมั่นใจและบุคลิกภาพแล้วบางครั้งบางที ประโยชน์ของสิ่งเหล่านี้ก็มีมากกว่าที่เราคิดเสียอีก เช่น สามารถทำให้ผู้อื่นรู้ถึงฐานะทางสังคมของผู้ใช้ ผู้อื่นให้ความยำเกรง ได้รับการปฏิบัติอย่างมีมารยาท เป็นต้น ซึ่งนับว่าประโยชน์ทางอ้อมนี้ทำให้ของสิ่งนี้เป็นเครื่องใช้ที่มีเกียรติไม่ต่างจากการขับรถหรู เสื้อผ้า หรือเครื่องประดับแบรนด์เนมเลย
การดูแลความสะอาดกระเป๋าหนังแบบต่างๆ
เมื่อมีการใช้งานเป็นประจำสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการดูแลความสะอาด แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เพียงใบที่ถูกใช้งานเป็นประจำเท่านั้น ของใช้ทุกชิ้นทุกใบที่มีอยู่ก็ควรหมั่นดูแลความสะอาดอยู่เสมอด้วยเช่นกัน เพราะหากไม่ได้รับการดูแลหรือดูแลไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือชำรุดก่อนเวลาอันควรอีกด้วย และนี่คือข้อแนะนำในการดูแลกระเป๋าหนังแท้แบบต่างๆ
หนังงู
เป็นหนังชนิดที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของความยากในการดูแลรักษา เพราะหนังงูค่อนข้างอ่อนไหว เปราะบาง จึงไม่เหมาะกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใดๆ เลย ทั้งยังไม่ควรทำความสะอาดด้วยตัวเอง ทางที่ดีคือใช้บริการของผู้เชี่ยวชาญในการความสะอาดจะถูกต้องที่สุด แถมหนังชนิดนี้ยังต้องนำไปเคลือบผิวเสมอ ดังนั้นจึงหลีกไม่พ้นการใช้บริการของผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว อีกข้อที่ควรเข้าใจสำหรับผู้หลงใหลหนังชนิดนี้คือ ควรทำใจไว้ก่อนเลยว่าหนังงูไม่เหมือนหนังชนิดอื่นๆ ตรงที่อาจจะมีการหดตัวเสียรูปทรงได้ตามกาลเวลา ไม่ว่าจะดูแลดีขนาดไหนก็ตาม
หนังวัว
หนังวัวเป็นหนังชนิดที่ดูแลง่าย ทนทาน สวยงาม น่าหลงไหลไม่แพ้หนังคุณภาพชนิดอื่นๆ เคล็ดไม่ลับในการรักษาหนังวัวให้สวยงามอยู่ได้ยาวนานนับสิบๆ ปี แค่เพียงดูแลให้หนังไม่แห้งเกินไปหนังก็จะไม่เกิดการแตกหรือเสื่อมสภาพ วิธีการดูแลก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลความสะอาดหนังวัวโดยเฉพาะ ซึ่งมีจำหน่ายทั่วไปมาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้หนังชนิดนี้คงความสวยงามเหมือนของใหม่อยู่เสมอเลยทีเดียว
หนังจระเข้
หนังจระเข้เองก็เป็นหนังอีกชนิดที่มีความหรูหราทนทาน แถมการดูแลยังง่ายดายอีกด้วย หนังจรเข้ตรงกันข้ามกับหนังวัวเลย คือไม่ชอบน้ำ จึงไม่ควรเผอเรอวางโดนน้ำหรือสัมผัสกับความชื้นมาก เพราะจะทำให้หนังบวมและแตกได้ การดูแลหนังชนิดนี้นอกจากจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหนังจระเข้โดยเฉพาะ แล้วจึงควรพ่นสเปรย์กันน้ำเคลือบผิวป้องกันไว้ด้วย
หนังกลับ
หนังกลับเป็นหนังที่ให้ความรู้สึกดีเมื่อสัมผัส มีความสวยงาม และให้ความรู้สึกวัยรุ่นอยู่เสมอ แต่ก็เป็นขั้นสุดของชนิดหนังที่รักษายากด้วยเช่นกัน หนังกลับไม่ชอบความชื้น ไม่ถูกกับความร้อน ไม่ทนต่อการขีดข่วนเสียดสี จึงต้องใช้งานอย่างระมัดระวังแบบสุดๆ แต่ก็ยังมีข้อดีที่พอจะดูแลรักษาความสะอาดด้วยตัวเองได้ ด้วยการใช้สเปรย์เคลือบหนังกลับโดยเฉพาะ และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใดๆ มาเช็ดถูเองเมื่อหนังเปื้อนสิ่งสกปรก
หนังแก้ว
เป็นหนังสังเคราะห์ที่มีความสวยงามหรูหรา และดึงดูดความสนใจได้เสมอ นอกจากจะดูเหมือนของใหม่อยู่ตลอดแล้วหนังแก้วยังทำความสะอาดง่ายและประหยัดสุดๆ ไปเลย การทำความสะอาดหนังแก้วเพียงแค่ใช้น้ำส้มสายชูเจือจางและผ้าเนื้อละเอียดเช็ดทำความสะอาดอย่างเบามือ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกอีกที เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ผิวนอกของหนังดูเงางามไปได้อีกหลายปีเลยล่ะ
การทำความสะอาดในส่วนอื่นๆ
การทำความสะอาดในส่วนอื่นๆ นอกจากผิวนอกก็สำคัญเช่นกัน ชิ้นส่วนอย่างซิปควรใช้ครีมเอนกประสงค์หรือผลิตภัณฑ์ที่ให้ความลื่นโดยไม่ก่อให้เกิดคราบชโลมอยู่เสมอ ด้านในที่ส่วนใหญ่มักบุด้วยวัสดุอย่างผ้านั้นทำความสะอาดง่ายมาก เพียงแค่กลับด้านในออกมาปัดฝุ่นหรือดูดฝุ่นออกก็พอ ในส่วนของหูหรือสายสะพายหากเป็นโลหะให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์เช็ดทำความสะอาด ถ้าหากเป็นหนังชนิดเดียวกับตัวบอร์ดี้ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดเดียวกันได้เลย
4 เคล็ดลับในการทำความสะอาดกระเป๋าหนังด้วยวิธีง่ายๆ
การดูแลรักษาทำความสะอาดกระเป๋าหนังนั้นไม่ได้ยุ่งยากมากนัก วิธีง่ายๆ ทั่วไปแค่เราหาผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดที่พื้นผิวกระเป๋าหนัง ซักสองสามรอบ จากนั้นค่อยเช็ดด้านที่แห้งแล้วตามอีกรอบ โดยเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วๆ กระเป๋าก็จะดูสะอาดขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีวิธีการอื่นๆ สามารถทำความสะอาดหรือขจัดคราบสกปรกที่ไม่ยอมออกจากกระเป๋าหนังได้แบบง่ายๆ อีกด้วย ไปดูเคล็ดลับในการทำความสะอาดกระเป๋าหนังด้วยวิธีง่ายๆ ให้สวยเหมือนซื้อใหม่อยู่ตลอดกันเลยดีกว่า
1. การทำความสะอาดด้วยเบคกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพด
ส่วนใหญ่การทำความสะอาดด้วยเบคกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดนั้น จะใช้ทำความสะอาดคราบน้ำมันหรือคราบไขมันที่ติดบนกระเป๋าหนัง วิธีการทำความสะอาดให้โรยเบคกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดลงบนจุดที่เลอะก่อน แล้วจึงใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ถูเบาๆ ทิ้งไว้ซัก 2-3 ชั่วโมง เบคกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดจะเข้าไปดูดซับความมันออกมา ต่อจากนั้นจึงค่อยใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดคาบตามอีกที
2. การทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างเล็บหรือแอลกอฮอล์
วิธีนี้จะใช้ทำความสะอาดคราบหมึกและรอยขีดข่วน โดยการจุ่มสำลีลงในน้ำยาล้างเล็บหรือแอลกอฮอล์จากนั้นค่อยๆ ถูเบาๆ เพื่อให้คราบที่เลอะหลุดออก เสร็จแล้วให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดก่อน แล้วจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดตามอีกที
3. การทำความสะอาดด้วยครีมทำความสะอาดเอนกประสงค์
การใช้ครีมทำความสะอาดเอนกประสงค์ ทำความสะอาดกระเป๋าหนังนั้น ถือเป็นวิธีที่ดีมาก เพราะครีมทำความสะอาดเอนกประสงค์ จะทำให้กระเป๋าหนังดูเปล่งประกายเป็นเงา เพราะเนื้อครีมมีส่วนผสมของสารเคลือบรักษาหนัง ช่วยให้ฟื้นฟูสภาพหนังที่เก่าให้ดูใหม่ขึ้น
4. การทำความสะอาดด้วยน้ำมะนาวกับครีมทาร์ทาร์
การทำความสะอาดด้วยน้ำมะนาวกับครีมทาร์ทาร์ ควรใช้ในอัตราส่วน 1:1 ผสมเข้าด้วยกัน แล้วจึงนำไปทาตรงจุดที่ต้องการทำความสะอาด ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง แต่วิธีนี้แนะนำให้ใช้ทำความสะอาดกระเป๋าหนัง สีอ่อนๆ เพราะน้ำมะนาวกับครีมทาร์ทาร์มีฤทธิ์กัดอาจทำให้หนังสีซีดได้ จากนั้นค่อยใช้ผ้าสะอาดเช็ดตามอีกที
นอกจากจะดูแลรักษาอย่างดีแล้ว ก็ยังมีสิทธิ์ชำรุดเสียหายได้จากอุบัติเหตุหรือความไม่ตั้งใจต่างๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าเกิดตำหนิแล้วต้องทิ้งอย่างเดียว
ปัจจุบันนอกจากส่งให้สาขาของแบรนด์นั้นๆ ซ่อมแซมแล้ว ยังมีร้านซ่อมหนังซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการ ทั้งการซ่อมแซม รับทำความสะอาดด้วยวิธีที่ถูกต้อง และจำหน่ายอุปกรณ์รวมทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลเครื่องหนังอีกด้วย ดังนั้นผู้บริโภคหน้าใหม่ไม่ต้องกังวลเลย ว่าซื้อใบเก่งมาใช้แล้วจะดูแลรักษาให้สวยงามอยู่เสมอไม่ได้ อย่าลืมนำเคล็ดลับในการทำความสะอาดกระเป๋าหนังด้วยวิธีง่ายๆไปใช้กันด้วยนะ แล้วคุณจะรู้สึกว่ามีกระเป๋าใบใหม่ใช้ทุกวันเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
