
รองเท้า Converse เชื่อได้ว่าเป็นรองเท้าที่มีเอกลักษณ์คือสัญลักษณ์รูปดาวห้าแฉก เป็นรองเท้าผ้าใบที่หลาย ๆ บ้านต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคู่ หรือหากที่บ้านใครไม่มีก็ต้องเคยเห็นผ่านตาเป็นแน่ เพราะเป็นรองเท้าที่มีประวัติยาวนานมากว่าร้อยปี ซึ่งเป็นที่นิยมไม่ใช่เฉพาะในประเทศต้นกำเนิดอย่างสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังแพร่ผ่านวัฒนธรรมไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยวันนี้เราจะมาทำความรู้จัก Converse All star กับ Chuck Taylors ที่เป็นรุ่นที่มีประวัติมาอย่างยาวนานกัน มาดูกันว่าสองรุ่นนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร
รองเท้า Converse All star
เป็นชื่อรุ่นของรองเท้าสำหรับนักกีฬาบาสเกตบอล ที่ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1917 โดยบริษัท Converse Rubber Shoe ซึ่งมี Marquise Mills Converse เป็นผู้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1908 โดยตัวรองเท้าทำจากผ้าแคนวาสและพื้นรองเท้าเป็นยาง โดยได้มีการโฆษณาคุณสมบัติไว้ว่า รองเท้ารุ่นนี้ประกอบด้วยผ้าที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการเคลื่อนไหวของนักกีฬา และพื้นรองเท้าที่ทำด้วยยางก็มีน้ำหนักเบา ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาบาสเกตบอลขณะนั้นเป็นอย่างมาก
รองเท้า Converse Chuck Taylors
รวมถึง Charles Hollis “Chuck” Taylor (Chuck Taylors) นักกีฬาบาสเกตบอลชื่อดังชาวอเมริกัน ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนา Converse All star หลังจากนั้นด้วย ซึ่งในขณะนั้นโลโก้บริเวณส่วนที่หุ้มข้อเท้ายังเป็นแบบเดิมอยู่ ไม่ใช่แบบที่เห็นในปัจจุบัน
โดยในปี ค.ศ.1921 Chuck Taylors ได้รับตำแหน่งเป็นตัวแทนประชาสัมพันธ์รองเท้ารุ่นนี้ และเขาได้เสนอไอเดียในการปรับปรุงให้รองเท้ามีความเหมาะสมสำหรับนักกีฬาบาสเกตบอลมากขึ้นให้กับทางบริษัท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่มีมาจนถึงปัจจุบันที่เห็นได้ชัดคือ การเพิ่มรูระบายอากาศที่มีลักษณะเหมือนรูสำหรับผูกเชือกรองเท้าบริเวณด้านข้างของรองเท้า เพื่อให้นักกีฬาไม่รู้สึกอึดอัดเวลาที่สวมรองเท้าเป็นเวลานาน รวมถึงเปลี่ยนโลโก้จากแบบเดิมเป็นรูปดาวห้าแฉกที่มีคำว่า Converse All star ด้วย และเพราะการออกแบบจากผู้ใช้จริงจึงทำให้รองเท้ารุ่นนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเวลาต่อมา
นอกจากประชาสัมพันธ์โดยการที่เขาจะใส่ Converse All star ทุกครั้งที่ลงแข่งแล้ว ยังเป็นผู้สนับสนุนรองเท้าให้กับผู้เล่นบาสเกตบอลระดับโรงเรียนที่เขาจัดขึ้นในอีกหลาย ๆ ที่ด้วย และยังมีนักบาสเกตบอลชื่อดังอีกหลายคนที่ให้การยอมรับในรองเท้ารุ่นนี้ รวมทั้งถูกใช้เป็นรองเท้าสำหรับแข่งกีฬาโอลิมปิกและสำหรับให้ทหารอเมริกันใช้ในการฝึกกีฬาในช่วงปี ค.ศ.1940 อีกด้วย ส่งผลให้เป็นที่นิยมกันมากขึ้น ด้วยความชื่นชอบที่เพิ่มขึ้นอย่างล้นหลามจนทำให้มียอดขายถล่มถลายนี้เอง
ทางบริษัทจึงได้เพิ่มลายเซ็นของ Chuck Taylors ในโลโก้รูปดาวห้าแฉก และเปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น Chuck Taylor All star เพื่อเป็นเกียรติให้กับเขาด้วย และยิ่งเพิ่มความนิยมในหมู่วัยรุ่นเมื่อมีบรรดาศิลปินในวงการเพลงที่มีแนวคิดนอกกระแส นำรองเท้าผ้าใบรุ่นนี้มาใส่ขึ้นเวทีแทนรองเท้าหนังที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้น จึงทำให้เหล่าแฟนคลับที่ติดตามวงเหล่านั้นชื่นชอบและไปหามาใส่ตาม ทำให้รองเท้ารุ่นนี้ขยายความนิยมจากกลุ่มนักกีฬามาสู่คนทั่วไปในวงกว้างมากขึ้น
ในปัจจุบันหากจะพูดถึง Converse All star กับ Chuck Taylors ก็จะเรียกว่าเป็นรุ่น Chuck Taylor All Star ซึ่งมีรุ่นย่อย ๆ อีกจำนวนหลายรุ่น โดยมีทั้งแบบทรงสูงปิดข้อเท้าแบบดั้งเดิมและทรงแบบรองเท้าทั่วไปที่ไม่หุ้มข้อ ถ้านับจากช่วงแรกที่ Chuck Taylors เริ่มมีส่วนในการผลิตรองเท้ารุ่นนี้ก็ประมาณร้อยปีได้แล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอาจจะเจอกระแสยอดขายตกไปบ้างตามสถานการณ์ที่มีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น จนบริษัทเดิมล้มละลาย และ Nike ได้เข้ามาซื้อกิจการและดำเนินการต่อเมื่อปี ค.ศ.2003
แต่ด้วยความที่มีจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์และเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าไป ทำให้รองเท้ารุ่นนี้ยังสามารถครองใจวัยรุ่นได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับนักออกแบบชื่อดังออกมาเป็นรุ่นต่าง ๆ ซึ่งเปลี่ยนลวดลายแบบเดิม ๆ จึงทำให้ดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้นได้
รู้แบบนี้แล้วใครที่มี รองเท้า Converse อยู่ก็คงจะอดภูมิใจไม่ได้ที่ได้เป็นเจ้าของรองเท้าที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน แต่หากใครยังไม่มีไว้ครอบครอง ถ้าวันไหนเดินผ่านร้านอย่าลืมเดินเข้าไปเลือกซื้อดู เพราะไม่แน่คุณอาจจะเป็นอีกคนที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ไปกับรองเท้ารุ่นนี้ก็เป็นได้