พัดลม เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เชื่อว่าจะต้องมีกันทุกบ้าน เพราะเมืองไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนแทบตลอดทั้งปี เป็นตัวช่วยช่วยระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี แต่ประเภทของพัดลมไม่ได้มีแค่แบบตั้งโต๊ะที่เจอได้ตามบ้านหรอกนะ พวกมันยังมีให้เลือกหลายประเภท ทั้งแบบเล็ก ใหญ่ แบบไอน้ำ และอีกสารพัด บางคนถึงกับงงไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดีให้เหมาะสมกับบ้านและการใช้งาน ไม่เป็นไรจ้า วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประเภทต่าง ๆ กัน
ประเภทของพัดลม และการทำงาน
เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ที่วางขายในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 8 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะการทำงานและตำแหน่งในการติดตั้งของพวกมัน ได้แก่ แบบตั้งพื้น แบบตั้งโต๊ะ แบบแขวนผนัง แบบโคจร แบบทาวเวอร์ แบบไอน้ำ แบบมือถือ และแบบอุตสาหกรรม โดยแต่ละประเภทมีลักษณะและการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้
แบบตั้งโต๊ะ
เป็นประเภทที่นิยมใช้งานในบ้านมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมีขนาดเล็กและเคลื่อนย้ายสะดวก มีลักษณะเด่นคือ หน้าใบพัดกว้าง ลำตัวสั้น สามารถนำไปตั้งพื้นหรือตั้งบนเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพื่อใช้งานแบบเคลื่อนที่ได้ นอกจากนี้ยังมีแบบเคลื่อนที่ขนาดเล็กที่นิยมใช้ตามตลาดนัดกันด้วย ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับการใช้ประโยชน์แบบอเนกประสงค์
แบบตั้งพื้น
มีลักษณะที่คล้ายกับแบบตั้งโต๊ะ แต่จะออกแบบลำตัวมาให้ยาวขึ้น มีความแข็งแรงและทนทาน สามารถเลื่อนปรับระดับความสูงได้ เหมาะสำหรับการใช้งานอยู่กับที่ เช่น การตั้งไว้ข้างทีวี การตั้งไว้ในห้องนอน ฯลฯ
แบบแขวนผนัง
ใช้สำหรับแขวนติดกับผนัง หมุนได้ 180 องศา มีหน้ากว้าง ลำตัวสั้น ออกแบบมาให้มีสายดึงยาวสำหรับเปิด – ปิด และเลือกเบอร์ที่ต้องการ ใช้ระบายอากาศภายในบ้านได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านและสถานที่ทั่วไป เช่น ห้องครัว ห้องรับแขก ฯลฯ
แบบโคจร หรือแบบติดเพดาน
จุดเด่นคือ สามารถหมุนได้ 360 มีลักษณะที่คล้ายกับแบบแขวนผนัง แต่จะใช้ติดเพดานไปเลย นิยมใช้งานในพื้นที่โล่งกว้าง เช่น โรงพยาบาล ห้องประชุม ห้องโถง โรงอาหาร ร้านอาหาร ห้องเรียน ฯลฯ
แบบทาวเวอร์
มีลักษณะสูงและแคบเหมือนทาวเวอร์ ทำงานโดยไม่ใช้ใบพัด สามารถหมุนซ้าย – ขวา และปรับความแรงได้หลายระดับ ให้ความเย็นแบบเป็นธรรมชาติ ข้อดีคือ ไม่กินพื้นที่และใช้พื้นที่น้อย เหมาะสำหรับการใช้งานแบบอเนกประสงค์
แบบไอน้ำ และไอเย็น
ทำงานโดยใช้ไอน้ำในการให้ความเย็น ให้ความเย็นได้ดีกว่าแบบทั่วไป โดยความเย็นที่ได้จะมีลักษณะเป็นละลองน้ำเล็ก ๆ ให้ลมเย็นที่ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่โล่งกว้าง เช่น ห้องนั่งเล่น ฯลฯ เพื่อให้ไอน้ำระบายออกได้ ไม่เหมาะสำหรับใช้งานในห้องนอน เพราะจะทำให้เกิดความชื้น หรือหากใช้ควรเปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อช่วยระบายความชื้น นอกจากนี้ยังมีแบบไอเย็น ที่ใช้หลักการเอาความร้อนในอากาศที่ระเหยออกมาไปสู่แผ่นทำความเย็น แล้วปล่อยอากาศเย็นออกมา สามารถทำให้ห้องมีอุณหภูมิลดลงได้สูงสุด 10 องศาเลยทีเดียว แม้ว่าน่าตาอาจจะคล้ายกันแต่หลักการทำงานไม่เหมือนกันเด้อ อย่าสับสนน้า
แบบมือถือ หรือแบบ USB
มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการพกติดตัวเพื่อเพิ่มความเย็น ทำงานโดยใช้ถ่าน หรือแบตเตอรี่ ชาร์จแบตโดยใช้สาย USB การชาร์จหนึ่งครั้งสามารถใช้งานได้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
แบบอุตสาหกรรม
มีขนาดใหญ่และให้ความเย็นได้มากกว่าแบบทั่วไปหลายเท่า นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในโอกาสต่าง ๆ ที่มีคนจำนวนมาก เช่น ห้องประชุม วัด ฯลฯ
การดูแลรักษาและการทำความสะอาด
เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ควรหมั่นความสะอาดอยู่เสมอ หรือประมาณเดือนละ 1 ครั้ง เพราะนอกจากจะทำหน้าที่ให้ความเย็นและยังเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองต่าง ๆ เนื่องจากมีการดูดอากาศกลับเข้าไป ทำให้ฝุ่นละออง ขนสัตว์ ใยผ้า หรือเศษผงอื่น ๆ เข้าไปติดในใบพัดและตะแกรงได้ ทำให้เกิดการจับตัวกันขึ้นจนสกปรก หากไม่ทำความสะอาดอาจทำให้เกิดภูมิแพ้หรือรู้สึกไอ จาม คัดจมูกเวลาที่เปิดใช้งานได้ เพราะลมที่ถูกส่งออกมาจะพัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ติดอยู่ตรงตะแกรงออกมาหาเราได้
การทำความสะอาดทำได้ง่ายและใครก็สามารถทำได้ เพียงถอดส่วนประกอบต่าง ๆ ออกมาล้าง ได้แก่ ตะแกรงคลุม ใบพัด ตะแกรงหลัง และฝาปิดมอเตอร์ โดยนำมาล้างด้วยแปรงขนอ่อนและเช็ดให้แห้ง นำไปผึ่งลมหรือแดดให้แห้งสนิทก่อนประกอบ เพื่อไม่ให้มีไอน้ำหรือละอองน้ำเข้าไปในมอเตอร์ หรือใช้ไดร์เป่าก็ได้เช่นกัน จากนั้นใช้ผ้าสะอาดเช็ดที่ลำตัวและปุ่มกด เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงนำมาประกอบให้แน่นก่อนใช้งาน เท่านี้ก็จะช่วยให้เย็นขึ้นและมีสุขอนามัยที่ดีขึ้นได้แล้ว ส่วนในการถอดอุปกรณ์หรือการทำความสะอาดควรถอดปลั๊กออกก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
พัดลม เป็นของใช้ในบ้านที่เราใช้งานกันบ่อยหรือใช้แทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ การทำความสะอาดและการเลือกซื้อจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ควรเลือกขนาดที่เหมาะกับการใช้งานและสมาชิกในบ้าน เพราะแบบที่มีหน้ากว้างจะให้ความเย็นได้มากกว่า เพื่อประโยชน์การใช้งานอย่างคุ้มค่า
